คุมเข้มลดตาย7วันอันตรายปีใหม่

เริ่มแล้ว 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ ภาครัฐคุมเข้ม ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ ดึงเครือข่าย อสม.ทั่วประเทศกว่า 1.05 ล้านคน สแกนพวกเมาแล้วขับ โอมิครอนทำกร่อย กรุงเทพโพลล์เผยคนส่วนใหญ่ไม่มีแผนออกเดินทาง-ขออยู่บ้าน เหตุกลัวโควิด และหวั่นคลัสเตอร์พุ่งหลังปาร์ตี้เคาต์ดาวน์รับปีเสือ

เริ่มเข้าสู่ช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ (29 ธันวาคม 2564-4 มกราคม 2565) หลายภาคส่วนแนะประชาชนให้ร่วมกันป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนช่วงเทศกาลหยุดยาวปีใหม่

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล และช่วงวันหยุด พ.ศ.2565 มุ่งเน้นการบริหารจัดการในลักษณะพื้นที่เป็นตัวตั้ง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนและอุบัติภัยอื่นๆ โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เคร่งครัด ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกและความรู้ด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนและประชาชน ภายใต้ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ”

นายธนกรกล่าวว่า สำหรับการดำเนินการในช่วงปีใหม่ 2565 จะแบ่งออกเป็น 1.ช่วงรณรงค์และประชาสัมพันธ์ (1-21 ธันวาคม 64) 2.ช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน (29 ธันวาคม 64-4 มกราคม 65) และช่วงหลังควบคุมเข้มข้น 7 วัน (5-11 มกราคม 65) ซึ่งนายกรัฐมนตรียังขอให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยทหารในพื้นที่และภาคประชาสังคม รวมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครต่างๆ และประชาชน เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อร่วมลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนทั้งจากคน ยานพาหนะ ถนน และสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด ควบคู่กับการดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการดำเนินการเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ กระทรวงสาธารณสุขได้มีการเตรียมความพร้อมดูแลประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 ทั้งด้านการแพทย์และสาธารณสุข และการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนน ซึ่งกรม สบส.ในฐานะหน่วยงานที่มีความใกล้ชิดกับเครือข่ายสำคัญของระบบสาธารณสุขไทย อย่างอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. จึงได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดทำแนวทางการประเมิน และคัดกรองผู้ขับขี่ที่มีอาการมึนเมาสุรา ถ่ายทอดให้เครือข่าย อสม.ที่มีจำนวนกว่า 1.05 ล้านคน ทั่วประเทศ ได้นำไปใช้ปฏิบัติ ณ ด่านชุมชน และขอความร่วมมือจาก อสม.ในการร่วมรณรงค์ ประชาสัมพันธ์การลดอุบัติเหตุ ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดย อสม.จะช่วยเฝ้าระวัง สอดส่อง การบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันการกระทำผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เพื่อป้องกันและลดความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ หรือการทะเลาะวิวาทจากการเมาสุราในกลุ่มเยาวชน

นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า บทบาทของ อสม.ประจำด่านชุมชนนั้น นอกจากการร่วมตั้งด่านกับฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว อสม.ยังมีบทบาทในการทดสอบผู้ขับขี่ที่สงสัยว่าดื่มแล้วขับที่อยู่ในชุมชน โดยใช้การสังเกตและประเมินอาการมึนเมาสุราเบื้องต้น โดยการสังเกตลักษณะทางกายภาพ อาทิ มีอาการเดินโซเซ ตาเยิ้มแดง มีกลิ่นสุรา เป็นต้น

ขณะที่นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เปิดเผยว่า คาดการณ์ว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ระหว่างวันที่ 28-30 ธันวาคม 2564 และวันที่ 2-3 มกราคม 2565 จะมีผู้โดยสารเดินทางเพิ่มขึ้นจากเทศกาลปีใหม่ 2564 ประมาณ 30% จึงคาดการณ์ว่าในเที่ยวไประหว่างวันที่ 28-30 ธันวาคม 2564 จะมีผู้โดยสารเดินทางประมาณวันละ 60,000 คน ใช้รถ บขส., รถร่วม, รถตู้ ประมาณวันละ 4,700 เที่ยว

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส.กล่าวอีกว่า ส่วนเที่ยวกลับระหว่างวันที่ 2-3 มกราคม 2565 คาดว่ามีผู้โดยสารใช้บริการประมาณวันละ 50,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณ 4,500 เที่ยว ทั้งนี้ นับตั้งแต่ช่วงเทศกาลคริสต์มาส ระหว่างวันที่ 25-27 ธันวาคม 2564 มีผู้โดยสารเดินทางไป-กลับ ประมาณวันละกว่า 36,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณวันละกว่า 4,500 เที่ยว ทั้งนี้ บขส.ได้เน้นย้ำมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิดอย่างเคร่งครัด มีการตรวจคัดกรองโควิด-19 ให้กับประชาชนที่เดินทางโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

วันเดียวกันนี้ ที่จุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ริมถนนมิตรภาพ เทศบาลตำบลคลองไผ่ ถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาทางภาคอีสานในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งเพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจข้าราชการ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ที่ดูแลอำนวยการเดินทางของประชาชน

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เทศกาลปีใหม่ปีนี้คาดว่าจะมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก และจะทำให้เกิดปริมาณรถสะสม โดยเฉพาะช่วงขึ้นเนิน ถนนที่ลาดชัน บริเวณก่อนถึงสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งได้สั่งการกรมทางหลวงและหน่วยงานต่างๆ ให้มีการจัดการจราจรให้คล่องตัวมากขึ้น ส่วนก่อนถึงสถานีบริการน้ำมัน ให้มีการติดตั้งป้าย เพื่อให้ผู้ที่จะเข้าใช้บริการ ใช้ช่องจราจรทางซ้าย เพื่อลดปัญหาจราจรติดขัด สำหรับเส้นทางมุ่งสู่ภาคอีสานนั้น ได้เปิดใช้ชั่วคราวทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 หรือ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ช่วง อ.ปากช่อง-อ.สีคิ้ว ระยะทาง 35.75 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งเป็นทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ช่วงผ่านเขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา ในฝั่งขาเข้า (ฝั่งกังหันตรงข้ามเขื่อนลำตะคอง 2 ช่องทางจาก 4 ช่อง) เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนฟรีช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 แบ่งเบาการจราจรถนนมิตรภาพ เบื้องต้นกำหนดเปิดบริการ ในวันที่ 29 ธ.ค.64 จนถึงวันที่ 4 ม.ค.65 รวม 7 วัน โดยเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์สยาม เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ จากสนามบินตำรวจ บางเขน กทม. ตรวจดูสภาพการจราจรบนถนนพหลโยธิน มายัง จ.สระบุรี และถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ จ.สระบุรี ไปยังโรงเรียนคลองไผ่วิทยา ต.คองไผ่ อ.สีคิ้ว ประชุมส่วนที่เกี่ยวข้อง และสั่งการมอบนโยบาย ก่อนขึ้น ฮ.เดินทางตรวจสภาพการจราจร ปริมาณรถติดขัดบนถนนมิตรภาพ และไปยังถนนสาย 304 อ.วังน้ำเขียว และช่วงถนนขึ้นเขา บริเวณ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ก่อนเดินทางกลับไปยัง กทม.

ทั้งนี้ ข้อมูลของกรมทางหลวงระบุว่า สำหรับปริมาณรถที่ใช้เส้นทางสัญจรในเทศกาลปีใหม่ 2565 มีมากขึ้นกว่าเทศกาลปีใหม่ 2564 ประมาณ 20% หรือประมาณการว่าจะมีปริมาณการเดินทางเข้า-ออกกรุงเทพมหานคร ด้วยรถยนต์ 8 ล้านคัน และระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ อีก 1.7 ล้านเที่ยว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา สภาพจราจรบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ช่วง อ.ปากช่อง-อ.สีคิ้ว ซึ่งเปิดใช้เส้นทางชั่วคราวฟรีเป็นวันแรกนั้น ภาพรวมพบว่า มีปริมาณรถใช้เส้นทางบนมอเตอร์เวย์ หมายเลข 6 อย่างต่อเนื่อง สามารถทำความเร็วได้ตามกฎหมายกำหนด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่แขวงการทาง ตำรวจ สภ.หนองสาหร่าย สภ.คลองไผ่ ตลอดจนอาสากู้ภัยสว่างวิชาปากช่อง และหน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดสีคิ้ว คอยอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยให้กับผู้สัญจรตลอดเส้นทาง

ส่วนถนนมิตรภาพ ด้านล่างมอเตอร์เวย์ หมายเลข 6 สภาพจราจรค่อนข้างหนาแน่น แต่ยังสัญจรได้สะดวกไม่ติดสะสม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 คอยช่วยอำนวยความสะดวกระบายรถติดบนถนนมิตรภาพ ซึ่งคาดว่าช่วงเทศกาลปีใหม่นี้จะมีรถสัญจรเฉลี่ยวันละ 3 หมื่นคัน จึงได้เตรียมห้องสุขาและจัดเจ้าหน้าที่ประจำที่จุดบริการประชาชนไว้ด้วย

วันเดียวกันนี้ กรุงเทพโพลล์ โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจำนวน 1,117 คน จากทั่วประเทศ เรื่อง "คนไทยกับการท่องเที่ยวช่วงปีใหม่" พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 55.2 เห็นว่าการท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ที่จะถึงนี้จะคึกคักมากถึงมากที่สุด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ร้อยละ 44.8 เห็นว่าจะคึกคักน้อยถึงน้อยที่สุด

เมื่อถามว่า "มีแผนที่จะเดินทางในช่วงหยุดยาวปีใหม่ที่จะถึงนี้หรือไม่" ส่วนใหญ่ ร้อยละ 51.5 ไม่มีแผนที่จะเดินทาง จะอยู่บ้านไม่ออกไปไหน กลัวโควิด-19 ขณะที่ร้อยละ 49.5 มีแผนที่จะเดินทาง โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 23.5 จะไปเข้าวัดทำบุญ นั่งสมาธิ สวดมนต์ข้ามปี รองลงมา ร้อยละ 17.8 จะเที่ยว ช็อปปิ้ง กินข้าว ตามร้านอาหาร/ห้างสรรพสินค้า และร้อยละ 12.6 จะกลับไปจังหวัดบ้านเกิด/เยี่ยมญาติ

ส่วนเรื่องที่กังวลมากที่สุดที่อาจทำให้เกิดการระบาดโควิด-19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่คือ การเฉลิมฉลองปีใหม่ สังสรรค์ ตามผับ บาร์ต่างๆ คิดเป็นร้อยละ 86.2 รองลงมาคือ การประมาท ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ศบค. ของผู้ประกอบการ คิดเป็นร้อยละ 72.1 การจัดงานเคาต์ดาวน์ตามสถานที่ต่างๆ คิดเป็นร้อยละ 71.1 ภาครัฐไม่ดูแลอย่างเข้มงวดตามมาตรการของ ศบค. คิดเป็นร้อยละ 70.3 และการรวมตัว กินเลี้ยง สังสรรค์ คิดเป็นร้อยละ 66.4.