สั่งเคอร์ฟิวเด็กสระแก้ว ให้ป.ป.ช.ฟันตร.ผิด157

ผบ.ตร.ส่งสำนวนคดีตำรวจอรัญประเทศจับแพะคดีฆ่า "ป้าบัวผัน" ให้ ป.ป.ช.ฟันผิด ม.157 สั่งกวาดล้างแก๊งเยาวชนป่วนเมืองทั่วประเทศใน 1 เดือน คุมเข้มเด็กสระแก้วออกนอกบ้านหลัง 4 ทุ่มต้องทำประวัติพร้อมเชิญผู้ปกครอง กำชับผู้บริหาร ตร.ทำความเข้าใจ พ.ร.บ.อุ้มหาย อย่าอ้างไม่รู้ทำประชาชนเดือดร้อน ขณะที่ผู้การสระแก้วเผยพบเด็กอายุ 11 ขวบร่วมแก๊งป่วนเมือง

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 ที่กองบินตำรวจ  พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีตำรวจบังคับขู่เข็ญให้นายปัญญา คงแสนคำ หรือลุงเปี๊ยก รับสารภาพในคดีฆาตกรรมนางสาวบัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ ว่า หลังจากสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเรียบร้อยแล้ว จะส่งสำนวนในคดีที่มีข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามมาตรา  157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ไต่สวนเพื่อพิจารณาชี้มูลความผิด พร้อมให้จเรตำรวจแห่งชาติตรวจสอบเรื่องนี้ควบคู่กันไปด้วย

ผบ.ตร.ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ดำเนินการล่าช้า และไม่มีการช่วยเหลือตำรวจด้วยกันอย่างแน่นอน แต่ความผิดในฐานอื่นนั้นต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐาน จะต้องดำเนินการอย่างรอบด้าน ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงการสอบปากคำลุงเปี๊ยก เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้ เพราะลุงเปี๊ยกอยู่ระหว่างการบำบัดอาการสุราเรื้อรังที่โรงพยาบาล

"หากสอบปากคำลุงเปี๊ยกแล้วพบพยานหลักฐานการกระทำความผิดในข้อหาอื่น ก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้ และขออย่าเร่งการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนถูกต้องที่สุด แต่หากพบว่าลุงเปี๊ยกให้การเท็จก็จะเข้าข่ายกระทำความผิดด้วยเช่นกัน"

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า ยังได้สั่งการให้มีการระดมกวาดล้างกลุ่มแก๊งเยาวชนกวนเมืองทั่วประเทศให้ลดลงภายใน 1 เดือน โดยในพื้นที่จังหวัดสระแก้วนั้น ได้มอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วระดมกวาดล้าง จัดทำบันทึกประวัติและพฤติกรรมของกลุ่มแก๊งเยาวชนในพื้นที่ทั้งหมด และให้กวดขันเยาวชนอายุ 10-15 ปีที่ออกนอกบ้านหลัง 4 ทุ่มโดยไม่มีผู้ปกครองมาด้วย หากพบจะต้องเชิญมาทำประวัติและเชิญผู้ปกครองสอบถาม และได้ให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมดำเนินการในพื้นที่อื่นๆ ด้วย เช่นจังหวัดเชียงใหม่ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ตั้งกลุ่มกวนเมือง หรือกลุ่มแก๊งในพื้นที่นนทบุรีและสมุทรปราการที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่อาจไม่เพียงพอ

ส่วนคดีความที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเด็ก 5 คนในจังหวัดสระแก้วนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า ล่าสุดมีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 5 คดี แต่หากเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มใหญ่ที่มีทั้งหมด 20 คนนั้นมีทั้งหมด 8 คดี ซึ่งได้รับแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว โดยจะเร่งรัดในการทำคดีทั้งหมด

ที่ห้องประชุมซีบอร์ด 3 โรงแรมฮิลตัน จ.ชลบุรี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 โดยมี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย ผช.ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 และผู้บังคับบัญชาในสังกัด  ภ.2 ร่วมประชุม นอกจากนี้ มีการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมประชุม

ผบ.ตร.กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ประเด็นหลักในที่ประชุมเน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจใหม่ปี 2565 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย เพื่อสร้างความเข้าใจไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาทุกนายว่า จากนี้การทำงานของตำรวจต้องทำงานภายใต้กฎหมาย มีแนวทางปฏิบัติต้องทำให้ถูกต้อง จะมาใช้ความรู้สึกเดิมไม่ได้ หรืออ้างว่าไม่รู้ข้อกฎหมายไม่ได้ เพราะจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จะมีการเน้นย้ำเรื่อง พ.ร.บ.อุ้มหาย ว่ากรณีนี้ต้องเอาพนักงานสอบสวนมาอบรมใหม่ ไม่ปล่อยให้เขาไปทำหน้าที่ตามยถากรรม ต้องให้ความรู้แก่ข้าราชการตำรวจในเรื่องนี้ และไม่ใช่เฉพาะแค่ภาค 2 เท่านั้น แต่ต้องให้ทั้งประเทศปฏิบัติตามได้

ส่วนในกรณีของลุงเปี๊ยก ที่ถูกบังคับให้รับสารภาพในคดีฆาตกรรมป้าบัวผัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า กรณีนี้มีจเรตำรวจแห่งชาติเข้ามาทำหน้าที่สืบสวนข้อเท็จจริงด้วย ไม่ได้สอบสวนแค่เฉพาะในภาค 2 เท่านั้น มีคำสั่งให้กระบวนการแล้วเสร็จภายใน 15 วัน หากมีมูลความผิด ลำดับขั้นต่อไปเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบวินัยร้ายแรง  โดยหากเข้าสู่ระเบียบการตรวจสอบวินัย จะมีบทลงโทษคือปลดออกหรือไล่ออกจากราชการทันที

วันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว (ผบก.ภ.จว.สระแก้ว) กล่าวถึงมาตรการป้องปรามกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ 10-15 ปีในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ที่หากพบว่าออกนอกบ้านหลังเวลา 22.00 น.โดยไม่มีผู้ปกครองมาด้วย เจ้าหน้าที่จะต้องเรียกมาสอบถามตักเตือน พร้อมเชิญผู้ปกครองให้มารับทราบพฤติกรรมตามนโยบายของ ผบ.ตร.นั้น ได้เริ่มดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดทั้งสายสืบ สายปราบปราม ได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงานในจังหวัด เช่น นายอำเภอ, ฝ่ายปกครอง เพื่อตั้งด่านเฝ้าระวัง หากพบเยาวชนอยู่นอกบ้านในเวลาดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะเรียกตัวมาสอบถามและเรียกผู้ปกครองให้มารับทราบ หากเป็นกรณีที่ใช้จักรยานยนต์ก็จะดำเนินการตรวจยึดไว้ รวมทั้งตรวจสอบประวัติ หากพบว่ามีคดีอาญาหรือมีหมายจับ ก็จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและจับกุมตามขั้นตอน

ผบก.ภ.จว.สระแก้วกล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะต้องออกลาดตระเวนตรวจสอบตามหมู่บ้านที่มีการตั้งวงสุราเพื่อไม่ให้มีการมั่วสุม อีกทั้งกรณีนี้ไม่ใช่การจับกุมเยาวชน และไม่ใช่การกระทำผิด เจ้าหน้าที่จึงเพียงเรียกมาสอบถามหรือตักเตือน และเชิญผู้ปกครองเข้ามารับทราบว่าเด็กได้ออกมาข้างนอกในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม จึงไม่กังวลว่าจะขัดแย้งกับสิทธิของเด็กหรือข้อกฎหมายต่างๆ โดยที่ผ่านมาเยาวชนอายุน้อยที่สุดที่พบคือ 11 ขวบ ส่วนใหญ่พบว่าออกมาจับกลุ่มคุยกับเพื่อนๆ แต่เท่าที่ตรวจสอบขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการรวมกลุ่มเสพสารเสพติดหรือดื่มน้ำกระท่อม ส่วนสถิติต่างๆ นั้นอยู่ระหว่างการรวบรวม ผลจากมาตรการดังกล่าวพบว่าทำให้บรรยากาศในพื้นที่สงบเรียบร้อยยิ่งขึ้น

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พาผู้เสียหาย 2 กรณี เข้าพบ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี ได้แก่ 1.น้องวิ หลานสาวลุงเปี๊ยก มาขอความเป็นธรรมตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย หลังถูกคลุมถุงดำ ถอดเสื้อนั่งในห้องแอร์เพื่อทรมานให้รับสารภาพ และ 2.นายสมภพ  กุ่มประเสริฐ อายุ 40 ปี บิดานายกรวิชญ์ กุ่มประเสริฐ อายุ 16 ปี ถูกแก๊งลูกตำรวจโยนบ่อน้ำและใช้มีดฟันซ้ำเสียชีวิต เมื่อ พ.ย. 65 พื้นที่ สภ.อรัญประเทศ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกดีเอสไอเป็นผู้รับเรื่อง

นายกัณฐัศว์กล่าวว่า กรณีลุงเปี๊ยกมีหลานสาวมาขอความเป็นธรรม หลังผลสอบตำรวจพบความผิดเพียง 2 ราย คือ พ.ต.ท.พิชิต วัฒโน รอง ผกก.สส.สภ.อรัญประเทศ  ฐานผิดวินัย กับดาบเศก ฐานผิดวินัย และ ม.157  โดยตนยังรู้สึกติดใจเรื่องการสอบสวนว่าทำกันอย่างไร มีการช่วยเหลือกันหรือไม่ วันนี้มาดีเอสไอเพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ายังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ และตำรวจ 2 รายดังกล่าวมีหลักฐานไปถึงสามารถเอาผิด พ.ร.บ.อุ้มหายหรือไม่ เพราะมีประเด็นการคลุมถุงดำ นั่งถอดเสื้อตากแอร์ในห้องด้วย

นายกัณฐัศว์กล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีพ่อของเด็กอายุ 16 ปีที่เสียชีวิตคดีคล้ายกับ “ป้าบัวผัน” ซึ่งถูกมีดฟันและโยนลงบ่อน้ำเหมือนกัน เหตุเกิดตั้งแต่ปี 65 สำนวนคดียังค้างอยู่ที่ สภ.อรัญประเทศ จนปัจจุบันไม่มีความคืบหน้าทางคดี และไม่เคยเรียกไปสอบถามแต่อย่างใด ถ้าตำรวจ สภ.อรัญประเทศดำเนินคดีตั้งแต่แรก ป้าบัวผันคงไม่ตายและไม่ทำให้เกิดเหตุซ้ำเช่นนี้

ด้าน พ.ต.ต.วรณันระบุว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และดีเอสไอโดยกองกิจการอำนวยความยุติธรรม ได้ตั้งเรื่องสืบสวนข้อมูลและหาพยานหลักฐานข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุต่างๆ ส่วนว่าจะเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายหรือไม่ต้องดูองค์ประกอบข้อกฎหมาย อาทิ การถูกจำกัดเสรีภาพ การกระทำบางอย่างจนให้รับสารภาพ หรือการกระทำอันตรายทั้งร่างกายและจิตใจ และข้อเท็จจริงอื่นมาประกอบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง