เงินขรก.ขึ้นแน่/คลังส่งคำถามสัปดาห์หน้า

“ปานปรีย์” การันตีขึ้นเงินเดือน ขรก.แน่ ด้าน “จุลพันธ์” เตรียมส่ง พ.ร.บ.กู้เงินให้กฤษฎีกาสัปดาห์หน้า  “ภูมิธรรม” ขอโทษ “ปกรณ์” ทำโดนทัวร์ลง “หอการค้า” ชงแจกเงินดิจิทัลกลุ่มเปราะบาง “ป.ป.ช.” จ่อขอข้อมูล กกต.-ธปท.-คลัง

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. นายปานปรีย์  พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงการประชุมพิจารณาเรื่องการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า   การประชุมดังกล่าวได้พิจารณารายละเอียดครั้งสุดท้ายว่าอะไรที่ทำได้ในเวลานี้ อะไรที่ยังทำไม่ได้ และอะไรที่จะทำต่อไปในอนาคต แต่จะปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการแน่นอน ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น ตนขอนำเสนอเรื่องนี้เพื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ก่อน เพราะ ครม.มอบหมายให้ตนกำกับดูแล  ส่วนจะขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการระดับใดบ้าง และขึ้นเงินเดือนกี่เปอร์เซ็นต์นั้น ขอให้รอดูรายละเอียดหลังจาก ครม.ให้ความเห็นชอบ

เมื่อช่วงสายวันศุกร์ ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) นำคณะผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เพื่อหารือประเด็นนโยบายด้านการวิจัย

ทั้งนี้ ประธานทีดีอาร์ไอได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ส่วนตัวของนายกฯ เป็นคนที่ชัดเจน เข้าใจดีว่าบางเรื่องทีดีอาร์ไอก็เห็นด้วย บางเรื่องก็ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาล โดยในการดำเนินการใดๆ ขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้งเป็นสำคัญ ขณะที่นายกฯ ยินดีรับฟังข้อเสนอแนะทั้งที่เห็นด้วยและเห็นต่างอย่างสร้างสรรค์ เพราะถือว่าเป็นการติเพื่อก่อ และขอขอบคุณสำหรับข้อเสนอด้านการวิจัยจากทีดีอาร์ไอในวันนี้ โดยจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำรายละเอียดไปพิจารณา เพื่อหาแนวทางความเป็นไปได้ในการดำเนินการต่อไป

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวสั้นๆ ถึงความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท จะส่งถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาเมื่อไหร่ว่า สัปดาห์หน้ามาตอบชัดๆ ดีกว่า เมื่อถามย้ำว่า เห็นนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ระบุว่าจะส่งแล้ว จะส่งได้เมื่อไหร่ สัปดาห์หน้าจะส่งให้กฤษฎีกาใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวเพียงว่า “ครับผม”

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ออกมาระบุว่าถูกด่าฟรีเพราะทำงานช้าว่า ต้องขอโทษคณะกรรมกฤษฎีกา การให้สัมภาษณ์ของตนทำให้เกิดความไม่เข้าใจ ทำให้กระทบการทำงานของคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ที่นายปกรณ์พูดออกมาเป็นตามนั้น ต้องเห็นใจ ตนเพียงแต่พูดว่าในการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลชุดใหญ่ คณะกรรมการกฤษฎีกาได้นั่งอยู่ในที่ประชุมด้วย สาระสำคัญที่ตนตอบวันนั้นคือ คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้คัดค้าน เพียงแต่บอกว่าถ้ายังมีความไม่ชัดเจนหรือความไม่สบายใจมันต้องรับผิดชอบร่วมกัน และจะเป็นผู้อาสาไปดูข้อกฎหมายมีอะไรที่ผิดหรือไม่ผิด ซึ่งที่ประชุมก็เห็นด้วยกับการให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปดู

“สิ่งที่ผมให้สัมภาษณ์หมายความว่าให้กฤษฎีกาไปดู และรับทราบแล้ว แต่ผมไม่ได้หมายความไปถึงเรื่องเอกสารรายละเอียด เลยต้องขอโทษที่ทำให้ทัวร์ไปลงท่าน จริงๆ ท่านก็ปรารถนาดีที่จะช่วยเราคิด ช่วยเราทำ” นายภูมิธรรมย้ำ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่าที่สุดแล้วผลที่ออกมาหลังจากผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกาทุกคนจะสบายใจ นายภูมิธรรมตอบว่า ต้องยืนยันข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรแล้วจึงจะมาพิจารณากัน ฉะนั้นหากต้องการให้หมดข้อสงสัย ต้องส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดู เมื่อมีการตีความชัดเจนแล้วทุกคนจะสบายใจ

นายสนั่น​ อังอุบลกุล​ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย​ ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการดิจิทัลวอ​ล​เล็ต​ 10,000 บาท​ว่า ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง และอยากให้กำลังใจรัฐบาลให้สามารถจัดสรรเงินให้ถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด หลังจากที่จัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ พบว่าเอสเอ็มอีแต่ละภาคค่อนข้างเดือดร้อน​ ประชาชนต้องการใช้เงินจับจ่ายใช้สอย

“ถ้าเป็นไปได้เรามีกลุ่มเปราะบาง 14​-15 ล้านคน โดยจ่ายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง​ หากทำได้เร็วก็จะเป็นประโยชน์​ กับกลุ่มเป้าหมายที่เราอยากจะช่วย​ ซึ่งถือเป็นความเห็นของหอการค้าไทย​" นายสนั่นระบุ

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าเห็นว่าควรจ่ายให้สำหรับกลุ่มเปราะบางใช่หรือไม่ นายสนั่นยอมรับว่า​ ใช่ และไม่ควรจะรอช้าเกินไป​ ต่อข้อถามว่าเมื่อจ่ายเฉพาะกลุ่มเปราะบางก็ไม่จำเป็นต้องออก พ.ร.บ.กู้เงินถึง 5 แสนล้านบาทใช่หรือไม่ นายสนั่นกล่าวว่า คงจะเป็นลักษณะนั้น​ พร้อมยกตัวอย่างโครงการคนละครึ่งที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งในระยะเวลาสั้นนี้ เราต้องการเม็ดเงินเพื่อมาช่วยประชาชน

เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้ประเทศชาติอยู่ในช่วงวิกฤตทางเศรษฐกิจ​ตามที่รัฐบาลประเมินหรือไม่​ นายสนั่นตอบว่า เราอาจพูดได้ว่าในไตรมาสที่ 3 จีดีพีโตเพียง​ 1.5% มาจากสาเหตุ​จัดตั้งรัฐบาลอยู่ในช่วงสุญญากาศ​จนไม่สามารถใช้งบได้​ แต่หากพูดถึงการลงทุนของภาคเอกชน ในไตรมาสที่ 3 ถือว่าบวก 8% แต่ส่วนของภาครัฐมีการลงทุนน้อย ทำให้การจับจ่ายใช้สอยของคนแผ่วบางลง​ แต่ยืนยันว่าเราคงต้องไปต่อ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ขอย้ำว่าเงินดิจิทัลไม่ใช่ยาวิเศษที่จะทำให้เศรษฐกิจโตอย่างยั่งยืน จะทำให้เกิดกำลังซื้อระยะสั้นเท่านั้น แล้วก็จะกลับไปเจอปัญหาความยากจนเหมือนเดิม อีกทั้งประชาชนทั้งประเทศยังต้องแบกรับความเสี่ยงจากการกู้เงินมหาศาลถึง 5 แสนล้านบาท พรรคไทยสร้างไทยจึงเสนอให้แจกแบบมีเป้าหมายเฉพาะผู้มีรายได้น้อย 16-20 ล้านคนเท่านั้น ที่สำคัญต้องแจกเป็นเงินสด จึงจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้

วันเดียวกัน นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าของคณะกรรมการเพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาทผ่าน Digital Wallet ว่า ยังคงมีการประชุมอย่างต่อเนื่อง และวันเดียวกันมีนัดประชุม ยังอยู่ระหว่างการประมวลข้อมูลทั้งหมด ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการคลังและด้านการเศรษฐกิจ อาจทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการรวบรวมข้อมูลเพื่อความรอบคอบรอบด้าน เนื่องจากมีผลกระทบในเรื่องของงบประมาณ

นายภูเทพกล่าวอีกว่า คณะกรรมการฯ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่หาข้อมูลอย่างรอบด้าน และมีการเก็บข้อมูลหลักฐานเสียงนายกรัฐมนตรีที่แถลงนโยบาย และโยงกับนโยบายการหาเสียงว่าต้องพิจารณาประกอบกัน และอาจต้องขอข้อมูลคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วย ว่าสิ่งที่แถลงนโยบายสอดคล้องกับนโยบายที่หาเสียงไว้หรือไม่ เอาข้อมูลมาประมวลอย่างรอบด้าน รวมถึงขอข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ความเห็นทางกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.