‘เสี่ยต่อ’โวยการเมืองโยงหมูเถื่อน

"เฉลิมชัย" โวยโดนเล่นการเมือง โยงเอี่ยวขบวนการหมู-ไก่เถื่อน ยันไม่เคยรับเงินสกปรกแม้แต่บาทเดียว บอกสบายใจคนใกล้ชิดเข้าสู่กระบวนการต่อสู้ ขู่ใครทำเสียหายฟ้องแน่ ปัด "เฮียเก้า" ไม่ได้มีพ่อคนเดียวกัน "ทวี" ลั่นทำคดีหมูเถื่อนเต็มที่ ยึดตามหลักฐาน "ธรรมนัส" ส่ง "อธิบดีปศุสัตว์-ฝ่าย กม.คุยดีเอสไอขยายผลจับกุมเพิ่ม "อัจฉริยะ" หวั่นคดีตีนไก่เถื่อนมวยล้ม จ่อยื่น กมธ.มั่นคงฯ ดำเนินการต่อ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) วันที่ 16  ม.ค. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. พร้อมกรรมการบริหารพรรคและสส. แถลงข่าวกรณีนายเฉลิมชัยถูกพาดพิงมีส่วนเกี่ยวกับกับคดีหมูเถื่อนว่า  2-3 เดือนที่ผ่านมา มีขบวนการสร้างประเด็นเพื่อโยงให้ถึงตนขณะที่ดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องหมูเถื่อนและไก่เถื่อน ซึ่งมั่นใจกรณีนี้ไม่ได้เเกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เกิดจากผลทางการเมือง มีการดำเนินการต่อเนื่องและอาจทำให้สังคมไขว่เขว้ เข้าใจผิดว่าตนมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด

นายเฉลิมชัยกล่าวว่า วันที่ตนเข้าเป็น รมว.เกษตรฯ ได้มอบอำนาจเต็มให้กับนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ มีอำนาจหน้าที่สั่งการ อนุญาต อนุมัติ กำกับดูแล หรือดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ ให้นายประภัตรปฏิบัติราชการแทน และกรมปศุสัตว์ก็ได้มอบหมายให้นายประภัตรกำกับดูแลเช่นเดียวกัน ซึ่งในส่วนหมูที่ตนเข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นช่วงที่มีการระบาดโรคอหิวาต์หมู โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องระดับรัฐบาล มีการตั้งคณะกรรมการ โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ ที่กำกับดูแลเป็นประธาน แต่นายจุรินทร์ได้มอบให้ดูแลแก้ปัญหา ซึ่งไม่สามารถมอบหมายให้คนอื่นแทนได้ จึงเป็นประธานต่อเนื่องจนกระทั่งมีข่าวหมูเถื่อน ตั้งแต่ปี65 เป็นต้นไป

 “ผมเรียนทุกท่าน พูดแต่ต้นว่า ผม  ครอบครัวผม ไม่ทำเรื่องสกปรก ไม่รับเงินพวกนี้แม้แต่บาทเดียว พูดไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ไม่มีนอมินีรับเงินแทน ไม่เอื้อประโยชน์แบบผิดกฎหมายให้ใครทั้งสิ้น อย่าว่าแต่คนใกล้ชิดเลย แม้แต่คนในครอบครัวผม  ถ้าทำผิดไม่มีใครละเว้นได้ ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ต้องโดนลงโทษทางกฎหมายทั้งสิ้น ขอให้บอกชื่อมาเลยว่านักการเมืองคนไหนที่ทำให้คนเข้าผิดว่าเป็นผม วันนี้ผมมีความสุขที่สุด สบายใจที่สุด เพราะที่คนเกี่ยวข้องกับผมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ผมจะไม่เข้าไปก้าวก่าย เพราะเชื่อมั่นใจระบบยุติธรรมบ้านเราที่ยังมีความศักดิ์สิทธิ์” นายเฉลิมชัยกล่าว

หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ขณะนี้มีข่าวแว่วว่ากำลังจะมีการนำบุคคลที่กระทำความผิดไปเป็นพยาน เพื่อชักนำไปถึงบุคคลอื่นๆ และที่บอกว่ามีไอ้โม่งอยู่เบื้องหลัง ขอเรียกร้องให้ช่วยกันขุดคุ้ยว่าไอ้โม่งนั้นเป็นใคร ตนพร้อมร่วมมือทุกอย่าง ส่วนคนใกล้ชิดดำเนินการตามกฎหมายได้เลยถ้าเขาผิด แต่เขามีสิทธิ์พิสูจน์ และเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม ถ้าทำให้ตนเสียหาย ตนฟ้องแน่นอน และจะไม่ไปกลั่นแกล้งหรือระรานใคร ตนทำเพื่อปกป้องตัวเองและองค์กรที่สังกัดอยู่

ถามว่า เขาต้องการอะไรเพื่อให้นายเฉลิมชัยเสียชื่อเสียงตอนนี้ เป็นเพราะพรรคจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเฉลิมชัย ชี้แจงว่า ไม่เกี่ยวกับประเด็นการไปร่วมรัฐบาล และไม่เกี่ยวกับเรื่องชั้น 14 เพราะหากป่วยหนักเขาคงไม่สามารถสั่งอะไรได้

นายเฉลิมชัยให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงความสัมพันธ์กับนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า หนึ่งในผู้ต้องหาที่ดีเอสไอออกหมายจับในคดีหมูเถื่อนว่า คนไทยมีบรรพบุรุษมาจากประเทศจีนเยอะแยะ ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจใหญ่ๆทุกคน คนเหล่านี้เดินทางมาจากประเทศจีน มาก่อร่างสร้างตัวทำมาหากินโดยสุจริต ถามว่าใครไม่มีญาติบ้าง ประเทศจีนหมู่บ้านเดียวกันก็เป็นญาติกันทั้งหมด ตนไม่เคยเถียงว่าไม่มีญาติ ตนมีญาติ และอยากถามว่าทุกตระกูลใหญ่ๆ ในประเทศท่านมีญาติแล้วรู้หรือไม่ว่าญาติไปทำธุรกิจอะไร ไม่มีใครไปก้าวก่าย แต่ถ้าอยู่ในประเทศไทยทำผิดกฎหมายต้องได้รับการลงโทษไม่ว่าใคร

"ฉะนั้นไปลงข่าวให้ดีๆ ผมไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่มีญาติ แต่ผมปฏิเสธว่าผมกับเขาไม่ใช่ลูกพ่อเดียวกัน มีนักข่าวบางสำนักนำไปบิดเบือนเพื่อที่จะโยงให้ผมใกล้ชิดที่สุด ไม่ใช่ เพราะพ่อผมอยู่ประเทศไทยอยู่มา 80 ปี คงไม่สามารถเข้าฝันและไปท้องที่ประเทศจีนได้ และไม่เคยไปประเทศจีนอีกเลย พ่อคงไม่มีฤทธิ์เดชแน่นอน ผมชี้แจงแค่นี้ ไม่ใช่เอาไปลงข่าวว่าผมปฏิเสธว่าไม่มีญาติ วันนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ความจริงก็ต้องปรากฏ ถ้าผมเสียหายผมฟ้องแน่นอน ผมถึงถามหาจรรยาบรรณ และสำนึก ถ้ามีสำนึกก็ไปบอกกับประชาชนในข้อเท็จจริงผมก็จบ  ผมไม่ได้มีความอาฆาตแน่นอน แต่ถ้าผมเสียหายไม่ยอม ฝากไปบอกสื่อที่ตามเรื่องนี้จนทำเป็นศาลเตี้ยเอง” นายเฉลิมชัยกล่าว

หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ส่วนกรณีนางกาญจนี วัลยะเสวี หรือติ๊งต่าง อดีตแม่ยก ปชป. นำรูปภาพตนและนายเดชอิศม์ ทองขาว เลขาธิการพรรค ไปพบกับนายอู๋ เอินฮุย ที่ประเทศจีน มาลงโซเชียล โดยพยายามโยงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของตนกับเฮียเก้า นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย-เอเชีย ที่ถูกดีเอสไอออกหมายจับ ซึ่งถือเป็นความไม่รู้ โง่เขลาทำให้เกิดความเสียหายทั้งประเทศ

 “คุณเอาความไม่รู้มาเล่นการเมือง ตั้งใจด่าผม ด่าความเป็นหัวหน้าพรรคปชป. คุณเลิกใช้คำว่าแม่ยก ปชป.เสียที อย่ามายุ่งกับพรรคเลย คุณกำลังจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทำลายนักลงทุนที่กำลังเดินทางมาลงทุน  ฝากรัฐบาลด้วยว่าคนประเภทนี้คุณจะอยู่เฉยหรือ" นายเฉลิมชัยกล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีเสียงวิจารณ์ความล่าช้าในคดีนำเข้าหมูเถื่อนว่า ก็เห็นว่าพนักงานสอบสวนทำคดีความทั้งวันทั้งคืน ได้มีการกำชับพนักงานสอบสวนว่าให้พยานหลักฐานมันเป็นสิ่งที่พูด อย่าใช้ความรู้สึก หากสาวถึงใครไม่ใช่ไปดำเนินคดี แต่ให้เรียกเขามาสอบ รวมทั้งอยากให้พนักงานสอบสวนใช้ความรอบคอบ ให้ศาลเป็นผู้ออกหมายจับ

ถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ไม่ค่อยพอใจเรื่องความล่าช้าหลังจากส่งเรื่องไปนานแล้ว พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ท่านก็อยากแก้ปัญหา แต่กับตนไม่เห็นจะพูดอะไร เหมือนให้กำลังใจกันตลอด

"เรื่องนี้ไม่ได้ตั้งธงจะจับใคร ถ้าหลักฐานถึงใครก็ต้องดำเนินการ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของเรา ประชาชนก็จับตามองอยู่ ยืนยันไม่ใช่มวยล้มต้มคนดู ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน โดยหลักการคือต้องยึดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่บุคคลเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้" พ.ต.อ.ทวีกล่าว

วันเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ (16 ม.ค.) อธิบดีกรมปศุสัตว์และฝ่ายกฎหมายของกระทรวงเกษตรฯ จะเดินทางไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ พ.ต.อ.ทวีและดีเอสไอ เพื่อขยายผลจับกุมผู้กระทำเพิ่มเติม

ถามว่าจะสามารถเปิดเผยผู้กระทำผิดตัวจริงได้ในเร็วๆ นี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องพูดคุยกับ รมว.ยุติธรรมก่อน อย่างไรก็ตาม ตนและ พ.ต.อ.ทวีพูดคุยกันทุกวันเข้าใจกันดี หากพบว่าคนของกระทรวงเกษตรฯ ไปกระทำการที่ล้ำเส้น ก็ต้องตักเตือน และในฐานะที่เป็นตัวแทนรัฐบาล จึงมีความชอบธรรมที่จะตักเตือนหน่วยงานของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใดก็ตาม

ที่กองคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อพาพยานปากสำคัญในขบวนการสวมสิทธิ์ตีนไก่ที่เคยได้ให้ข้อมูลกับดีเอสไอตั้งแต่ปี 2565 มาขอรับการคุ้มครองพยาน

"คดีสวมสิทธิ์ตีนไก่เถื่อนนี้ เชื่อว่ามีแนวโน้มจะเงียบหายไปด้วยเช่นกัน เพราะมีการใช้อิทธิพลจากนักการเมืองเข้ามาแทรกแซง วิ่งเต้น และรับผลประโยชน์กัน จึงเห็นว่าคงต้องพึ่งพาฝ่ายค้าน ในวันที่ 28 ม.ค.นี้ จะนำหนังสือหลักฐานทั้งหมดไปยื่นให้กับนายรังสิมันต์ โรม  สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบและกดดันการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้องให้ได้ต่อไป" นายอัจฉริยะกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง