"พ่อตะวัน" ยื่นหนังสือเขียนด้วยลายมือถึงอธิบดีศาลอาญาให้หาทางออก หาก "ตะวัน-เเฟรงค์" ตายต้องหาคนรับผิดชอบ จากกรณีศาลมีคำสั่งไม่ปล่อยชั่วคราว "ทนายกฤษฎางค์" ยันหากปล่อยทั้ง 2 คงไม่มีผลไปยุ่งกับพยานหลักฐาน และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ เดินทางมาศาลอาญาพร้อมกับนายสมหมาย ตัวตุลานนท์ บิดาของ น.ส.ทานตะวัน เพื่อยื่นหนังสือถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำนวน 3 ครั้ง ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว
ในวันนี้นายสมหมายได้ยื่นหนังสือที่เขียนด้วยลายมือตัวเอง มีเนื้อหาว่า “ตามที่ศาลมีคำสั่งไม่ปล่อยตัวชั่วคราวนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร ข้าพเจ้าไม่มีคำโต้แย้งใดใด แต่อยากขอให้ศาลอาญาดูแลรับผิดชอบในชีวิตของผู้ต้องหาทั้ง 2 ที่ท่านมีคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการสอบสวนต่อไปด้วย เขาทั้งสองเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา อัยการจะไม่มีคำสั่งฟ้องคดีแต่อย่างใด ดังนั้นยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมาย
หากทั้ง 2 คนถึงแก่ความตายระหว่างที่อยู่การสอบสวน โดยคำสั่งของศาลอาญา ขอให้ท่านโปรดพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ดวงวิญญาณทั้ง 2 ดวง ว่าใครต้องรับผิดชอบการตายจากการที่ท่านมีคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว และขอได้โปรดให้ท่านพิจารณาและหาทางออก”
ด้านนายกฤษฎางค์กล่าวว่า ตนได้คุยกับ ผอ.โรงพยาบาลราชทัณฑ์ อาการของทานตะวันเกินศักยภาพการดูแลของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จึงมีการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ส่วนอาการของแฟรงค์พยายามขอส่งตัวไปยังโรงพยาบาลหลายโรงพยาบาล แต่ยังไม่สามารถส่งตัวไปได้ โดยอาการของแฟรงค์มีอาการเจ็บป่วยค่อนข้างหนักเหมือนกับตะวัน เนื่องจากทั้งคู่ปฏิเสธการดื่มน้ำและทานอาหารมาเป็นเวลาหลายวัน
นายกฤษฎางค์บอกด้วยว่า คดีดังกล่าวทั้ง 2 ถูกขังระหว่างการสอบสวนของ สน.ดินแดง อีกทั้งยังไม่มีการสั่งฟ้องของอัยการ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีการสั่งฟ้องหรือไม่ อีกทั้งในชั้นไต่สวนของการฝากขัง และมีการสอบสวนพยานไปหมดแล้ว เหลือเพียงอีกแค่ 5 ปาก โดยใน 5 ปากนั้นแบ่งเป็นตำรวจผู้จับกุมและชาวบ้านที่ยังไม่มีรายชื่อส่งมา ซึ่งตนมองว่าหากปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 2 ก็คงไม่มีผลที่จะไปยุ่งกับพยานหลักฐาน เพราะเป็นเพียงนักศึกษาเท่านั้น อีกทั้งผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนีอีกด้วย
ขณะที่นายสมหมายกล่าวว่า การฝากขังของลูกเป็นเพียงการฝากขังในชั้นพนักงานสอบสวน ยังไม่มีการสั่งฟ้อง จะมาตัดสินได้อย่างไรว่าเป็นคดีร้ายแรง มีอัตราโทษจำคุกสูง อีกทั้งผู้ต้องหาทั้งสองคนมีที่อยู่หลักแหล่งอย่างแน่นอน และไม่มีโอกาสที่จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่สิ่งที่ตนกังวลคือเรื่องอาการของลูกสาวและแฟรงค์ ที่ต้องการนำตัวมารักษาเพราะอาการแย่แล้ว แต่ถ้าปล่อยมาแล้วทางตำรวจกังวลว่าจะหลบหนี ก็นำตำรวจมาดูตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ทำอย่างไรก็ได้เพื่อไม่ให้น้องหนี แต่ถ้าน้องจะหนีน้องคงหนีไปนานแล้ว ไม่อยู่ให้จับในวันนั้นหรอก
เมื่อถามถึงอาการของ น.ส.ตะวัน นายสมหมาย บอกว่า น้องอาการหนักมาก แต่ก็รู้สึกเบาใจที่อยู่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ที่อยู่ใกล้ชิดแพทย์ เป็นห่วงแต่แฟรงค์ที่อยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีอาการไม่ต่างจากลูกสาวแต่ยังอยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ย้ายแฟรงค์ออกไปยังโรงพยาบาลที่พร้อมรักษา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดิจิทัลวอลเล็ตเดินบนเส้นด้าย
กรุงเทพฯ ๐ "จุรินทร์" อัดยับ ดิจิทัลวอลเล็ตเหมือนเดินบนเส้นด้าย เพราะคลุมเครือ ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงทางด้านการเงิน
รอโปรดเกล้าฯครม. ‘เศรษฐา’เผยจบแล้ว ‘จุรินทร์’ เห็นใจนายกฯไม่มีอำนาจเต็ม
ปรับ ครม.จบแล้ว! "เศรษฐา" เผยไม่ต้องทำอะไรแล้ว ทูลเกล้าฯ ก็จะรู้เอง
‘ปชป.’ปรับสูตรใหม่! หวังกลับเป็นเสาหลัก
ประชาธิปัตย์ประชุมใหญ่พรรค ไฟเขียวแก้น้ำหนักคะแนนโหวต กก.บห.-กก.สรรหาใหม่ ใช้สูตร 40:40:20
งบฯ 68 ‘กห.’ ร่วง แต่ซื้ออาวุธพุ่ง เลิกพีอาร์ทหาร
“กห.” ร่วงอันดับ 4 เผย งบบุคลากรลดลงกว่า 2 พันล. ขณะที่ งบซื้ออาวุธเพิ่มขึ้นหลังถูกชะลอในปี 67
แบงก์รัฐแห่หั่นดอกเบี้ย0.25%
“สมาคมแบงก์รัฐ” กลัวตกเทรนด์ เด้งรับนโยบายเศรษฐา ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% นาน 6 เดือน
‘ช่อ’เมิน‘กกต.’ สกัด‘ออนไลน์’ เลือกตั้งสภาสูง
ดักทางก้าวหน้า-ก้าวไกลยึดสภาสูง กกต.ออกโรงเตือนหยุดชวนคนสมัคร สว.และกรอกคุณสมบัติ-จุดยืน เพื่อนำไปเผยแพร่ออนไลน์