‘โมเดลทักษิณ’ผิดซ้ำ โรมเตือน‘ปู’กลับไม่เอาดีลลับ เทพไทชี้บีบ‘แม้ว’เข้าคุกเหลว

"โรม" เตือน "ยิ่งลักษณ์"  กลับไทยใช้โมเดล "ทักษิณ" แก้ปัญหาคนเดียวผลิตซ้ำความผิดพลาดไม่รู้จบ    ลั่นอยากเห็นการแก้ไขความอยุติธรรมในอดีตด้วยวิธีการชอบธรรม ไม่ใช่วิธีการดีลลับโดยที่ ปชช.ส่วนใหญ่ไม่ได้อะไร ขู่ซักฟอกแน่ "เทพไท" ฟันธง "ยิ่งลักษณ์" กลับไทยเร็วๆ นี้ การกดดันทักษิณกลับเรือนจำทำไม่สำเร็จ ทำให้ ระบอบทักษิณคืนชีพอีกครั้ง "ภูมิธรรม" เชื่อปีหน้า รบ.ไร้ปัจจัยเสี่ยง ชี้แจงปม "ทักษิณ" ในศึกซักฟอกได้ ป่ารอยต่อฯ ยังคึกคัก "บิ๊กป้อม" เปิดบ้านปีใหม่ บิ๊กๆตบเท้าอวยพร "บิ๊กตู่" ส่งแจกันดอกไม้

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม นายรังสิมันต์   โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีหลายฝ่ายเริ่มออกมาพูดถึงกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  อดีตนายกฯ อาจเดินทางกลับไทย โดยใช้โมเดลเดียวกันกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปอยู่ต่างประเทศแบบที่เรารู้ๆ กันอยู่ ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรม คือการรัฐประหาร อาจมีกลไกทางกฎหมายอื่นๆ ตามมา ซึ่งเป็นที่สงสัยว่า มันมีความยุติธรรมแค่ไหน เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์คนเดียว แต่เกิดกับคนอีกจำนวนมาก เป็นเหตุผลว่าถ้าต้องการแก้ปัญหาความผิดพลาด จึงไม่ใช่การแก้ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์คนเดียว แต่ต้องแก้กันทั้งหมด

 "เป็นเหตุผลว่าทำไมต้องมาคุยเรื่องนิรโทษกรรม เคลียร์กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ไม่แน่ใจรัฐบาลคิดแค่จะต้องแก้ที่คนไม่กี่คนคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือนายทักษิณ เหมือนกับเราผลิตสิ่งที่มันผิดพลาดต่อไป ผมไม่แน่ใจว่าจะใช้วิธีการแบบเดียวกันกับนายทักษิณหรือไม่ แต่การทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้แก้ความผิดพลาดในอดีตเลย แต่ทำให้อดีตเป็นความผิดพลาดต่อไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบ"

 นายรังสิมันต์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าระบบของเรา การที่จะคืนความเป็นธรรมให้กับคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม มันไม่ใช่แค่วิธีแบบที่นายทักษิณได้ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะได้หรือไม่ เมื่อมันไม่ได้เป็นวิธีการแบบนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือความชอบธรรมมันจะไม่มี เมื่อไม่มีความชอบธรรม การยอมรับของสังคมก็ไม่เกิด ก็กลายเป็นปัญหาซ้ำไปซ้ำมาต่อไปเรื่อยๆ

ส่วนการกลับไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะทำได้หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า  พอนายทักษิณกลับมา ทุกคนโดยเฉพาะคู่กรณีนายทักษิณคงช็อกอยู่ พูดไม่ออก ทำให้สุดท้ายเรื่องของนายทักษิณดูเงียบไป แต่ว่าไม่ใช่ไม่มีการตรวจสอบเลย ก็มีการตั้งคำถาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่นายทักษิณไปอยู่ที่ชั้น 14 มีการอ้างอีกข้อมูลผู้ป่วยเปิดเผยไม่ได้ อำนาจนี้เป็นของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตัวรัฐมนตรีไม่มีอำนาจสั่งการ ไม่รู้ว่าพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เข้าไปตรวจสอบหรือไม่ พอผ่านไปสักระยะ มันต้องมีเรื่องการพักโทษ สุดท้ายเมื่อผ่านขั้นตอนแรกมา ซึ่งมันไม่ได้มีความชอบธรรม แต่ที่เหลือมันเข้าล็อกหมด คือเขาคงวางแผนมาอย่างดีแล้ว ในเชิงการตรวจสอบมันไม่ง่าย โดยเฉพาะในเรื่องที่กรมราชทัณฑ์มีดุลยพินิจ แต่จะได้รับการยอมรับจากสังคมหรือไม่ ก็ไม่ได้รับการยอมรับ

เมื่อถามว่า การชี้เเจงที่ไม่ชัดเจนของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จนเกิดคำถามถึงความเงียบที่ชั้น 14 นั้น ในปีหน้าปมนี้ จะเป็นความขัดเเย้งรอบใหม่หรือไม่  และถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาไทยในปีหน้าจริงอีก ฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้ไปขึ้นเขียงซักฟอกหรือไม่ นายรังสิมันต์ตอบว่า ไม่อยากทำนายว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ในเชิงการตรวจสอบ ฝ่ายค้านทำเต็มที่ ทั้งกลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือการอภิปรายทั่วไป สังคมต้องช่วยกันตรวจสอบ

"เราอยากเห็นการแก้ไขความอยุติธรรมในอดีตด้วยวิธีการชอบธรรม ไม่ใช่ใช้วิธีการดีลลับ ไม่ใช่ไปใช้วิธีการไปคุยไม่กี่คน โดยที่ประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับความอยุติธรรมเหมือนกัน กลับไม่ได้อะไรเลย วิธีการแบบนั้นเป็นเราไม่เห็นด้วย ตรวจสอบเต็มที่แน่ ไม่ใช่เรื่องของมิตรหรือศัตรู พรรค ก.ก.กำลังทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ประชาชน ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่อยู่แล้ว" นายรังสิมันต์กล่าว

ระบอบทักษิณคืนชีพ

ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์  โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ถ้าเอา "ทักษิณ" ลงจากชั้น 14 ไม่ได้ "ยิ่งลักษณ์" จะกลับมาในเร็วๆ นี้ หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายกฟ้องนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ทำให้คนในระบอบทักษิณมั่นใจว่า เป็นสัญญาณบวก จึงมีการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองว่า ทิศทางการเมืองในอนาคต คุณยิ่งลักษณ์จะเดินทางกลับมาประเทศไทยในเร็วๆ นี้ โดยเทียบเคียงกรณีคุณทักษิณ ที่ได้รับการลดโทษ และพักอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ต้องเข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว เป็นตัวอย่างสร้างแนวทางนำร่องไว้ให้ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติแล้ว

ตอนนี้กระแสกดดันเรียกร้องให้คุณทักษิณกลับเข้าสู่เรือนจำ ไม่ว่าจะดังขึ้นเรื่อยๆ แค่ไหน จนเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ไม่สามารถให้คำตอบที่แท้จริงต่อสังคมได้ บางประเด็นไม่ยอมชี้แจง วางเฉย ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน หวังให้กระแสเงียบหายไป

ส่วนตัวเห็นว่าการเคลื่อนไหว เรียกร้อง กดดัน ให้คุณทักษิณกลับสู่เรือนจำ ทำไม่สำเร็จ ก็จะเป็นความพ่ายแพ้ของขบวนการต่อต้านระบอบทักษิณขึ้นมาทันที ยิ่งตอนนี้หัวหอกหรือแกนนำในการต่อสู้กับระบอบทักษิณมีน้อยลงมาก นับจำนวนตัวได้ ส่วนใหญ่ก็จะเก็บตัวเงียบ วางเฉย

ยิ่งสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้ว ผสมกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรค 2 ลุง ยิ่งทำให้กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายเกิดความสับสน ยังตั้งหลักไม่ถูก ถ้าหากสถานการณ์การเมืองยังเป็นเช่นนี้อีกต่อไป ระบอบทักษิณจะคืนชีพมาครั้งหนึ่ง

"ส่วนตัวเชื่อว่าระบอบทักษิณกำลังคืนชีพอย่างต่อเนื่อง และอีกไม่นานนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะเดินทางกลับประเทศไทย ยึดแนวทางเดียวกับคุณทักษิณ ชินวัตร พี่ชายวางไว้" นายเทพไทกล่าว

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์การเมืองปี 2567 ทั้งเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท จะส่งผลกระทบรัฐบาลหรือไม่ ว่าไม่ได้ประเมินหรือกลัวว่าข้างหน้าจะมีปัญหาอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการและนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ส่วนเรื่องนายทักษิณเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่ออกไว้ตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ที่ออกไว้ตั้งแต่ปี 2560 และกฎหมายที่ออกมาไม่ได้คิดว่าจะช่วยใคร แต่เป็นการออกกฎหมายให้เป็นไปตามหลักสากล เพื่อแก้ปัญหาผู้ต้องขังล้นคุก และให้สอดรับกับหลักสิทธิมนุษยชนให้ผู้ต้องขังได้ปรับตัวก่อนที่จะออกจากเรือนจำ เรื่องนี้มีคนจุดประเด็นให้เป็นดรามาขึ้นมาในสังคมเท่านั้น ถ้าคำนึงถึงความยุติธรรมและความเป็นมาที่เป็นจริงก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

มั่นใจรัฐบาลไร้ปมร้อน

เมื่อถามว่า กรณีสลับกระทรวงยุติธรรม ยกเว้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จนถูกเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับกรณีนายทักษิณ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่เกี่ยว สื่อตั้งฉายาให้ตนว่า รองกอง งานก็กองอยู่ที่ตนเต็มไปหมด จึงพยายามผลักออก โดยปรับกระทรวงและคณะกรรมการที่ตนรับผิดชอบดูแล 12 คณะ ให้ไปอยู่ในความรับผิดชอบของนายสมสักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ส่วนกระทรวงพาณิชย์ตนรับผิดชอบเอง เพราะมีความเชื่อมโยงกัน เช่นเดียวกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ส่วนกระทรวงสาธารณสุขที่อยู่นอกวงจรจึงให้นายสมศักดิ์รับผิดชอบ ส่วน 12 คณะก็เกลี่ยไปให้คนอื่นรับผิดชอบ

"ทุกคนมีความสามารถหมด นายสมศักดิ์เคยดูแลกระทรวงยุติธรรมตั้งแต่เริ่ม และดูเหมือนทีแรกก็จะให้ผมไปดูกระทรวงยุติธรรม ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหาอะไร" นายภูมิธรรมกล่าว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองปี 2567 จะมีอุปสรรคอะไรที่จะทำให้นายกฯ และรัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอมหรือไม่ว่า ดูจากการรับประทานอาหารกลางวันในวันนี้ (28 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างนายกฯ และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลก็ดูดีมาก เข้าใจกันทุกฝ่าย และพร้อมจะให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน

 เมื่อถามว่า ยังไม่เห็นปมร้อนอะไรที่จะทำให้รัฐบาลมีปัญหาใช่หรือไม่  นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีปมร้อน

ถามว่า ในฐานะรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ทำงานมา 3 เดือน มีงานใดที่ทำแล้วยังไม่พอใจ และพร้อมที่จะผลักดันแก้ไขในปีหน้าหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เยอะอยู่ ซึ่งตนก็พยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ  

วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด รับอวยพรเนื่องในวันปีใหม่ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต รมว.มหาดไทย,  นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา, พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล อดีตรมช.กลาโหม, พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ตบเท้าอวยพร

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 6 หรือรุ่นฝนแรก รวมทั้งคณะกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ  มาอวยพรด้วย

มีรายงานข่าว ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ได้ส่งแจกันดอกไม้มาอวยพรสวัสดีปีใหม่ พล.อ.ประวิตร เนื่องจากติดภารกิจไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเองได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง