ศาลนราธิวาสออกหมายจับ 6 บิ๊กทหาร-ตำรวจ จำเลยคดีตากใบ หลังหลบหนีไม่มาตามนัดสอบคำให้การ ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงประธานสภาฯ ขอตัว พล.อ.พิศาล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้แถลงต่อสภาเพื่อสละเอกสิทธิ์คุ้มครอง
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่ศาลจังหวัดนราธิวาส ศาลนัดสอบคำให้การ คดี อ578/2567 ที่ น.ส.ฟาตีฮะห์ ปะจูกูเล็ง ผู้แทนนายอาแวเลาะ ปะจูกูเล็ง ผู้ตายที่ 1 กับพวก รวม 48 คน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตเเม่ทัพภาคที่ 4 กับพวก รวม 9 คน จำเลย ข้อหาหรือฐานความผิด ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยทารุณโหดร้าย, พยายามฆ่า, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง, ข่มขืนใจ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย, เสรีภาพ
จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส หรือคดีตากใบ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547 ที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมจนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 78 คน
คดีนี้ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่ามีมูล มีคำสั่งประทับฟ้อง ในส่วนจำเลยที่ 1, 3-6 และ 8, 9 มีมูลความผิดในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย หน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นเหตุให้ถึงเเก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 83 มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80, 83 มาตรา 310 วรรคสอง ประกอบมาตรา 290, 83 ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
เเละให้ยกฟ้อง ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นรับอันตรายสาหัสโดยกระทำทารุณโหดร้าย และยกฟ้องจำเลยที่ 2 เเละ 7
โดยนัดสอบคำให้การจำเลยที่ 1, 3-6, 8, 9 เเละตรวจพยานหลักฐานเพื่อกำหนดวันนัดสืบพยานวันนี้ โจทก์ที่ 1, 3-19, 21-29, 31-33, 35-38, 41-47
ทนายโจทก์ทั้งสี่สิบแปด ทนายโจทก์ที่ 1, 2, 3, 5, 6, 8, 37, 26 และพนักงานอัยการในฐานะทนายจำเลยที่ 8, 9 มาศาล ส่วนจำเลยที่ 2, 7 ศาลมีคำสั่งยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วไม่มา
ศาลรอจนกระทั่งเวลา 10.30 น. จำเลยที่ 1, 3, 6, 8, 9 เเละทนายจำเลยที่ 1, 8, 9 เเละทนายจำเลยที่ 2, 4, 5 ทนายจำเลยที่ 3, 6, 7 ไม่มา
ศาลสอบพนักงานอัยการในฐานะทนายจำเลยที่ 8 และที่ 9 แถลงว่า หลังจากศาลมีคำสั่งว่าคดีมีมูล ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากจำเลยที่ 8 และที่ 9 อีกเลย ศาลให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ติดต่อทนายฝ่ายจำเลยตามหมายเลขที่เคยให้ไว้ ได้ความในลักษณะเดียวกันว่า หลังจากศาลอ่านคำสั่งว่าคดีมีมูลในนัดที่แล้วก็ไม่ได้รับการติดต่อจากตัวความอีกเลย จึงไม่ทราบความประสงค์ว่าจะให้เป็นทนายความในคดีต่อไปหรือไม่ และจะให้การอย่างไร
พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 1 ที่ 3 ถึงที่ 6 และที่ 8 กับที่ 9 ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง และไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้เลื่อนคดี มีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยที่ 3 ถึงที่ 6 และที่ 8 กับที่ 9 เพื่อนำตัวมาศาลภายในอายุความ 20 ปี นับแต่วันกระทำความผิด คือภายในวันที่ 25 ต.ค.2567
ส่วนจำเลยที่ 1 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งรัฐธธรรมนูญ มาตรา 125 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "ในระหว่างสมัยประชุม ห้ามมีให้จับ คุมขัง หรือหมายเรียกตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือ สมาชิกวุฒิสภาไปทำการสอบสวนในฐานะที่สมาชิกผู้นั้นเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก หรือเป็นการจับในขณะกระทำความผิด" เมื่อขณะนี้มีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ.2567 ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.2667 เป็นต้นไป จำเลยที่ 1 จึงได้รับความคุ้มกันตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว ศาลไม่มีอำนาจออกหมายจับ จึงให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1.มีหนังสือด่วนที่สุดถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรอนุญาตให้จับจำเลยที่ 1 โดยให้ถ่ายสำเนาคำฟ้องคดีนี้ คำสั่งคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ578/2567 (คดีนี้) และรายงานกระบวนพิจารณาฉบับนี้อย่างละ 1 ฉบับ รับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับแนบไปด้วย
2.หมายเรียกจำเลยที่ 1 มาศาลในนัดหน้า
3.มีหนังสือด่วนที่สุดถึงจำเลยที่ 1 แจ้งว่า ศาลนี้ได้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 125 วรรคหนึ่ง และขอเชิญให้จำเลยที่ 1 แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อสละความคุ้มกัน และมาศาลในนัดหน้าเพื่อเข้าสู่การพิจารณาคดีนี้
การส่งหนังสือตามข้อ 1 ให้ส่งผ่านทางสำนักงานศาลยุติธรรม การส่งหมายเรียกตามข้อ 2 ให้ส่งทางเจ้าพนักงานศาล ไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิดและมีผลทันทีทางหนึ่งกับส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับอีกทางหนึ่ง เป็นหมายศาล และการส่งหนังสือตามข้อ 3 ให้ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับอย่างหนังสือราชการของศาลนี้
การดำเนินการตามหมายจับในส่วนของจำเลยที่ 3-6, 8, 9 ให้เจ้าพนักงานตำรวจศาลเป็นผู้จัดการตามหมายจับ และเห็นสมควรให้พนักงานฝ่ายปกครองและตำรวจเป็นผู้จัดการตามหมายจับด้วย โดยมีเจ้าพนักงานตำรวจศาลเป็นผู้สนับสนุน ตาม พ.ร.บ.เจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ.2562 มาตรา 5 (5)
ให้เลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การจำเลยที่ 1 ที่ 3-6 และที่ 8 กับที่ 9 ตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยาน กับติดตามผลการจับกุมจำเลยที่ 3-6, 8, 9 และฟังผลการขออนุญาตจับกุมจำเลยที่ 1 ต่อสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 15 ต.ค. เวลา 09.00 น. ปิดประกาศที่หน้าศาล แจ้งวันนัดให้คู่ความทราบที่ไม่มาศาลทราบ
สำหรับคดีนี้จำเลยที่ถูกยื่นฟ้องทั้ง 9 ประกอบด้วย จำเลยที่ 1 พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ปัจจุบันเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย, จำเลยที่ 2 พล.ท.สินชัย นุตสถิตย์ อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 (ยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง), จำเลยที่ 3 พล.อ.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร ยศในขณะนั้น อดีตผู้บัญชาการ พล.ร.5, จำเลยที่ 4 พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า และเป็นอดีต สว.
จำเลยที่ 5 พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ยศขณะนั้น ในฐานะอดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 อดีต สว., จำเลยที่ 6 พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกุล อดีตผู้กำกับ สภ.อ.ตากใบในขณะนั้น, จำเลยที่ 7 พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน อดีตรองผู้กำกับ สภ.อ.ตากใบ ปัจจุบันเป็นรอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี (ยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง), จำเลยที่ 8 นายศิวะ แสงมณี ที่ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย, จำเลยที่ 9 นายวิชม ทองสงค์ ในเวลานั้น เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา
"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"
ใต้อ่วม! ทางรถไฟ-ถนนขาด
ฝนตกหนักน้ำท่วม เส้นทางลงใต้อัมพาต ทางขาดทั้งรถไฟและถนนสายเอเชีย รถไฟไปต่อไม่ได้ ติดค้างที่ชุมพรเพียบ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ส่วนที่นครศรีฯ น้ำทะเลจ่อหนุนซ้ำเติม
เตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า ผสมนํ้ายาดองศพ
เตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า พบน้ำยาดองศพ สารก่อมะเร็งในบุหรี่ไฟฟ้าเพียบ เสี่ยงเกิดมะเร็ง แนะผู้ปกครองสอดส่องพฤติกรรมบุตรหลาน ย้ำเตือนเด็กและเยาวชนอย่าหลงเชื่อค่านิยมผิดๆ
บึ้มงานกาชาด สอบเกียร์ว่าง! ตำรวจอุ้มผาง
"ผบ.ตร." สั่งสอบตำรวจพื้นที่ปล่อยปละละเลยหรือไม่ เหตุ 2 คนร้ายปาระเบิดกลางเวทีรำวงงานกาชาดอุ้มผาง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เจ็บ 48 คน "อุ๊งอิ๊ง"
ปชน.กระทุ้งกต. ปรับท่าทีเชิงรุก เร่งช่วย4ลูกเรือ
กต.นัดถกเมียนมา 19 ธ.ค.นี้ ช่วยลูกเรือไทย 4 คน “โรม” ผิดหวังคำตอบทางการ
แม้วยันเกาะกูดของไทย ไม่ใช่‘ควาย’ยกให้เพื่อน
“ทักษิณ” ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์เกาะกูดเป็นของไทย ใครจะบ้ายกให้