กรุงเทพฯ ๐ "วัชระ" ยื่น ป.ป.ช.สอบกราวรูด ทวี-อธิบดีกรมราชทัณฑ์-หมอใหญ่ ร่วมอุ้ม น.ช.ทักษิณ นอนชั้น 14 ไม่มีกำหนด ปชป.แนะย้อนเกล็ด ใช้วิอาญา ม.246 (2) ให้ศาลสั่งทุเลาการจำคุกไว้ก่อน หายป่วยแล้วเอาเข้าคุก "รุ้ง" โวยลั่นสองมาตรฐาน ตอนสามนิ้วติดคุกถูกถ่ายรูป อ้างเป็นคดีที่คนสนใจ
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2567 นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังไปยื่นหนังสือถึงนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ใช้สรรพนามเรียกนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ผิด ว่าการออกข่าวกรมราชทัณฑ์โดยใช้สรรพนามไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กฎระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องของทางราชการ มีลักษณะเอื้อประโยชน์และอวยนักโทษที่มีฐานะ ไม่ปฏิบัติตามหลักนิติรัฐและนิติธรรม ไม่เสมอภาคกับนักโทษทั่วประเทศ จำนวน 280,000 คน
ส่อว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต ขอให้สำนักงาน ป.ป.ช.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และผิดประมวลจริยธรรมของข้าราชการและตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ดังนี้
1.ขอให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กับพวก กรณีการออกข่าวกรมราชทัณฑ์ใช้สรรพนามเรียก น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและกรณีที่เกี่ยวข้อง เช่น การอนุมัติให้ น.ช.ทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจโดยไม่ถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ โดยมีกรณีนายวิษณุ เครืองาม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 และกรณีกรมราชทัณฑ์ตอบรับว่าจะส่งเอกสารและคลิปภาพวันที่ 22-23 สิงหาคม 2566 ให้คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กรณี น.ช.ทักษิณให้สอบสวนเอาผิดว่าเหตุใดยังไม่ส่ง และขอให้ออกคำสั่งคุ้มครองคลิปวิดีโอดังกล่าวไม่ให้ถูกทำลาย
2.ขอให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน แพทย์โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจทุกราย และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจชื่อ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ (พตร.) กรณี น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ต้องรักษาอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน (เกิน 120 วัน) ส่อว่าใช้วิชาชีพแพทย์กรอกข้อความอันเป็นเท็จต่อราชการหรือไม่ ให้ตรวจทุกฉบับตั้งแต่ 22 สิงหาคม 2566 ถึงวันนี้
3.ขอให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่าเหตุใดไม่ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ตามคำร้องเรียนลงวันที่ 20 ธันวาคม 2566 เจ็บป่วยจริงหรือไม่ ทำไมระยะเวลาการรักษาเกิน 120 วันยังไม่หาย เป็นอะไร ทำไมอยู่นานถึง 120 วัน เอื้อประโยชน์ให้กับ น.ช.ทักษิณหรือไม่ ทั้งนี้ โดยขอให้กันข้าราชการกรมราชทัณฑ์ (พัศดี/ผู้คุม) แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจที่ให้การเป็นประโยชน์ไว้เป็นพยานทุกคน
หยุดความอหังการนักโทษเทวดา
ด้านนายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก CHAO MEEKHUAD เรื่อง หยุดความอหังการนักโทษเทวดาชั้น 14 ด้วยอำนาจศาลฎีกาฯ สั่งทุเลาโทษจำคุกตาม วิอาญา มาตรา 246 มีเนื้อหาระบุว่า ปัญหาการรับโทษจำคุกของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ที่ได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่รัฐเยี่ยงเทวดา สร้างความสั่นคลอนต่อระบบยุติธรรมไทยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ล่าสุดหลังผ่าน 120 วัน กรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่า “ขณะนี้นายทักษิณ ชินวัตร ได้ออกไปรับการรักษาตัวยังโรงพยาบาลตำรวจเกินระยะเวลา 120 วัน โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการประสานไปยังโรงพยาบาลตำรวจเพื่อรับทราบถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ซึ่งแพทย์ได้รายงานอาการเจ็บป่วยในหลายประการที่ต้องเฝ้าระวังโดยแจ้งความเห็นว่า ผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์เฉพาะทาง และต้องดูแลอย่างใกล้ชิดถึงอาการป่วย เพื่อให้พ้นจากสภาวะอันตรายแก่ชีวิต”
นายเชาว์ระบุต่อว่า ฟังได้แค่ขำๆ เพราะไม่มีใครเขาเชื่อ เช่นเดียวกับ กมธ.ตำรวจ สภาฯ ไปตรวจงานที่โรงพยาบาลตำรวจ มีการส่งตัวแทนคือ นายชัยชนะ เดชเดโช ประธาน กมธ. เป็นตัวแทนขึ้นไปชั้น 14 ที่นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวอยู่ แต่ไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของนักโทษชายทักษิณ จนอดขำไม่ได้เช่นกัน เพราะภารกิจนี้ของ กมธ. ไม่สมเหตุสมผลมาตั้งแต่แรก
จึงถูกตั้งข้อสงสัยว่า สถานการณ์แบบนี้รู้อยู่แล้วหรือไม่ว่า สิ่งที่ได้จากภารกิจนี้จึงมีเพียงแค่โหนกระแสนักโทษชายทักษิณให้ได้เป็นข่าวเท่านั้น ขณะที่บางคนคิดไปไกลถึงขั้นว่า มีใครกำลังเคาะกะลา เรียกเรตติ้ง สร้างราคาให้ตัวเอง เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองประโยชน์อะไรอยู่หรือเปล่า จึงเป็นห้วงเวลาแห่งความสิ้นหวังต่อระบบยุติธรรมไทย แต่ละองค์กรเละเทะไปหมดในยุคนักโทษชายครองเมือง ผมเคยทำจดหมายเปิดผนึกถึง ป.ป.ช. และอัยการสูงสุด ในฐานะโจทก์แต่ละคดีทั้งสามคดี
ในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงให้ใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ศาลไต่สวนพฤติการณ์การจำคุกของนักโทษชายทักษิณ ว่าถูกต้องตามบทบัญญัติของกฎหมาย หรือไม่ เพราะเชื่อว่าไม่ได้ป่วยจริง แต่ ป.ป.ช.และอัยการสูงสุดก็ไม่ขยับ แต่ก็มีคนเคยนำประเด็นนี้ไปยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาโดยตรง แต่ศาลยกคำร้อง อ้างเหตุเป็นอำนาจของราชทัณฑ์ ภายหลังจากที่กรมราชฑัณฑ์แถลงหลังนอนอยู่ รพ. ตำรวจเกิน 120 วันของนักโทษชายทักษิณว่า "อยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์เฉพาะทาง และต้องดูแลอย่างใกล้ชิดถึงอาการป่วย เพื่อให้พ้นจากสภาวะอันตรายแก่ชีวิต"
ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อน
ผมจึงเห็นว่ากรณีเจ็บป่วยของนักโทษชายทักษิณจึงน่าจะเข้าหลักเกณฑ์เรื่องการทุเลาโทษจำคุกตาม ป.วิ อ. มาตรา 246 (2) บัญญัตว่า เมื่อเกรงว่าจำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อนจนกว่าเหตุอันควรทุเลาจะหมดไป ดังนั้น เมื่อเป็นการทุเลาโทษจำคุก จึงถือว่านักโทษชายทักษิณยังไม่ได้รับโทษจำคุก จนกว่าจะหายป่วย และส่งตัวเข้าเรือนจำตามปกติจึงจะเริ่มรับโทษจำคุกใหม่ การพักโทษที่นักโทษชายทักษิณกำลังจะได้รับก็ยังไม่เริ่มนับเช่นเดียวกัน
"ผู้เกี่ยวข้องควรเริ่มดำเนินการทันที เพราะหากไม่ทำอะไรเลย เท่ากับตอนนี้นับถอยหลังรอวันนักโทษเทวดาพ้นคุกแบบชิลๆ เนื่องจากเหลืออีกเพียงเดือนเศษ ก็จะเข้าหลักเกณฑ์ขอพักโทษแล้ว หากปล่อยให้ถึงวันนั้น ระบบยุติธรรมไทยคงเสื่อมถอยมากในสายตาของประชาชน และผมเชื่อเลยว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่นายทักษิณพ้นคุก สุขภาพของเขาจะแข็งแรงขึ้นมาทันที รวมถึงจะกลับมามีบทบาททางการเมืองอย่างเข้มข้น คนที่เป็นนายกฯ อยู่ในปัจจุบัน ก็จะเหลือค่าแค่นอมินีเท่านั้น ไม่แตกต่างจากในอดีต ผมขอย้ำว่า คนทำผิดต้องติดคุก คนทำร้ายชาติบ้านเมืองต้องไม่ได้ดี" นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย
เช่นเดียวกับ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ได้ตรวจดูและศึกษาข้อกฎหมาย ป.วิอาญา ภาค 6 การบังคับตามคำพิพากษา และค่าธรรมเนียม ในหมวด 1 ของการบังคับตามคำพิพากษา มาตรา 246 ที่ระบุว่า ‘เมื่อจำเลย สามี ภริยา ญาติของจำเลย พนักงานอัยการ ผู้บัญชาการเรือนจำ หรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายจำคุก ร้องขอ หรือเมื่อศาลเห็นสมควร ศาลมีอำนาจสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อน จนกว่าเหตุอันควรทุเลาจะหมดไป ในกรณีต่อไปนี้ (1) เมื่อจำเลยวิกลจริต (2) เมื่อเกรงว่าจำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก (3) ถ้าจำเลยมีครรภ์ และ (4) ถ้าจำเลยคลอดบุตรแล้วยังไม่ถึงสามปี และจำเลยต้องเลี้ยงดูบุตรนั้น
นายชาญชัยกล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามคำชี้แจงของกรมราชทัณฑ์เมื่อวันที่ 11 ม.ค.67 ที่สรุปสาระสำคัญได้คือ การที่กรมราชทัณฑ์ได้ส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร ออกจากเรือนจำมารักษาที่ รพ.ตำรวจเกินกว่า 120 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.2566 โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้ประสาน รพ.ตำรวจ ซึ่งแพทย์ได้รายงานอาการเจ็บป่วยที่ต้องเฝ้าระวัง อยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์เฉพาะทางและต้องดูแลอย่างใกล้ชิดถึงอาการป่วย เพื่อให้พ้นจากสภาวะอันตรายแก่ชีวิต ซึ่งตรงกับข้อกฎหมาย ป.วิอาญา ม.246 (2) (ที่ระบุว่า เมื่อเกรงว่าจำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก) ซึ่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้พิจารณาความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาที่พิจารณาแล้วเห็นว่า ยังต้องอยู่ดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด จึงพิจารณาเห็นชอบเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2567 ให้นายทักษิณอยู่รักษาตัวต่อยัง รพ.ตำรวจ เพราะยังมีอาการเจ็บป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้ทำการรักษาเฉพาะทาง และหากเกิดภาวะแทรกซ้อน หรืออาการที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต จะได้รักษาทันท่วงที ทางกรมราชทัณฑ์ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงยุติธรรม จึงรายงานให้รัฐมนตรียุติธรรมทราบ ที่เป็นไปตามกฎกระทรวงกรณีการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ซึ่งขัดต่อกฎหมาย ป.วิอาญา ม.246 (2) ทั้งที่กรมราชทัณฑ์ต้องทำรายงานขออนุญาตต่อศาล รวมทั้งต้องทำเรื่องขอให้ศาลทุเลาโทษจำคุกโดยให้รักษาตัวให้หายจากอาการป่วยเสียก่อน แล้วค่อยกลับมารับโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลต่อไป
'รุ้ง' โวยสองมาตรฐาน
“กรณีอ้างเหตุเจ็บป่วยไม่ยอมเข้ารับโทษในเรือนจำ น่าจะเข้าหลักเกณฑ์เรื่องการทุเลาโทษจำคุกตาม ป.วิ อาญา ม.246 (2) ดังนั้น เมื่อเป็นการทุเลาโทษจำคุกจึงถือว่า น.ช.ทักษิณยังไม่ได้รับโทษจำคุก จนกว่าจะหายป่วย และส่งตัวเข้าเรือนจำตามปกติจึงจะเริ่มรับโทษจำคุกใหม่ การพักโทษก็ยังไม่เริ่มนับเช่นเดียวกัน ศาลยังไม่ได้สั่งให้ทุเลาโทษจำคุก แต่กลับไปทุเลากันเอง ถามว่าเรื่องนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร กรณีดังกล่าวนี้ ผมเห็นว่าเป็นการทำความผิดกฎหมาย ป.วิอาญา ม.246 และขัดต่อคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง ซึ่งผมจะนำเรื่องนี้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรม และรวมถึงผู้กระทำความผิดอื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมกระทำความผิด ซึ่งเป็นทั้งตัวการและผู้สนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด” นายชาญชัยกล่าว
วันเดียวกันนี้ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ "รุ้ง" นักเคลื่อนไหวทางการเมืองไทย กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ตอนที่เราอยู่ในเรือนจำ รอบที่มีการอดอาหาร เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำข้อมูลอาการของเราเผยแพร่ต่อสาธารณะหลายโอกาสทั้งที่ไม่ได้มีการขอความยินยอมด้วยซ้ำ ทั้งมีการถ่ายภาพไว้ทุกครั้งที่มีการตรวจด้วย พอเรามารู้ทีหลังว่ามีการเผยแพร่ (แต่ไม่ได้แพร่ภาพนะคะ) เราจำได้ว่าเราถาม จนท.ราชทัณฑ์ว่าทำไมมีการเผยแพร่โดยไม่บอกเราเลย
เขาให้คำตอบว่า เพราะเป็นคดีที่มีความสนใจของสาธารณะสูง เลยต้องเปิดเผยได้
เลยจะบอกเฉยๆ ว่า นายทักษิณก็มีคนสนใจทั้งประเทศ อาจจะยิ่งกว่าพวกเรานักกิจกรรมด้วยซ้ำนะคะ
ไม่สองมาตรฐานยังไงก่อน
คือมันดีมากแล้วแหละที่ราชทัณฑ์จะดูแลผู้ที่แก่และป่วยอย่างดี แต่ไม่ได้ทำแบบนี้กับทุกคนไง มันเหลือจะเชื่อสำหรับคนที่เคยเข้าไปอยู่ในเรือนจำจริงๆ นะ เป็นไปได้ยังไงที่เข้าไปเรือนจำ อยู่ยังไม่ถึง 6 ชั่วโมงด้วยซ้ำแล้วได้ออกมานอนที่ รพ.ยาวๆ ในขณะที่คนป่วยคนอื่นก็อยู่ตามมีตามเกิดไป
การที่คนจะมีคำถามต่ออาการป่วยของนายทักษิณนั้นไม่แปลกเลย".
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชงวิป3ฝ่ายส่งศาลรธน. ตีความประชามติกี่ครั้ง
"ชูศักดิ์" ชงวิป 3 ฝ่ายส่งศาล รธน.ตีความซ้ำทำประชามติกี่ครั้ง
ไทย-จีนชื่นมื่นลงนาม14ฉบับ
"นายกฯ อิ๊งค์” คุย “สี จิ้นผิง” ชื่นมื่น! สานสัมพันธ์ครบ 50 ปี
ดัน‘สมชัย’ลงชิง ปธ.บอร์ดธปท. จ่อเคาะ28ก.พ.
ศึกชิงดำ! "คลัง" ไฟนอลแล้ว ส่ง "สมชัย สัจจพงษ์" ลงชิงเก้าอี้ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
ร่วมมือปราบแก๊งคอล ‘อ้วน’พอใจมาตรการ
"นายกฯ อิ๊งค์" คุย "สี จิ้นผิง" เดินหน้าร่วมกันปราบอาชญากรรมข้ามชาติ
จำคุก‘พิรงรอง’2ปี ผิดม.157เตรียมล้มยักษ์ทรู ‘ไหม’ชี้เข้าข่ายฟ้องปิดปาก
ศาลอาญาคดีทุจริตพิพากษาจำคุก “พิรงรอง” 2 ปี ผิด ม.157
ลูบหลังแดง‘แม้ว-อิ๊งค์’เห็นค่า
นายกฯ ถึงปักกิ่งแล้ว เตรียมพบ "สี จิ้นผิง" หารือความร่วมมือแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ