ลูกเนวิน-ก.ก.ฐานะอู้ฟู่ สะพัด!อิทธิพลมอบตัว

“ป.ป.ช.” ย้ำไทม์ไลน์ ครม.เศรษฐายื่นบัญชีทรัพย์สิน พร้อมเปิดฐานะ สส.ใหม่ ลูกเนวินสุดอู้ฟู่ อึ้ง! พ่อมดดำมีปืน 11 กระบอก “สุริยะ” รวย 1.7 พันล้านบาท “ชัชวาลล์” พระเครื่องเพียบ สส.ก้าวไกลใช่ย่อยมีเงินเกินล้านทุกราย  “นิวัติไชย” รอคำพิพากษาฉบับเต็มก่อนอุทธรณ์คดีรุกป่า ปูดข่าว “อิทธิพล”  ขอมอบตัว

เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2566 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมทั้งรัฐมนตรีในรัฐบาล มีหน้าที่ยื่นทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566 โดยมีเวลาในการยื่น 60 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.-4 พ.ย.2566 และเมื่อครบเวลาแล้วยังไม่สามารถยื่นได้  สามารถขอขยายเวลาได้ แต่การขอขยายเวลาต้องขอก่อนครบ 60 วัน ซึ่ง ครม.นายเศรษฐาขณะนี้ยังไม่มีใครยื่น และบางคนไม่ต้องยื่น เพราะเคยดำรงตำแหน่งในรัฐบาลเก่า ได้รับการยกเว้นไม่ต้องยื่นซ้ำตามมาตรา 105 วรรค 4 และมาตรา 105 วรรค 5             

ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นครั้งนี้มีบางคนที่เป็น สส.และรัฐมนตรี จำเป็นต้องยื่นอีกหรือไม่ เพราะยื่นตอนเข้ารับตำแหน่ง สส.แล้ว นายนิวัติไชยกล่าวว่า ถ้าเป็น สส.และยื่นแล้วไม่ต้องยื่นอีก เพราะได้รับการยกเว้น โดยมีจำนวน 8 ราย ส่วนนายกฯ และรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องยื่นกรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566 มีระยะเวลายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินใน 60 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.-4 พ.ย.2566 หากไม่สามารถยื่นได้ทันในเวลาดังกล่าว สามารถยื่นขอขยายเวลาการยื่นได้ไม่เกิน 30 วัน โดยต้องยื่นคำขอภายในวันที่ 4 พ.ย.2566 ซึ่งกรณีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินกรณีพ้นตำแหน่งรองนายกฯ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 4 พ.ย.2566 ขณะนี้ยังไม่ได้ยื่นเข้ามา แต่ไม่ต้องยื่นกรณีเข้ารับตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ

 “สส.ชุดปัจจุบันเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ก.ค.2566 ซึ่งครบกำหนดการยื่นทรัพย์สินในวันที่ 2 ก.ย.2566 ขณะนี้มีมายื่นแล้ว 324 ราย” นายนิวัติไชยกล่าว  

วันเดียวกัน ป.ป.ช.ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณี สส.เข้ารับตำแหน่งภายหลังการเลือกตั้ง 2566 จำนวน 91 ราย ที่น่าสนใจคือ นายไชยชนก ชิดชอบ บุตรชายนายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองชื่อดัง กรณีเข้ารับตำแหน่ง สส.บุรีรัมย์ เขต 2 พรรคภูมิใจไทย อายุ 33 ปี โดยแจ้งสถานะว่าโสด มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 161,625,029 บาท ส่วนทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ แจ้งถือครองนาฬิกาหรู 5 เรือน ยี่ห้อ Patek Philippe และ Richard Mille

ขณะเดียวกันยังมีบัญชีทรัพย์สินของ สส.ที่น่าสนใจอีก อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) มีทรัพย์สินรวม 602,228,310 บาท เป็นทรัพย์สินคุณหญิงสุดารัตน์ 343,456,286 บาท และทรัพย์สินนายสมยศ ลีลาปัญญาเลิศ คู่สมรส 258,772,023 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากในบัญชีธนาคาร และที่ดิน 109 แปลง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) มีทรัพย์สินรวม 1,722,388,814 บาท เป็นทรัพย์สินนายสุริยะ 1,447,822,744 บาท และทรัพย์สินนางสุริสา จึงรุ่งเรืองกิจ คู่สมรส 274,566,070 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินฝาก และที่ดิน 15 แปลง

นายสุชาติ ตันเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. มีทรัพย์สิน 47,611,849 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน 4 แปลง และทรัพย์สินอื่นๆ โดยมีปืน 11 กระบอก

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย มีทรัพย์สิน 40,608,547 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากในบัญชีธนาคาร ที่ดิน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง และมีหนี้สิน 1,203,918 บาท 

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. มีทรัพย์สิน 16,105,417 บาท เป็นทรัพย์สิน ร.ต.อ.เฉลิม 15,074,219 บาท ทรัพย์สินนางลำเนา อยู่บำรุง คู่สมรส 1,031,917 บาท

นายชัยเกษม นิติสิริ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. มีทรัพย์สิน 173,906,595 บาท 

ขณะที่นายเกรียง กัลป์ตินันท์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. แจ้งสถานะหย่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 101,168,204 บาท และไม่มีหนี้สิน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ (ปช.) และประธานสภาผู้แทนราษฎร มีทรัพย์สิน 48,335,687บาท เป็นทรัพย์สินนายวันมูหะมัดนอร์ 16,995,668 บาท ทรัพย์สินนางอัสนา วัฒนาทร คู่สมรสที่อยู่กินฉันสามีภริยา 31,340,019 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน

นางขวัญเรือน เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มารดา น.ส.ตรีนุช เทียนทอง อดีต รมว.ศึกษาธิการ มีทรัพย์สิน 1,468,160,562 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากในธนาคาร และที่ดิน 117 แปลง

นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรค พปชร. มีทรัพย์สิน 75,806,258 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน และทรัพย์สินอื่นๆ โดยเฉพาะพระเครื่องและนาฬิกาหรู

ส่วนนายชัชวาลล์ คงอุดม สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีทรัพย์สิน 1,063,018,111 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน 82 แปลง โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 18 หลัง 113 ล้านบาท รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ โดยมีพระเครื่อง 49 รายการ ที่มีมูลค่ากว่า 496 ล้านบาท

ยังมีบัญชีที่น่าสนใจในส่วนของ สส.พรรคก้าวไกล 16 คน ประกอบด้วย นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร และ น.ส.ณิธิชา กิตติสิริภัทรา คู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 7,936,452 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 21,358 บาท โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ที่ดิน และทรัพย์สินอื่น

นายปิยรัฐ จงเทพ แจ้งว่ามีสถานภาพโสด มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 6,599,577 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 3,410,171 บาท และมีรถยนต์ 5 คัน

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,857,680 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 413,950 บาท

นายวุฒินันท์ บุญชู และนางสุนิดา บุญชู คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 49,514,917 บาท เป็นทรัพย์สินของผู้ยื่น 30,679,200 บาท เป็นทรัพย์สินของคู่สมรส 18,835,717 บาท

นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ และน.ส.นันทิพา ไพศาลลิ้มเจริญกิจ คู่สมรส โดยแจ้งสถานภาพว่า อยู่กินฉันสามีภริยาตามกฎหมาย โดยนายนนท์แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 5,547,048 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของนายนนท์ 1,885,182 บาท ทรัพย์สินของ น.ส.นันทิพา 3,661,865 บาท

นายนพดล ทิพยชล และนางสุดาววรณ์ ทิพยชล คู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 11,176,768 บาท เป็นทรัพย์สินของนายนพดล 6,994,642 บาท เป็นทรัพย์สินของนางสุดาววรณ์ 4,182,125 บาท

นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ และนางอภิรดี ประวีณวงศ์วุฒิ คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 38,770,603 บาท, นายภัณฑิล น่วมเจิม และ น.ส.ปภานิน กันตถาวร คู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 111,515,402 บาท, น.ส.รัชนก สุขประเสริฐ และนายภฤศภณ บุญจันทร์ โดยแจ้งสถานภาพว่าอยู่กินกันฉันสามีภรรยา มีลูกสาว 1 คน อายุ 8 ขวบ แจ้งว่า มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 1,701,208 บาท ไม่มีหนี้สิน, นายวรภพ วิริยะโรจน์ และนางวรนารี วิริยะโรจน์ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 24,989,619 บาท,

นายพิชัย แจ้งจรรยาวงศ์ และ น.ส.สุรีพร กุยยาวัฒนานนท์ คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 36,948,808 บาท, นายสุรพันธ์ ไวยากรณ์ และ น.ส.พิณภา เมฆวัฒน์ คู่สมรส มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 9,084,944 บาท, นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 4,608,271 บาท, น.ส.กัลยพัชร รจิตโรจน์ แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 8,442,944 บาท, น.ส.นิตยา มีศรี และนายดนัย อโสโก คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 22,618,927 บาท, นายเอกราช อุดมอำนวย แจ้งสถานภาพโสด มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 17,921,202 บาท และ น.ส.ววรรณวิภา ไม้สน แจ้งสถานภาพหย่าเมื่อเดือน ต.ค.2562 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,617,826 บาท

นายนิวัติไชยยังกล่าวถึงกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 จ.ระยอง ยกฟ้องนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ กับพวกอีก 8 ราย ในคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงปี 2545 ว่า การยกฟ้องดังกล่าวเป็นศาลชั้นต้น โดยจะอุทธรณ์ในบางกรณี เรื่องนี้เราต้องนำคำพิพากษามาวินิจฉัย แต่ยังไม่ได้รับคำพิพากษาฉบับเต็มที่จะเอามาดูแต่ละประเด็นว่าที่ศาลยกฟ้องไปมีประเด็นอย่างไรบ้าง จึงยังระบุว่าจะอุทธรณ์ในประเด็นไหนยังไม่ได้

เมื่อถามว่า แต่คำพิพากษาที่ออกมาทำให้สังคมมองว่าการทำงานของ ป.ป.ช. ค่อนข้างขาดความน่าเชื่อถือ นายนิวัติไชยกล่าวว่า คำพิพากษาเองอาจจะส่งผลกระทบต่อหน่วยงานอื่น คิดว่ามันยิ่งต้องชัดเจนว่าประเด็นไหน หลักฐานคืออะไร สำคัญที่สุด เพราะเราอยู่ในกระบวนการยุติธรรมด้วยกัน การทำงานอันนี้ต้องขอดูก่อน เราถึงจะวิพากษ์กันได้ อย่างไรก็ดี เราเคารพคำพิพากษาที่ท่านตัดสินด้วยดุลยพินิจ แต่ในส่วนที่ส่งผลกระทบ บางคนอาจจะบอกว่า ป.ป.ช.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบก็ฟ้อง ป.ป.ช.เสียอย่างนั้น โดยอาศัยคำพิพากษาของศาล 

 “วันนี้ ป.ป.ช.ทำงานเพื่อเรียกร้องทรัพยากรธรรมชาติกลับมาเป็นของแผ่นดิน เราทำงาน ไม่ได้ไปปรักปรำหรือใส่ร้ายใคร ในวันนี้ถ้า ป.ป.ช.ไม่ทำก็ไม่รู้ใครจะทำ เพราะคนที่ทำมีอิทธิพล”

นายนิวัติไชยยังกล่าวกรณีนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม หลบหนีหมายจับคดีออกใบอนุญาตสร้างโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ หาดพัทยา จ.ชลบุรี มิชอบ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยาว่า ทราบมาว่านายอิทธิพลมีการประสานเพื่อติดต่อเพื่อจะขอมอบตัว แต่ไม่ทราบว่าจะมามอบตัวกับหน่วยไหน อาจจะเป็นศาลหรือไม่ เพราะเป็นผู้ออกหมายจับ  

สำหรับคดีนี้ ป.ป.ช.ได้ยื่นขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 ออกหมายจับนายอิทธิพลในการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (แบบ อ. 1) เลขที่ 700/2551 ลงวันที่ 10 กันยายน 2551 ให้บริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ  บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง