พ่อนายกฯไฟเขียวแจกดิจิทัล

“ทักษิณ” ปูดบอกเดินผ่านได้ยิน  “อุ๊งอิ๊ง” คุยเดินหน้าแจกหมื่นแน่ แต่อาจปรับรูปแบบ บอกตอนนี้การเรียนรู้เรื่อง “ดิจิทัล” ไม่รีบ  แต่กระตุ้นการใช้จ่ายสำคัญกว่า เชื่อมั่น “ลูกสาว” มีดีเอ็นเอพ่อ นำแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้แน่   “จุลพันธ์” รับอาจมีข่าวดีเร็วๆ นี้ สำนักงบฯ บอกต้องเร่งใช้จ่ายก่อน ก.ย.

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ที่อาคารชินวัตร  3 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตควรต้องปรับเปลี่ยนนโยบายหรือไม่ว่า นายกรัฐมนตรี ฝ่ายงบประมาณ และฝ่ายเศรษฐกิจ กำลังคุยกันถึงแนวทาง ทั้งนี้ ความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องมีแน่นอน และต้องทำอย่างเร็ว ช้าไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจกำลังไหลลง ยิ่งลึกเท่าไหร่ก็ดึงขึ้นมายากเท่านั้น นายกฯ กำลังวางแผนกันอยู่ หลังจากทำงานได้แล้วคงสั่งการเลย

เมื่อถามว่า จากมุมมองอดีตนายกฯ ดิจิทัลวอลเล็ตควรต้องเดินต่อหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า คำว่าดิจิทัลวอลเล็ตมี 3 เรื่องในนั้น 1.คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องทำ 2.การให้ประชาชนเรียนรู้เทคโนโลยีเพื่อใช้ประโยชน์ในโอกาสต่อไปข้างหน้า เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทันเทคโนโลยีต้องทำต่อไป แต่ความเร่งด่วนอาจรอได้ และ 3.อนาคตของดิจิทัลวอลเล็ตเมื่อวางไว้แล้ว จะสามารถเชื่อมต่อเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลกับประชาชนได้ และเป็นช่องทางให้ประชาชนทำธุรกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เป็นเรื่องของเทคนิคที่ต้องมีต่อไป ซึ่งอันที่สองกับสามรอได้ แต่อันที่หนึ่งรอไม่ได้ แต่รูปแบบอาจอิงเทคโนโลยีบ้างหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องถูกกฎหมายและไม่ให้ขัดแย้งกับคนที่เห็นต่างเยอะเกินไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงการอาจเปลี่ยนแปลง  แต่การอัดฉีดมีเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า เท่าที่เดินผ่านได้ยินนายกฯ คุยกับฝ่ายงบประมาณควรต้องทำ

ถามอีกว่า การแจกเป็นเงินสดจะตอบโจทย์กว่าหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ข้อดีของการแจกเงินสดคือเร็ว แต่ข้อเสียคือกลัวจะใช้ในสิ่งที่กระตุ้นเศรษฐกิจไม่เต็มที่เท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า เศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญท่านจะมาช่วยหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ช่วยให้คำแนะนำ แต่การตัดสินใจเป็นเรื่องของนายกฯ กับรัฐมนตรี แต่ให้คำแนะนำได้

ส่วนที่มีหลายคนมองว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มือยังไม่ถึงจะเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจนั้น นายทักษิณกล่าวว่า “ดีเอ็นเอเดียวกัน คิดว่าคงจะได้”

เมื่อถามย้ำว่า ต้องติวเข้มอะไรหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ต้องช่วยกันคิด ไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียวคิด ทำงานต้องเป็นทีม ก็เป็นห่วงอยู่ โอลิมปิกประเทศไทยได้เหรียญกีฬาเดี่ยว แต่เล่นเป็นทีมไม่ได้สักเหรียญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ปกตินายกฯ ต้องเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจ นายทักษิณกล่าวว่า แน่นอน น.ส.แพทองธารรับบทบาทนั้น แต่ต้องมีคนช่วย ซึ่ง น.ส.แพทองธารเน้นการทำงานเป็นทีมตลอด ในพรรคก็ทำงานเป็นทีม ก็จะเอาคนจากพรรคมาช่วยทำงานหลายคน

เมื่อถามว่า วันนี้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ มา 3 วันแล้ว หายตื่นเต้นหรือยัง นายทักษิณกล่าวว่า ต้องไปถามเจ้าตัว แต่ตนเองตื่นเต้นตลอด

สำหรับบทบาทของนายทักษิณ ปฏิเสธไม่ได้ที่จะถูกมองว่าครอบงำนั้น นายทักษิณกล่าวว่า  “ไม่มีครอบงำ มีแต่ครอบครอง เพราะเป็นลูกสาวของผม”

ถามต่อว่า กังวลว่าใครจะไปร้องหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า “สบายๆ อยากจะร้องก็ร้องให้ดัง”

ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่มีกระแสข่าวจะยกเลิกว่า ตอนนี้มีทางไป และมีทางออกที่ดี แต่ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ขอให้ขั้นตอนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะแถลงครั้งเดียว

เมื่อถามย้ำว่า ที่ระบุว่าจะมีทางออกที่ดี นายจุลพันธ์กล่าวว่า ใช่ แต่รอให้ชัดเจนสักนิดหนึ่ง ขอย้ำว่ามีทางออกที่ดี

ถามว่า แสดงว่าจะเดินหน้าต่อใช่หรือไม่  นายจุลพันธ์หัวเราะพร้อมกล่าวว่า มีทางออกที่ดีครับ

ส่วนนายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวถึงความชัดเจนในการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังเป็นไปตามกำหนดการเดิมหรือไม่ ว่ายังเชื่อว่าทันกรอบเวลาเดิม ตอนนี้ต้องมองว่าทันไว้ก่อน และยังไม่มีการทบทวนเรื่องปฏิทินงบประมาณในส่วนของพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เนื่องจากอยู่ระหว่างรอทูลเกล้าฯ ถวาย ส่วน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เป็นไปตามกระบวนการของสภา ซึ่งจะเข้าวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 4-6 ก.ย.

เมื่อถามว่า หากรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาต้องการที่จะเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อ จำเป็นต้องใช้เงินให้ทันเดือน ก.ย.นี้หรือไม่ นายเฉลิมพลยืนยันว่า ต้องใช้จ่ายให้ทันเดือน ก.ย.นี้ โดยหากเข้าสู่กระบวนการใช้จ่ายเงินตามระเบียบภายในเดือน ก.ย. สามารถใช้เป็นงบผูกพันได้

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะเปลี่ยนการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นแจกเงินสดแทน มีการเสนอมาถึงสำนักงบประมาณแล้วหรือไม่ นายเฉลิมพลระบุว่า “ยังไม่มี แต่สามารถทำได้ หากยังมีวัตถุประสงค์เดิมได้ คือเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ที่จะพิจารณา แต่ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการตั้งงบประมาณ”

สำหรับงบประมาณปี 2568 หากใช้เพื่อรับวิกฤตเศรษฐกิจตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอได้หรือไม่ นายเฉลิมพลยืนยันว่า ถ้ามีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก็สามารถทำได้ แต่ต้องมาเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อปรับกรอบของโครงการที่ ครม.เคยเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ 23 ก.ย.

เมื่อถามว่า หากมีการปรับเงื่อนไขโครงการให้ใช้ได้เฉพาะส่วนเฉพาะที่ได้หรือไม่ นายเฉลิมพลระบุว่า โครงการนี้ยังไม่ได้อนุมัติอย่างเป็นทางการ แต่ ครม.ได้เห็นชอบกรอบโครงการและวงเงินเพื่อให้สำนักงบประมาณมาตั้งงบประมาณ  ดังนั้นเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่ จะต้องจัดทำนโยบาย  แต่ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งงบประมาณไว้ ซึ่งงบประมาณนี้ถูกตั้งวัตถุประสงค์ไว้กว้างๆ เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และชื่อถูกกำหนดเป็นงบกลางไม่ใช่งบสำหรับดิจิทัลวอลเล็ต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง