ตร.14นายโดน‘ม.157’ ผบช.ก.ชี้โทษประหาร

รมว.ยุติธรรมเผยคดี "กำนันนก" คืบหน้า ดีเอสไอเร่งขยายผลสอบเส้นทางการเงินโยงฮั้วประมูลงานรัฐ ผบ.ตร.สั่งโอนคดีให้ บช.ก.จ่อแจ้งข้อหา 14 ตร.ละเว้นปฏิบัติหน้าที่-ให้การเท็จ กลุ่มร่วมงานเลี้ยงบ้านกำนันนกอีก 7 รายรอด ผบช.ก.มั่นใจพยานหลักฐานเอาผิดกำนันนกโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต "สยามโพล" จี้ปฏิรูปตำรวจจริงจัง  วงเสวนาชำแหละ รัฐซ้อนรัฐ องค์กรตำรวจล้มเหลว หวั่นเป็นชนวนกลียุค

เมื่อวันอาทิตย์ ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าคดีกำนันนกว่า ตำรวจเขาทำเต็มที่  ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะมีพระราชบัญญัติเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐเรื่องฮั้วประมูล ซึ่งคงจะต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพราะอำนาจในการดำเนินคดี อย่างเช่นหากเป็นข้าราชการกระทำความผิด ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ก็เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.

"ขอขอบคุณตำรวจที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และทราบว่ามีความคืบหน้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และที่สำคัญกระทบต่องบประมาณของรัฐ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษก็เร่งดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าได้ข้อมูลหลักฐานมาเยอะแล้ว และคงไม่ได้ทำแค่จุดเดียว แต่จะต้องขยายไปในส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้ที่เกี่ยวข้อง" พ.ต.อ.ทวีกล่าว

ที่ห้องประชุมเสสะเวช กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) อ.เมืองฯ จ.นครปฐม พนักงานสอบสวนได้รวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ประชุมงานสืบสวนสอบสวนและติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกำนันนกและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ จากการสอบสวนเพิ่มเติมพยานที่เป็นตำรวจและพลเรือนตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดนั้น มีบางส่วนไม่สอดคล้องกับคำให้การไว้เดิม ทำให้ต้องมีการสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง คาดว่าน่าจะมีการดำเนินคดีกับข้าราชการตำรวจและพลเรือนจำนวนหนึ่ง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้มีผู้ที่ไม่ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 7 นาย คือให้การช่วยเหลือ และ 1 คนคือ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. ที่อยู่ในฐานะผู้เสียหาย ส่วนผู้ที่ถูกดำเนินคดีจะถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ม.157 และให้การเท็จโดยไม่ละอายใจต่อเกียรติภูมิความเป็นตำรวจ จึงต้องดำเนินคดีกับตำรวจทุกนายที่มีพฤติกรรมกระทำผิด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีตำรวจที่เข้าข่ายกระทำความผิดรวม 14 นาย เป็นกลุ่มตำรวจที่ไม่ให้การช่วยเหลือสารวัตรแบงค์และรองวศิน เช่น พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท จะเข้าข่ายถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157 ส่วนข้อหาให้การเท็จอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วน พ.ต.อ.วชิรา หรือผู้กำกับเบิ้ม ก็มีข้อมูลอีกว่าจะถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากเสียชีวิตไปแล้ว พนักงานสอบสวนจะระบุท้ายสำนวนว่า เสียชีวิตแล้ว ซึ่งก็จะไม่รวมใน 14 นาย ที่จะถูกดำเนินคดี โดยทั้ง 14 นายจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาที่ตำรวจภูธรภาค 7 ภายในวันที่ 17 ก.ย.ทั้งหมด

รอง ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า การแจ้งข้อกล่าวหาตอนนี้จะเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่ง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. มอบหมายให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ เป็นหัวหน้าชุดในการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้

เปิดรายชื่อ 14 ตร.โดน ม.157

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช  ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ยืนยันว่า ไม่หนักใจกับการทำคดี เพราะจากพยานหลักฐานที่มีขณะนี้ถือว่าแน่นหนา สามารถบ่งชี้ได้ว่ากำนันนกคือผู้สั่งการ โดยเฉพาะคำให้การของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ พยานแวดล้อม ที่ไปที่มาของอาวุธปืน พฤติกรรมการทำลายหลักฐานหรือเจตนาของผู้ก่อเหตุ  รวมไปถึงมูลเหตุแรงจูงใจและพยานอื่นๆ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญทางคดีที่สามารถทำให้กำนันนกต้องได้รับโทษสูงสุดคือประหารชีวิตได้

มีรายงานด้วยว่า พล.ต.ท.จิรภพได้สั่งให้ตำรวจสอบสวนกลางรวบรวมหลักฐานและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลใน จ.นครปฐม และเตรียมเปิดปฏิบัติการปราบอิทธิพลแบบถอนรากถอนโคน โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในคดี

สำหรับตำรวจที่จะถูกดำเนินคดี 14 นาย ประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม  2.พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท 3.จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ผบ.หมู่ ส.ทล.กก.2 4.ร.ต.อ.นุชิต บรรณชัย รอง สว.ปทส.5 5.จ.ส.ต.อภิรักษ์ โรจน์พวง ผบ.หมู่ กก.5 ปคม. 6.ส.ต.ท.สุทธิกานต์ แซ่ล้อ ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม 7.ส.ต.ต.ธนทัต ท่าน้ำตื้น ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม 8.ร.ต.อ.ประสมมาศ แสงสุขมี รอง สว.จร.สภ.กำแพงแสง 9.ด.ต.ถนอม ศักดิ์มีศรี ผบ.หมู่ สภ.สามความเผือก 10.ส.ต.ต.สรรเสริญ ศรีอุบล ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม 11.ด.ต.สมโชค บัวไชย บก.สส. ภาค 7 12.ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา รองสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองนครปฐม 13.ร.ต.ท.มนัส จันทร์มีทรัพย์ (น้าไก่) รอง สว.จร.สภ.นครชัยศรี และ 14.ร.ต.อ.ศิริชัย รูปสวย บก.ป.

ส่วนตำรวจที่ไม่ถูกดำเนินคดี 7 นาย ประกอบด้วย 1.ด.ต.ชนาณัฐ วุฒิยากร ผบ.หมู่ บก.ทล. 2.ด.ต.สราวุฒิ เชียงทอง สทล.1 กก.2 3.จ.ส.ต.เมทิศกร พันธ์ศรีจันทร์ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. 4.พ.ต.ต.ณรงค์ พิทักษ์ฉนวน สว.ฝอ.กก. 2 บก.ทล. 5.จ.ส.ต.ทศพร แซ่อึ้ง ผบ.หมู่ บก.ทล. 6.พ.ต.ท.ภทร วรญาวิสุทธิ์ สว.สภ.สระยายโสม จว.สุพรรณบุรี และ 7.พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. (ผู้บาดเจ็บ)

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ลงนามคำสั่งให้โอนสำนวนการสอบสวนคดี จาก บช.ภ.7 ไปที่ บช.ก.ทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว เสียชีวิต ส่วนการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และคดีฮั้วประมูลของบริษัทกำนันนก จะยังคงสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพราะเป็นสถานที่เกิดเหตุ และเพื่อความสะดวกของพยานในการเดินทางมาสอบปากคำ  โดยมีรายงานว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จะเรียกประชุมคณะทำงานในคดี ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในวันที่ 18 ก.ย. เวลา 14.00 น.

แห่อาลัยงานศพ ผกก.เบิ้ม

ที่วัดใหญ่ท่าเสา อ.เมืองฯ จ.อุตรดิตถ์ เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.,  พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์, พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญ เกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. และนายตำรวจระดับสูง เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. หรือ ผกก.เบิ้ม  โดยมีอดีตผู้บังคับบัญชาของ ผกก.เบิ้ม,  เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 39 และนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 55 เข้าร่วมงานโดยพร้อมเพรียงกัน นอกจากนี้ยังมีข้าราชการระดับสูงในจังหวัดให้ความสำคัญและเข้าร่วมงานจำนวนมาก

สำหรับบรรยากาศนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีเพื่อนๆ และญาติพี่น้องต่างโอบกอดร่ำไห้ รวมทั้งพูดกันถึงคุณงามความดีที่ ผกก.เบิ้มเคยมีไว้ตลอดระยะเวลาที่รับราชการตำรวจ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า พวกเราอยู่กันแบบพี่น้อง เราจะดูแลลูกและครอบครัวของ ผกก.เบิ้มตลอดไป ปัจจุบันได้ตั้งกองทุนไว้ดูแล และไม่ใช่แค่ ผกก.เบิ้มเพียงคนเดียว กองทุนนี้จะดูแลพี่น้องตำรวจคนอื่นๆ เพื่อองค์กรด้วย ที่ผ่านมาเขามีภารกิจพิเศษที่ไม่มีใครรู้อีกจำนวนมาก ถือว่าเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานมาก

ด้าน พ.อ.วินัย ยาวไทยสงค์ บิดา ผกก.เบิ้ม กล่าวด้วยความโศกเศร้าว่า ผกก.เบิ้มเป็นสิ่งที่มีค่ามากของตนและครอบครัวและญาติพี่น้องทุกคน ที่ผ่านมาเขาถือเป็นตำรวจที่เสียสละอย่างมาก มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฝังลึกอยู่ในสายเลือดของความเป็นนักรบ รู้สึกภาคภูมิใจในตัวลูกชายเป็นอย่างมาก หลังเกิดเหตุตนร้องไห้ทุกวัน หากเกิดใหม่ขอให้เราได้เกิดมาเป็นพ่อลูก เป็นครอบครัวเดียวกันเช่นนี้อีก

สำนักวิจัยสยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เสนอผลสำรวจเรื่อง เสียงประชาชนต่อการปฏิรูปตำรวจ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในย่านฝั่งธนบุรีและต่างจังหวัด 1,098 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15-16 ก.ย.2566

เมื่อสอบถามถึงความรู้สึกและความเห็นของประชาชนต่อเหตุการณ์งานเลี้ยงของกำนันนก พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.2 หดหู่ใจ สะเทือนใจต่อการสูญเสียสารวัตรแบงค์, ร้อยละ 88.0 เชื่อว่าการสูญเสียสารวัตรแบงค์ เพราะขัดขวางผลประโยชน์ขบวนการส่วย, ร้อยละ 87.3 เห็นด้วยกับการปฏิรูปตำรวจ หยุดยั้ง มาเฟีย ผู้มีอิทธิพลและขบวนการส่วย, ร้อยละ 87.1 เชื่อว่าปัญหาตำรวจทุกวันนี้ เพราะการแทรกแซงจากนักการเมืองที่แย่ข้าราชการขี้ฉ้อและมาเฟียผู้มีอิทธิพล, ร้อยละ 87.0 ต้องการเห็นการระดมกวาดล้างมาเฟีย ผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศโดยเร็ว และร้อยละ 84.4 กังวลตำรวจน้ำดีเสียชีวิตสูญเปล่า ไฟไหม้ฟาง ไม่มีปฏิรูปตำรวจจริงจัง

จี้ปฏิรูปตำรวจหวั่นกลียุค

เมื่อถามถึงประเด็นปฏิรูปตำรวจที่ต้องการ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.9 ระบุปฏิรูปตำรวจ กอบกู้ศักดิ์ศรีตำรวจ, ร้อยละ 89.5 ระบุปฏิรูปตำรวจ ยกระดับความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน, ร้อยละ 88.4 ระบุปฏิรูปตำรวจยกระดับความเป็นตำรวจมืออาชีพ ได้มาตรฐานสากล, ร้อยละ 87.1 ระบุปฏิรูปตำรวจยกระดับความเป็นกลางเป็นมาตรฐานเดียวกันในหน้าที่ตำรวจ และร้อยละ 82.7 ระบุ ปฏิรูปตำรวจยกระดับความร่วมมือจากภาคประชาชน ร่วมงานตำรวจ เชื่อฟังทำตามกฎหมาย อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ

ที่ห้อง Meeting A ชั้น 7 ที่ทำการชั่วคราวสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย อาคารบางซื่อจังชั่น (ตึกแดง) มีการเสวนาหัวข้อ “ปฏิรูปตำรวจ” กู้วิกฤตศรัทธาหรือดิ่งเหว?" วิทยากรประกอบด้วย นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และ ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)

นายวิชากล่าวว่า องค์กรตำรวจมีเจ้าหน้าที่จำนวนมาก 2-3 แสนคน และเป็นองค์กรรวมศูนย์ที่ส่วนกลาง ซึ่ง ผบ.ตร.ดูแล แต่จะสามารถควบคุมเจ้าหน้าที่ 2-3 แสนคนไหวหรือไม่ ขณะที่อำนาจในการจัดซื้อจัดจ้างที่รวมศูนย์อยู่ที่ อบต. อบจ. ทำให้คดีที่เกี่ยวกับฮั้วจับตรงก็เจอทั้งหมด จึงไม่ใช่เรื่องกำนันนกเท่านั้นที่รวยมหาศาล แต่คนอื่นก็นั่งเงียบๆ จึงไม่เกิดเรื่อง แต่เป็นกระบวนการที่รู้กันและกระซิบบอกกันว่าใครสายใคร เพื่อมีส่วนช่วยให้อยู่รอดปลอดภัยในการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะฉะนั้นระบบของประเทศไทยที่เป็น "รัฐซ้อนรัฐ" ที่มีเป็นไปตามกฎหมายและเป็นระบบใต้ดิน ซึ่งระบบนี้ก็มีอยู่ในกระทรวงทบวงกรมก็มีด้วย

"เหตุใดจึงเกิดคดีเหล่านี้เป็นประจำไม่ว่าจะเป็นคดีบอส คดีผู้กำกับคลุมหัวผู้ต้องหา หรือมาคดีกำนันนกที่ฆ่าตำรวจตาย จะเป็นตัวอย่างที่แรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่โลกนี้เปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน แต่ทำไมยังอยู่ภายใต้อำนาจองค์กรใต้ดินเหล่านี้อยู่ดังนี้ หากให้มีอำนาจรัฐซ้อนรัฐแล้วไม่กำจัดออกไปในที่สุดแล้วจะเกิดกลียุค" นายวิชากล่าว

ด้าน ดร.มานะกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องชั่วร้ายที่สะท้อนการคอร์รัปชันของระบบราชการ ซึ่งเป็นภาพระบบราชการที่ล้มเหลวทุจริตคดโกง ซึ่งทุกคนก็รู้กันอยู่ว่าขาดธรรมาภิบาล ไร้ความผิดชอบชั่วดี ทำให้ข้าราชการที่ดีต้องก้มหัวผู้มีอิทธิพล ถ้าเราไม่พูดเรื่องนี้คนดีจะไม่มีที่ยืน และสังคมไทยเดินต่อไปไม่ได้ โดยเฉพาะองค์กรภารครัฐจะล้มเหลวไม่มีใครจะเชื่อถือ กรณีกำนันนก เป็นการทำลายเกียรติภูมิของเครื่องแบบ ถ้าเรื่องนี้จะไปเป็นไฟไหม้ฟาง ต้องบอกว่าถ้าจะปฏิรูปตำรวจ ประชาชนจะได้อะไร เรื่องตั๋วช้างจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไร

ขณะที่ พ.ต.อ.วิรุตม์กล่าวว่า คดีกำนันนกสะท้อนในหลายมิติ ขณะนี้เป็นเรื่องขององค์กรแล้ว ไม่ใช่เป็นเรื่องของบุคคล ที่ผ่านมามีการวิ่งกันในตำแหน่ง มีการถามถึงว่าจ่ายเท่าไหร่ แพงหรือไม่  ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในองค์กรนี้ เรื่องส่วยมีทุกเรื่องเลย ทั้งหวยใต้ดิน สถานบริการ บ่อน รถบรรทุก การพนันออนไลน์ ต้องจ่ายส่วยทั้งสิ้น ไม่มีการทำผิดกฎหมายใดที่เปิดอยู่ แต่ไม่จ่ายเงินให้ตำรวจ ส่วนการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนจะต้องปฏิรูปองค์กรทั้งระบบ ต้องลดระบบการปกครองออกจากรูปแบบมีชั้นยศแบบทหาร หรือมีความคิดแบบทหาร เพราะการไม่มียศเป็นมิตรกับประชาชนมากกว่า และอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้มีอำนาจตรวจสอบตำรวจได้ด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง