ขู่จัดหนักนโยบายรบ. ‘ก้าวไกล’ติวเข้ม30ขุนพล/สภาไฟเขียวอภิปราย11-12ก.ย.

สภาไฟเขียว! แถลงนโยบายรัฐบาล 11-12 ก.ย.นี้ ใช้เวลา 2 วัน รวม 30 ชั่วโมง “วันนอร์” ไม่กังวลม็อบ แนะให้ดูถ่ายทอดสด "ก้าวไกล" ยันอภิปรายนโยบายล้วนไม่มีซักฟอก เตรียม 30 ขุนพลเข้าค่ายติวเข้ม 9-10 ก.ย. เน้นซักถามนโยบายที่หาเสียงก่อนเลือกตั้งครอบคลุมทุกมิติ ชี้นโยบายหลายเรื่องคลุมเครือไม่ชัดเจน "อดิศร" เบรกฝ่ายค้านใจเย็นๆ อย่าเพิ่งฮึกเหิม ใช้เวทีแถลงนโยบายเป็นเวทีซักฟอกให้รออีก 4-5 เดือน ปัดตั้งองครักษ์ "ภูมิธรรม" ลั่นนโยบายที่หาเสียงรับปากไว้จะทำให้ได้ ไม่ผิดสัญญาประชาชน "เศรษฐา" มั่นใจให้ตรวจสอบ

ที่รัฐสภา วันที่ 7 กันยายน ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วม 3  ฝ่าย (วิป 3 ฝ่าย) ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม และมีตัวแทนจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.), สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  (สส.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) อาทิ นายสมคิด เชื้อคง ตัวแทน ครม., นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.), นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย (ภท.), นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.), นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก., นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ และประธาน สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.), นายมหรรณพ เดชพิทักษ์ สว. เป็นต้น เพื่อวางกรอบเวลาการอภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา และแบ่งสัดส่วนเวลาของแต่ละฝ่าย ซึ่งใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ให้สัมภาษณ์ว่า บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นผ่อนปรนไปมาเพื่อให้การประชุมเรียบร้อย  โดยการประชุมเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 ก.ย.นี้ จะใช้เวลา 2 วัน รวมทั้งสิ้น 30 ชั่วโมง แบ่งเป็นประธานรัฐสภา 1 ชั่วโมง ฝ่าย ครม.แถลงและชี้แจง 5 ชั่วโมง ฝ่ายสว. 5 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 5 ชั่วโมง ฝ่ายค้าน 14 ชั่วโมง คิดว่าคงเพียงพอในการที่ทุกฝ่ายจะปรับเวลาที่ชัดเจนให้ตามจำนวนคน คาดว่าคงไม่เกินในเวลาที่กำหนดไว้ 

นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า คาดว่าในวันแรกอาจจะเลิกประชุมดึก แต่คงไม่เกินเที่ยงคืน และวันที่สองคงไม่เกิน 23.00 น. แม้บางฝ่ายจะบอกว่าไม่อยากให้เกิน 21.00 น. แต่เพื่อให้การอภิปรายในวันถัดมามีคุณภาพมากขึ้น และความสนใจของพี่น้องประชาชน รวมถึง ครม. แจ้งว่าในวันที่ 13 ก.ย.66 จะมีการประชุม ครม.ทุกฝ่าย จึงบอกว่าจะกลับไปเตรียมทั้งตัวบุคคลและเนื้อหาสาระให้ดี เพื่อให้เป็นประโยชน์มากที่สุด

เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงฝ่ายค้านหรือไม่ เนื่องจากฝ่ายค้านอยากใช้เวทีนี้ในการซักฟอกรัฐบาล นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านยืนยันเองว่าจะอยู่ในกรอบของการอภิปรายเรื่องนโยบายและความเป็นไปได้ในการปฏิบัติตามนโยบายนั้น แต่ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ คิดว่าฝ่ายค้านตอนนี้เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ มีข้อมูลพร้อมที่จะอภิปรายในกรอบกฎหมายและข้อบังคับ รวมถึงความสนใจของพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า การรักษาความปลอดภัยในวันนั้น จะเป็นไปตามกฎระเบียบ หรือต้องมีการรักษาความปลอดภัยเข้มที่เป็นพิเศษหรือไม่ เนื่องจากอาจจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาในบางวัน ประธานสภาฯ กล่าวว่า คิดว่าคงไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุม หรือมีการกดดันสภา เพราะพี่น้องประชาชนติดตามการประชุมตลอดเวลา ผ่านการถ่ายทอดสดในหลายช่องทาง เนื่องจากทุกฝ่ายคงอยากให้การอภิปรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีคุณภาพ ไม่มีแรงกดดันใดๆ นอกจากเนื้อหาที่จะพูดอย่างเต็มที่ หากมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาที่สภาคงไม่เกิดประโยชน์อะไร

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรค กก. กล่าวภายหลังการประชุมว่า ผลการประชุมวันนี้เป็นไปได้ด้วยดี ราบรื่น และเป็นบรรยากาศฉันมิตร ทุกคนคุยกันอย่างสอดคล้อง ถึงจะไม่ตรงกับความต้องการของฝ่ายค้านทั้งหมด แต่ถือว่าเป็นการประชุมที่น่าพอใจ โดยจะจัดให้แถลงนโยบายและสอบถาม 2 วัน และพยายามที่จะไม่ให้เลิกดึกจนเกินไป เนื่องจากวันที่ 13 ก.ย.เป็นวันประชุม ครม. สรุปฝ่ายค้านได้เวลา 14 ชม., สว. 5 ชม.,  สส.ของพรรคร่วมรัฐบาล 5 ชม. และของครม.ในการตอบคำถามอีก 5 ชม.

เมื่อถามว่า มีไม้เด็ดอะไรที่จะมางัดนโยบายของ ครม.ในเบื้องต้น นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ไม่ใช่ไม้เด็ดอะไร เพราะการแถลงนโยบายเป็นวาระที่สำคัญมาก ซึ่งเป็นการให้คำสัญญากับประชาชนว่า 4 ปีหลังจากนี้รัฐบาลชุดนี้จะผลักดันประเทศไปข้างหน้าในด้านต่างๆ อย่างไร ซึ่งความสำคัญที่พรรค ก.ก.จะให้ คือการสอบถามในเรื่องนโยบายต่างๆ การตั้งข้อสงสัย รวมถึงการให้ข้อเสนอแนะว่าการผลักดันนโยบายในอีก 4 ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ไปในทิศทางไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม การเมือง แน่นอนว่าสิ่งที่เราต้องทำคือทวงถามคำสัญญาที่พรรคร่วมรัฐบาลที่ให้ไว้ก่อนการเลือกตั้ง โดยได้มีการเตรียมคนอภิปรายไว้เรียบร้อยแล้ว

ติวเข้ม 30 ขุนพลถล่มนโยบาย

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับพรรคปชป.แล้วหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เมื่อสักครู่ได้คุยกับนายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธาน สส.ปชป. ซึ่งได้ข้อตกลงเบื้องต้นคร่าวๆ แต่ยังไม่มีการสรุป ต้องให้นายประมวลไปคุยกับ สส.ในพรรคก่อน คาดว่าในช่วงบ่ายวันที่ 7 ก.ย.จะมีการพูดคุยกันอีกรอบ

เมื่อถามว่า มีนโยบายไหนของรัฐบาลที่พรรค ก.ก.จะเน้นอภิปราย นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เราให้ความสำคัญของแต่ละเรื่องใกล้เคียงกัน หากพูดเรื่องหลักๆ คือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคแกนนำรัฐบาลให้สัญญาไว้ก่อนเลือกตั้ง ด้านสังคมมีเรื่องสมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า  การยกเลิกเกณฑ์ทหาร ส่วนด้านเศรษฐกิจ เราต้องทวงถามว่าในรายละเอียดแต่ละนโยบายจะดำเนินอย่างไร  และผลในระยะยาวจะเป็นอย่างไร 

เมื่อถามว่า ฝ่ายรัฐบาลระบุว่าไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า แน่นอน เห็นจากสมัยที่แล้วพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลเราไม่ได้จะมาฟาดฟันหรือจะมาอะไรกัน  ทุกวาระ วาระนโยบายประชาชนจะได้ประโยชน์มาก หาก ครม.ได้ตอบคำถามของพรรคร่วมฝ่ายค้านได้อย่างชัดเจน ก็จะเป็นการเรียกความเชื่อมั่นของสังคมและประชาชนในการเริ่มต้นรัฐบาล

ด้านนายวิโรจน์กล่าวว่า เข้าใจว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เพิ่งเป็นนายกฯ ครั้งแรก ทีนี้ก็เลยว้าวุ่นเลย แต่ก็เอาสบายๆ เพราะเป็นการเริ่มต้น เริ่มต้นด้วยความมั่นใจดีกว่า  อย่าเริ่มต้นด้วยความกลัว ส่วนกังวลที่อาจจะมีการจัดองครักษ์พิทักษ์นายกฯ นั้น จะตั้งทำไม ตอบตรงไปตรงมาก็จบแล้ว ส่วนคาดหวังหรือไม่ว่า ครม.จะมานั่งฟังการอภิปราย เราต้องคาดหวังอยู่แล้ว ในฐานะ ส.ส.

เมื่อถามว่า นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พท. ระบุว่าพรรค ก.ก.อย่าเพิ่งฮึกเหิมจนเกินไป นายวิโรจน์กล่าวว่า “เราก็ตามเนื้อหาอยู่แล้ว ทำไมฝากเยอะ กลัวหรือเปล่า อย่าเพิ่งกลัวเลย นายเศรษฐาเพิ่งจะเป็นนายกฯ ครั้งแรก และเพิ่งจะมาร่วมกับลุงด้วย ทีนี้ก็เลยว้าวุ่นเลย อย่าว้าวุ่นนะครับ มีสมาธิดีกว่า แล้วเดี๋ยวเจอกันวันที่ 11 ก.ย.นี้”

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค ก.ก. กล่าวว่า พรรคก.ก.จัดผู้อภิปรายไว้ 30 คน แต่น่าเสียดายที่อภิปรายแค่ 2 วัน หากเป็น 3 วันจะชัดเจนลงลึกได้มากขึ้น พรรคจะพยายามพูดให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง โดยที่ไม่มีการพุ่งเป้าไปที่ด้านใดด้านหนึ่ง แต่จะตั้งข้อสังเกตว่านโยบายที่ออกมาสะท้อนเนื้อแท้รัฐบาลชุดนี้อย่างไร เท่าที่เห็นตัวร่างนโยบายของรัฐบาล มีลักษณะเป็นคำกว้างๆ หลายเรื่องคลุมเครือชวนสงสัย มีไม่กี่กรณีที่เป็นรูปธรรมชัดเจน การอภิปรายจึงต้องถามถึงรายละเอียดในมาตรการนั้นๆ เพราะหลายมาตรการไม่มีตัวชี้วัดและกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน ซึ่งพรรค ก.ก.จะทำการบ้านเต็มที่ในเวลาที่มีอยู่

เมื่อถามว่า นโยบายรัฐบาลจะเป็นความหวังให้ประชาชนได้หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า เบื้องต้นเท่าที่อ่านค่อนข้างผิดหวังในคำแถลงนโยบาย แต่คงต้องให้โอกาสรัฐบาลใหม่ได้ทำงานจริงก่อน นโยบายที่พรรคแกนนำอย่างพรรคเพื่อไทยเคยพูดไว้ แต่ดูเหมือนบางส่วนหายไป และไม่เหมือนเดิม

เมื่อถามว่า สมการสลายความขัดแย้งจะมีพรรค ก.ก.หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า เราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการปรองดอง สลายขั้ว หรือจับขั้วกันใหม่ ซึ่งลักษณะทางการเมืองสะท้อนผ่านนโยบาย โดยจะเห็นว่ามีความตั้งใจใช้คำที่คลุมเครือ และมีความเกรงใจกันผ่านนโยบาย

 “แน่นอนว่าการแถลงนโยบายไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่การให้เวลา 2 วัน ถือว่าน้อยด้วยซ้ำ แต่ก็ยังดีกว่า 1 วัน ก็ต้องขอบคุณรัฐบาล ทั้งนี้ ทุกฝ่ายควรช่วยกันอ่านโดยละเอียด วิพากษ์วิจารณ์ตั้งคำถามได้ และหวังว่าฝ่ายรัฐบาลจะทำให้การอภิปรายราบรื่น” นายชัยธวัชกล่าว                  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 8-10 ก.ย.นี้ พรรคก้าวไกลได้นัดหมายติวเข้ม สส.ทุกคนที่จะขึ้นอภิปรายนโยบายของรัฐบาล โดยนายชัยธวัชกล่าวติดตลกว่า ต้องขออภัยครอบครัวของ สส.เหล่านั้นด้วย 3 วันนี้ถูกบังคับเข้าโรงเรียนประจำอยู่ที่พรรค

'อดิศร' เบรกกก.อย่าฮึกเหิม

นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ว่าที่ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า เป็นการอภิปรายนโยบายรัฐบาล ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเพียงการติชมนโยบายรัฐบาล  ส่วนที่พรรค ก.ก.กังวลว่ารัฐบาลจะรวบรัดให้เวลาวันเดียวนั้น ขออย่ากังวลมาก เพราะพวกตนก็กังวลเป็นเหมือนกัน เนื่องจากเคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อน จึงต้องการฟังกระจกเงาสะท้อนการทำงาน ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่านโยบายครั้งนี้กว้างไปนั้น ให้เป็นการแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม จะติชมอย่างไรก็ว่ากันไป เพราะรัฐบาลประชาธิปไตยต้องการกระจกเงา

เมื่อถามว่า ต้องเตรียมองครักษ์หรือเตรียมตั้งรับอย่างไร นายอดิศรกล่าวว่า คงไม่ต้องเตรียมอะไร เป็นการแถลงนโยบายเฉยๆ เพราะเรายังไม่ได้ทำอะไร  ส่วนจะใช้เวทีนี้เป็นการซักฟอกกลายๆ หรือไม่ คิดว่าคงมีบ้าง หากจะแวะเข้ามาในซอยบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ต้องรีบกลับขึ้นไปถนนหลวง ซึ่งการอภิปรายนโยบายบางคนอภิปรายโดยไม่มีประสบการณ์ คิดว่าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ขอให้รออีกสักหน่อย 4-5 เดือนค่อยว่ากัน แต่อาจจะมีล้ำเส้นบ้างเป็นธรรมดา ขอย้ำว่าหากการแถลงนโยบายเป็นไปตามรัฐธรรมนูญโดยเคร่งครัด แถลงเสร็จก็กลับบ้านได้เลย

 “ไม่ต้องรับ เพราะเป็นการแถลงนโยบายครั้งแรก ก็ฝากไปยังฝ่ายค้านว่าอย่าเพิ่งใจฮึกเหิมมาก เอาแต่เพียงพอดี ขอย้ำว่าไม่ต้องตั้งองครักษ์พิทักษ์ใคร เพราะส่วนสูงไม่ถึงนายกรัฐมนตรี ปวดคอ” นายอดิศรกล่าว

นายอดิศรกล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับอะไร ท่านให้อิสระ เพราะอยากให้สภาราบรื่น และนายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะมาตอบข้อซักถาม ขอให้สภาเป็นสภาของทุกฝ่าย ของพี่น้องประชาชน

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีพรรค ก.ก.ตั้งข้อสังเกตถึงนโยบายของพรรค พท.มีหลายเรื่องที่หาเสียงไว้ แต่ไม่ได้บรรจุไว้ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า ขอให้รอดูและฟังจากการแถลงนโยบาย วันนี้เข้าใจการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบ และเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่จะต้องอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจขั้นตอนต่างๆ และไม่กังวลหากจะพูดซักและจี้ถามในรัฐสภา  ถือเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเราอาสาเข้ามาทำงาน ก็ต้องพร้อมให้ถูกตรวจสอบ และถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ยืนยันว่านโยบายที่ได้มีการหาเสียงไว้ อะไรที่รับปากไว้จะทำให้ได้ ไม่ผิดคำสัญญากับประชาชน แต่ที่เห็นในนโยบายรัฐบาล เป็นกรอบกว้างๆ ครอบคลุมทุกประเด็นอยู่แล้ว หากสงสัยให้สอบถามรัฐมนตรีในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ ไม่ต้องบรรจุในคำแถลงของรัฐบาลทั้งหมด และขอให้เชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมกันทำงาน เพราะหากบรรจุไปทั้งหมด อาจจะใช้เวลาแถลงนโยบายต่อรัฐสภา 3 วันก็ไม่จบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง