‘จักรภพ’นำร่องแดงลี้ภัย

กองปราบฯ คุมตัว "จักรภพ" หลังกลับจากลี้ภัยต่างประเทศกว่า 15 ปี แจ้ง 2 ข้อหา "ครอบครองอาวุธปืน-อั้งยี่" พร้อมให้ประกันตัวไม่มีเงื่อนไข "อดีต รมต.สำนักนายกฯ" รับ "ทักษิณ" บอกหลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเลยตัดสินใจมาสู้คดี แย้มนำร่อง "จารุพงศ์-แดงลี้ภัย" กลับเพิ่ม "กต." อ้าแขนรับการประสาน "เศรษฐา" ย้ำทุกคนต้องเข้ากระบวนการยุติธรรม "สภา" เดือด! โรมแตะ "ทักษิณ" ป่วยทิพย์ โดน "เพื่อไทย" ดาหน้าพิทักษ์นายใหญ่  "ทวี" ยันไม่เลือกปฏิบัติเทวดาชั้น 14

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เวลา 08.00 น. นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยในต่างแดนกว่า 15 ปี เดินทางกลับถึงประเทศไทยทางสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีพี่สาวมารอรับและนำกระเป๋าออกจากสนามบินบริเวณชั้น 2 ประตู 9 ซึ่งทันทีที่นายจักรภพเดินทางออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าควบคุมตัวตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 7 ธ.ค.2560 ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นอั้งยี่ หลังพบความเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบอาวุธที่ยึดได้ พบมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์คดีทางการเมือง เมื่อปี 2557 เช่น ชิ้นส่วน หรือซีเรียลนัมเบอร์ของอาวุธ พร้อมนำตัวเดินทางที่กองปราบปราม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อขบวนรถตำรวจที่ควบคุมตัวนายจักรภพเดินทางมาถึงกองปราบปราม ได้หลบเลี่ยงสื่อมวลชนโดยขับรถตู้ไปจอดที่บริเวณด้านหลัง ระหว่างอาคารกองบังคับการปราบปรามและอาคารจอดรถ ก่อนพาขึ้นลิฟต์อาคารจอดรถขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งมีทางเชื่อมเข้าสู่อาคารกองบังคับการปราบปราม

นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความส่วนตัวของนายจักรภพ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ถูกกล่าวหาว่าครอบครองอาวุธปืนและอั้งยี่ที่เกิดขึ้นในอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็คงต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย ส่วนจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ ก็อยู่ที่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวน แต่เบื้องต้นจะยื่นขอประกันตัวโดยวางหลักทรัพย์ 2-3 แสนบาท ต่อคดีความ ซึ่งคดีดังกล่าวมีอายุความ 20 ปี

ถามว่า นายจักรภพได้แจ้งรายละเอียดทางคดีหรือไม่ นายโชคชัยกล่าวว่า คดีนี้เข้าสู่กระบวนการของศาลไปแล้ว บางคนได้รับการตัดสินไปแล้ว แต่ของนายจักรภพยังไม่มีการตัดสิน และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนจะได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนหรือไม่ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

ซักว่า นายจักรภพได้ฝากอะไรถึงมวลชนคนเสื้อแดงที่เคยร่วมต่อสู้หรือไม่ นายโชคชัยกล่าวว่า นายจักรภพบอกเพียงว่าจะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนตัวทราบเพียงเท่านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสอบปากคำนั้น เบื้องต้นนายจักรภพให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งหลังสอบปากคำแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันในชั้นสอบสวน กำหนดหลักทรัพย์เป็นเงิน 200,000 บาทต่อคดี โดยไม่มีเงื่อนไข และจะต้องมารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนครั้งต่อไปในวันที่ 22 และ 23 เม.ย.นี้

นายสุไพรพล ช่วยชู เลขาฯ ส่วนตัวของนายจักรภพ กล่าวว่า หลังจากกระบวนการเสร็จสิ้น นายจักรภพจะลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน ก็คงไม่มีปัญหาอะไร

"เหตุผลที่นายจักรภพกลับมาก็คงเป็นอย่างที่โพสต์ ว่าจะกลับมารับใช้ประเทศไทย มั่นใจว่านายจักรภพจะได้รับการประกันตัว เพราะข้อกล่าวหาที่ผ่านมานั้นเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีข้อเท็จจริง ส่วนการหายตัวไปถึง 15 ปี เนื่องจากนายจักรภพมีภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศ และประกอบกับอยู่ในช่วงที่รัฐบาลมาจากรัฐประหาร ไม่เป็นประชาธิปไตย" เลขานุการส่วนตัวนายจักรภพกล่าว

จักรภพคุยทักษิณก่อนกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายจักรภพได้ประกันตัว ได้ลงมาทำความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ตั้งอยู่บริเวณโถงชั้นล่างกองบังคับการปราบปราม

นายจักรภพให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากรัฐประหาร ปี 2549 ตนมีคดีเยอะเกือบ 10 คดี ก็มีทั้งการต่อสู้คดี คดีหมดอายุความ ขณะที่คดีมาตรา 112 อัยการก็สั่งไม่ฟ้องไปหลายปี ตอนนี้มีคดีอยู่เพียง 2 คดี ในเรื่องอาวุธปืน และขัดคำสั่ง คสช. ก็ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนให้ประกัน 2 ข้อหา ข้อหาละ 200,000 บาท

นายจักรภพกล่าวว่า ได้ออกจากประเทศไทยไปเมื่อปี 2552 เป็นเวลา 15 ปี จึงตัดสินใจกลับมาสู้คดีที่ยังเหลืออีก 2 คดี และเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ซึ่งขอชื่นชมที่พนักงานสอบสวนได้มีการอธิบายขั้นตอนต่างๆ อย่างครบถ้วน ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถสู้คดีได้อย่างมั่นใจ แต่ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม

"เวลา 15 ปีที่ผ่านมา ผมคิดถึงเมืองไทยทุกวัน พ่อแม่ก็เสียชีวิตระหว่างที่ผมหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ที่ระหกระเหินลี้ภัยไปอยู่ 5 ประเทศ เป็นประเทศที่เข้าใจและเห็นใจในการต่อสู้ของผม แต่ก็อยู่อย่างมีมารยาทไม่ให้ประเทศนั้นอึดอัด หรือได้รับความเดือดร้อนในภายหลัง แต่ก็ติดตามข่าวสารประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา ลำบากกายไม่เท่าไหร่ แต่มีความลำบากใจมากกว่า เวลาผ่านไปทำให้ผมคิดอะไรได้เยอะ รู้สึกเสียดายเวลาที่จะรับใช้ประเทศชาติ จากนี้ไปจะตั้งใจว่าจะทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ รับใช้ประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นบทบาทใดก็ตาม จะไม่มาสร้างความวุ่นวายอะไรอีก" นายจักรภพกล่าว

อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า การทำการเมืองก็เป็นวิถีทางหนึ่งที่ตนเองสามารถช่วยทำประโยชน์ได้ ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ทำให้เห็นว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปมาก การเมืองภาพใหญ่ในระบอบประชาธิปไตยเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น ซึ่งการที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนรัฐบาล ทำให้เพิ่มความมั่นใจว่าบรรยากาศต่างๆ เป็นไปในทางที่ดีขึ้น

ถามถึงกระแสข่าวมีการดีลกันจึงทำให้ได้กลับประเทศไทย นายจักรภพยอมรับว่า มีการพูดคุย แต่ไม่ได้เป็นการเจรจาเพื่อแลกกับอะไรบางอย่าง มีการพูดคุยว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะหาจุดร่วมเพื่อทำอะไรให้ดีขึ้น

ซักว่าได้ติดต่อนายทักษิณ ชินวัตร ก่อนเดินทางกลับมาหรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า ได้โทรศัพท์คุยกัน 1 ครั้ง ท่านได้พูดคำสำคัญคำหนึ่งว่า หลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เราพูดได้เท่านี้ แต่ไม่ได้พูดคุยเรื่องคดี เพราะเป็นคดีที่คนละแบบกัน แต่ละคนก็ต้องทำการบ้านของตัวเอง

ถามว่า ต่อจากนี้คนเสื้อแดงที่ลี้ภัยจะทยอยเดินทางกลับมาหรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น และจะขอเสนอตัวช่วยเหลือคนที่อยากกลับมา และกลับมาได้ด้วยการต่อสู้ในคดีความและมีความพร้อม อย่างคุณจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งการที่ตนกลับมา ก็เหมือนหนูลองยา ให้หลายคนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

เมื่อถามถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  นายจักรภพกล่าวว่า เชื่อว่าท่านก็อยากกลับบ้านเหมือนทุกคน และเท่าที่ทราบท่านก็มีคดีแค่จำนำข้าว อย่างอื่นก็หมดไปแล้ว แต่อาจจะเกินกำลังและเกินสติปัญญาที่ตนจะเข้าไปจัดการ ขอช่วยเฉพาะคนที่สามารถช่วยเหลือได้ก่อน

ที่โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีนายจักรภพเดินทางกลับประเทศไทยว่า เชื่อว่ารัฐบาลเราให้ความสำคัญกับความยุติธรรมอยู่แล้ว ใครที่มีปัญหาในอดีต ถ้ากลับเข้ามาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ถูกต้อง แต่ตนไม่ได้ติดตามกรณีของนายจักรภพในรายละเอียดว่ามีอะไร

"เมื่อนักข่าวถามมาผมก็ต้องบอกว่าต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขอใช้คำนี้เป็นหลัก" นายเศรษฐากล่าว

ขณะที่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร   รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายจักรภพไม่ได้ประสานมาทางกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง ปกติถ้ามีบุคคลที่ฝ่ายความมั่นคงเป็นกังวลจะหารือมาที่ กต. ไม่ใช่หน้าที่ของ กต.โดยตรง

กต.เปิดรับผู้ลี้ภัยกลับ ปท.

ถามว่า ผู้ที่ลี้ภัยในต่างประเทศหากต้องการกลับประเทศ สามารถประสานมาที่ กต.ได้เลยหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า คงจะแจ้งมาได้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครประสานมาที่ กต. น่าจะเกี่ยวข้องกับฝ่ายความมั่นคง และทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมากกว่า

เมื่อถามว่า ปกติคนที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ทาง กต.จะต้องติดตามพฤติกรรมของเขาด้วยหรือไม่ นายปานปรีย์กล่าวว่า ถ้าไม่มีปัญหาหรือไม่มีประเด็นอะไรก็ไม่ได้ติดตามอะไรอย่างใกล้ชิด เพียงแต่รับรู้ เพราะเรามีสถานทูตอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว ไม่ได้ไปติดตามความเคลื่อนไหวอะไร เพราะเขาก็อยู่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศนั้นๆ อยู่แล้ว

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เรื่องขอทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายรังสิมันต์เอ่ยชื่อถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มี สส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายไชยวัฒน์ ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม ลุกขึ้นประท้วงนายรังสิมันต์ที่เอ่ยชื่อบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ห้ามไม่ให้เอ่ยชื่อ เพราะบุคคลภายนอกไม่สามารถจะมาตอบได้ แต่อนุญาตให้พูดว่าอดีตนายกฯ ท่านหนึ่งแทนได้

นายรังสิมันต์อภิปรายว่า เราเข้าใจดีว่ากระบวนการที่อดีตนายกฯ เข้าสู่ประเทศไทย และก่อนหน้านั้นต้องเจออะไรมาบ้าง แต่ความอยุติธรรมเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นต่อวงศ์ตระกูลของอดีตนายกฯ เพียงอย่างเดียว ประชาชนจำนวนมากก็ได้รับความไม่เป็นธรรมในลักษณะเดียวกัน การที่อดีตนายกฯ มาพักอาศัยอยู่ใน รพ.ตำรวจชั้น 14 ซึ่งจากที่ตนตรวจสอบมา ชั้น 14 ดังกล่าวห้องพักเป็นห้องพักในลักษณะวีไอพี นำมาสู่คำถามสังคมแน่นอนว่า ตกลงแล้วคือมาตรฐานใหม่ที่ผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมคนอื่น ไม่สามารถได้รับสิทธิ์ในลักษณะนี้ได้

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ขอตั้งคำถามว่า 1.การที่อดีตนายกฯ พักรักษาตัวที่รพ.ตำรวจและไม่พักห้องอื่นปลอดภัยน้อยกว่าชั้น 14 อย่างไร 2.ท่านสามารถแสดงให้ที่ประชุมของสภาแห่งนี้เห็นได้หรือไม่ว่าห้องพักชั้น 14 ที่อดีตนายกฯ รักษาตัวมีสภาพเป็นเช่นไร 3.ทำไมถึงมีความจำเป็นต้องแยกตัวอดีตนายกฯ ออกจากผู้รักษาตัวคนอื่นๆ เพราะโดยหลักตามกฎกระทรวงต้องรักษาตัวร่วมกับผู้รักษาตัวท่านอื่น หากจะแยกต้องเป็นการควบคุมพิเศษ และต้องมีเหตุผลรองรับว่าคืออะไร ถ้าจะอ้างว่าคาร์บอมบ์ ต้องมีหลักฐานยืนยันข้ออ้างดังกล่าว และ 4.กรณีนายเอกชัย หงส์กังวาน เป็นฝีในตับ ซึ่งร้ายแรง ทางราชทัณฑ์ส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ยังไม่ทันหายก็รีบส่งตัวกลับเรือนจำ อยากถามว่าร้ายแรงน้อยกว่าอดีตนายกฯ อย่างไร                   

"การจะนำข้อมูลสุขภาพมาเปิดไม่ใช่เรื่อง แต่ผมขอทราบชื่อแพทย์ที่รับรองการรักษาอดีตนายกฯ เพราะหากเรื่องนี้มีการทุจริตเกิดขึ้น เราจะได้สามารถดำเนินการกับตัวหมอได้ ซึ่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติไม่ห้ามเปิดเผยชื่อแพทย์อย่างแน่นอน" นายรังสิมันต์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายของนายรังสิมันต์นั้น มี สส.พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นประท้วงอยู่เป็นระยะ เนื่องจากอภิปรายไม่สรุปประเด็น ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์วินิจฉัยว่าขอให้อยู่ในคำถามที่สงสัย แต่ดูเหมือนคำวินิจฉัยจะไม่ได้ผล นายวันมูหะมัดนอร์จึงวินิจฉัยอีกครั้ง โดยระบุว่าไม่อนุญาตให้ขึ้นสไลด์อีกแล้ว เพราะจะมีการปะท้วงอีก ทำให้ประธานควบคุมการประชุมไม่ได้ ขอให้นายรังสิมันต์ถามได้เลย

นายรังสิมันต์ตะโกนเสียงแข็งว่า “ผมจะถามจากสไลด์เพื่อให้รัฐมนตรีดู ผมจะได้ถาม” ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า “ก็ถามไปเลย” แต่นายรังสิมันต์พูดแทรกว่า “ทำไมมาปิดไมค์ผมแบบนี้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันมูหะมัดนอร์เริ่มมีน้ำเสียงที่ไม่พอใจ พร้อมชี้แจงว่า “เป็นอำนาจของประธาน ท่านถามจากคำถามได้ ถ้าคุณพูดต่อไม่หยุด ผมจะให้คุณนั่งลง ไม่งั้นจะเชิญคุณออกไป ท่านต้องเข้าใจผม ประธานต้องดูแลการประชุมให้เป็นไปตามระเบียบ ท่านจะมาตวาดใส่ผมได้อย่างไร ผมได้วินิจฉัยแล้วว่าถ้าเอาสไลด์ขึ้นมาก็ประท้วงอีก ท่านถามได้เลย ทำไมคุณถามไม่ได้ ไม่งั้นผมไม่อนุญาต และจะปิดกระทู้นี้แล้ว”

ต่อมา พ.ต.อ.ทวีชี้แจงว่า การปฏิบัติต่ออดีตนายกฯ ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ เพราะนายทักษิณมีความกล้าหาญที่กลับมายังประเทศไทย และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในช่วงของรัฐบาลที่แล้วที่นายกฯ ก็เป็นหนึ่งใน คสช. และรมว.ยุติธรรมในขณะนั้นก็เป็นนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่มารักษาการ ขณะเดียวกันในช่วงนั้นนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ยังไม่ได้เป็นนายกฯ และยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นนายกฯ ดังนั้นนายเศรษฐาและตนคงไม่สามารถไปขอร้อง พล.อ.ประยุทธ์หรือนายวิษณุได้

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า การที่นายทักษิณตัดสินใจกลับเข้ามาแล้วสถานการณ์ตอนนั้น เมื่อเรือนจำส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ ตนคิดว่าการดูแลความปลอดภัยสำคัญ ซึ่งเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2549 ก่อนนายทักษิณจะถูกยึดอำนาจเกิดเหตุการณ์ระเบิดคาร์บอมบ์ใกล้บ้านพักท่าน จากนั้นศาลทหารได้มีการตัดสินจำคุกผู้ที่อาจจะครอบครองระเบิด ยอมรับว่าตนไม่ทราบว่าดุลยพินิจในขณะนั้น ทำไมถึงนำตัวนายทักษิณไปที่ชั้น 14 แต่เป็นเรื่องที่สอบถามทุกคนก็ต้องกลัว

"ถ้าท่านเป็นอะไรไปบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร จริงอยู่ท่านก็มีสถานะเหมือนผู้ถูกปฏิบัติทั่วไป ผมอยากเรียนว่าสังคมเรายังไม่ยอมรับการคุมขังที่อื่น จึงทำให้ทุกวันนี้ไม่สามารถออกระเบียบ ทำให้คนถูกยัดเยียดทรมานเหมือนปลากระป๋องอยู่ในเรือนจำ ท่านถามว่าผู้ต้องขังการเมืองกับผู้ต้องขังอื่นปฏิบัติเหมือนกันหรือไม่ ผมบอกว่าอดีตเป็นบทเรียนของผม แต่ปัจจุบันผมได้ทำแล้ว ผมไม่อยากให้สังคมคลางแคลง วันนี้กระทรวงยุติธรรมยุคนี้ จะสร้างความยุติธรรมให้กับคนทุกคน จะทำความยุติธรรมถ้วนหน้า แม้แต่ในเรือนจำ ผมอยากให้สังคมเข้าใจว่าโรงพยาบาลขณะนี้คือที่คุมขังอื่น ไม่ว่าจะนอนโรงพยาบาลกี่วันก็ถูกหักโทษเหมือนกัน” พ.ต.อ.ทวีกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง