ศาลรธน.ไต่สวนคดี112 ก.ก.ส่งพิธา-ชัยธวัชดูแล

คริสต์มาสเดือด ศาลรัฐธรรมนูญประเดิมเปิดห้องไต่สวนคดีก้าวไกลแก้มาตรา 112 “พรรคส้ม” โคม่า ผู้ร้องบอกมั่นใจมาก หลังเห็นข้อมูลหลายหน่วยงานราชการส่งถึงศาลสนับสนุนข้อกล่าวหา “พริษฐ์” บอก ก.ก.ส่ง “พิธา-ชัยธวัช” ดูแล มั่นใจทำตามกฎหมาย!

 วันจันทร์ที่ 25 ธ.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดห้องพิจารณาคดีเพื่อไต่สวนคำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ  พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ.... เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112  โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่

นายธีรยุทธกล่าวว่า จะเดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญเพื่อรับฟังการให้ถ้อยคำของพยานที่ศาลเรียกมา โดยศาลไม่ได้เรียกให้ตนขึ้นให้ถ้อยคำแต่อย่างใด และไม่ได้เรียกให้แกนนำพรรค ก.ก. ทั้งนายพิธา รวมถึงนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นให้ถ้อยคำด้วย โดยศาลได้เรียกพยานที่อยู่ในบัญชีรายชื่อพยานบุคคลที่พรรค ก.ก.ยื่นต่อศาล 2 คนขึ้นให้ถ้อยคำเท่านั้น

 นายธีรยุทธกล่าวถึงความมั่นใจในการสู้คดีว่า มั่นใจในคำร้อง เพราะก่อนหน้านี้เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลได้อนุญาตให้เข้าไปตรวจสำนวนที่ยื่นต่อศาล โดยเท่าที่ดูข้อมูล ก็มีข้อมูลที่ศาลเรียกข้อมูลจากหลายหน่วยงานราชการส่งมาให้พิจารณาในสำนวนคำร้อง โดยพบว่าหลายหน่วยงานที่ส่งไปให้ศาลออกมาในแนวทางสนับสนุนคำร้องที่ได้ยื่นต่อศาล   แต่ศาลจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร ก็อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

 “คำร้องคดีเป็นเรื่องของการขอให้ศาลวินิจฉัยว่าเห็นควรให้พรรคก้าวไกลหยุดการรณรงค์หาเสียง หรือการรณรงค์ให้ยกเลิกการแก้ไขมาตรา 112 ได้หรือไม่  เพราะหากยังปล่อยให้เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติม หรือร่างยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จนมีการนำร่างดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้ ก็จะทำให้อาจเกิดการก้าวล่วงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยที่ตอนเสนอร่างแก้ไขเข้าสภาแล้วทางรัฐสภามีการพิจารณา ทางสมาชิกรัฐสภาทั้ง สส.และ สว. เวลาเขาอภิปรายเขาจะได้เอกสิทธิ์คุ้มครองเวลาอภิปรายเรื่องนี้ รวมถึงยังคุ้มครองถึงคนที่จะนำข้อความการอภิปรายดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อด้วย ที่อาจมีผลกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ คำร้องคดีนี้จึงเป็นการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พรรคก้าวไกล ยุติการเคลื่อนไหวในเรื่องการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112” นายธีรยุทธกล่าว

 เมื่อถามว่า หากสุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าให้พรรคก้าวไกลยุติการเคลื่อนไหวหรือดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับมาตรา 112 ผลที่จะตามมาจะเป็นอย่างไร จะยื่นคำร้องให้ยุบพรรคก้าวไกลต่อไปหรือไม่ นายธีรยุทธกล่าวว่า ตามขั้นตอนก็เป็นหน้าที่โดยตรงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีผู้ใดต้องไปยื่นให้ กกต.ดำเนินการ เพราะ กกต.มีหน้าที่โดยตรงในการสอดส่อง ดูการหาเสียงของพรรคการเมือง และเลขาธิการ กกต.ก็เป็นนายทะเบียนพรรคการเมืองโดยตำแหน่ง ทำให้เขาต้องทำหน้าที่ดังกล่าวตามปกติ

รายงานข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า พยานบุคคลที่ศาลเรียกมาให้ถ้อยคำวันที่ 25 ธ.ค.นี้ เป็นพยานที่เป็นนักกฎหมายที่พรรคก้าวไกลเสนอบัญชีรายชื่อพยานไปให้ศาลพิจารณา โดยพรรค ก.ก.เสนอบัญชีรายชื่อพยานไป 6 ปาก และหลังการไต่สวนพยานเสร็จสิ้นลง ที่คาดว่าไม่เกิน 12.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญคงประกาศกำหนดวันนัดประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อลงมติและอ่านคำวินิจฉัยคดีดังกล่าวทันที โดยอาจนัดช่วงสิ้นเดือน ม.ค.2567 หรือไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือน ก.พ. ที่จะเป็นการนัดต่อจากคดีหุ้นสื่อไอทีวีของนายพิธาที่ศาลไต่สวนเมื่อ 20 ธ.ค.เสร็จ และนัดอ่านคำวินิจฉัย 24 ม.ค.2567

  สำหรับคำร้องคดีดังกล่าว หากศาลยกคำร้องก็ถือว่ายุติ แต่หากศาลมีคำสั่งให้พรรค ก.ก.ยุติการเคลื่อนไหวทุกอย่างในเรื่องมาตรา 112 อาจทำให้มีบางฝ่าย เคลื่อนไหวไปยื่นเรื่องต่อนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อให้ กกต.ยื่นคำร้องเอาผิดนายพิธาและพรรคก้าวไกลต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 92 (2) ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่บัญญัติว่า หากพรรคการเมืองใดกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ ให้ กกต.ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค

ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค ก.ก. กล่าวในเรื่องนี้ว่า พรรคได้มอบหมายให้นายพิธาและนายชัยธวัชดูแล เพราะทั้งคู่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยเราได้เตรียมข้อมูลอย่างละเอียดรอบด้าน และพร้อมชี้แจงทุกคำถาม พรรคพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ผ่านกระบวนการยุติธรรม และเรายืนยันว่า ทุกอย่างที่ดำเนินการไป รวมถึงการเสนอให้แก้ไขมาตรา 112 นั้น แม้จะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในนโยบายนี้ แต่ยืนยันว่าเป็นการเสนอนโยบายอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ และภายใต้กรอบของกฎหมายทุกประการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิชิต' ยิ้มหัวเราะกลบกระแสลาออกรัฐมนตรี ตัดไฟลามเศรษฐา

นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวเตรียมลาออกจาก ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลัง 40 สว. ร่วมลงชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี

จับตา! 2 เรื่องใหญ่ บ่งชี้ใกล้ถึงจุดจบ 'รัฐบาลเพื่อไทย'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า แรกทีเดียวคิดว่าจะไม่เขียนเกี่ยวกับเรื่องข้าว 10 ปี

จ่อผุด13อรหันต์นิรโทษ

กรมคุกร่อนแถลงการณ์ ยันทัณฑสถานราชทัณฑ์ช่วยชีวิต ‘บุ้ง ทะลุวัง‘ ตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเต็มกำลัง