ศาลรธน.ยืนยัน ‘อุดม’ ไม่เสียดสี แค่ตอบ ‘ข้อกม.’

ศาลรัฐธรรมนูญทำหนังสือตอบกลับสภาผู้แทนฯ ยืนยัน "อุดม สิทธิวิรัชธรรม" ตุลาการศาล รธน. แสดงความเห็นหลังยุบพรรคก้าวไกล "ยุบ 3 วันตั้งพรรค" เป็นการตอบคำถามข้อกฎหมายพรรคการเมือง ไม่เสียดสี ไม่กระทบความเป็นอิสระ ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ตุลาการ 

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์สภาผู้แทนราษฎรได้เผยแพร่ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 17 ต.ค. โดยวาระที่ 2   เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม พบว่ามีวาระรับทราบเรื่องที่ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรับทราบข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสภาผู้แทนราษฎร ในญัตติด่วนเรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเกี่ยวกับการแสดงออกของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรตุลาการในเวทีสาธารณะ   ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยประชาชนจนนำไปสู่การตั้งคำถามต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระ  เพื่อส่งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสภาผู้แทนราษฎรให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาดำเนินการต่อไป

โดยเป็นกรณีเกี่ยวกับที่นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการแสดงความคิดเห็นในเวทีสัมมนาของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 15 ส.ค.67 ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกี่ยวกับการยุบพรรคก้าวไกล และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม 

ครั้งนี้พบว่ามีการเผยแพร่หนังสือตอบกลับจากสำนักเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญที่  ศร.0001.1/1576 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ระบุว่า ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรส่งสรุปประเด็นและข้อเสนอแนะการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่อง ขอให้สภาพิจารณาเกี่ยวกับการแสดงออกของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรตุลาการบนเวทีสาธารณะ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยประชาชนจนนำไปสู่การตั้งคำถามต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญรับทราบ หากศาลรัฐธรรมนูญได้ปฏิบัติตามข้อสังเกต และข้อเสนอแนะประการใดโปรดแจ้งให้ทราบด้วยนั้น

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญขอเรียนว่า ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรับทราบข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เห็นว่า การแสดงความคิดเห็นของนายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในคดีดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับข้อกฎหมายพรรคการเมืองในการสัมมนาทางวิชาการของศาลรัฐธรรมนูญ มิได้เป็นการแสดงความคิดเห็นอันมีลักษณะเป็นการเสียดสีหรือประชดประชันพรรคการเมืองใด ที่จะส่งผลต่อความเป็นอิสระ เป็นกลาง และปราศจากอคติของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาวินิจฉัยคดี ไม่กระทบกระเทือน หรือก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ ในการบรรยายเรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญกับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา นายอุดมระบุถึงคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ตอนหนึ่งว่า ผมรับผิดชอบในคำพูดต่อไปนี้โดยส่วนตัว ผมเป็นเสียงข้างน้อยมาก  อย่างล่าสุดยุบพรรค มีคนบอกไม่ควรเกิดขึ้น รุนแรง ทำให้สถาบันพรรคการเมืองอ่อนแอ จริงเหรอ ยุบ 3 วันตั้งพรรค แต่ไม่ใช่พรรคใหม่ คุณสวมรอยส่งคนไปฝังอยู่ในพรรคเก่า อันนี้คือการดำเนินการของพรรคการเมืองโดยสุจริตและชอบธรรม จริงเหรอ ใช่ไหม ผมถามแค่นี้

ไอ้การที่เราเห็นถึงขนาดนี้ จะบอกว่าคุณใสซื่อบริสุทธิ์ ทำพรรคการเมืองแบบคนรุ่นใหม่ คนรุ่นเก่า โอ๊ย บ้านใหญ่ แยก ผมจะต้องทำอย่างนี้ ไอ้ที่คุณทำนี่ใช่หรือเปล่า พูดอย่างสุภาพเขาเรียกยุทธวิธี พูดอย่างหยาบ ก็เล่ห์กลอุบาย           การที่ศาลรัฐธรรมนูญสามารถมองเข้าไปลึกซึ้ง เห็นถึงเบื้องลึกของคุณที่แท้จริง แล้วชี้ออกมาเป็นจุดๆ ว่าสิ่งที่คุณกำลังทำ ที่อ้างกันอย่างนี้ ในที่สุดจะนำไปสู่อะไร มันไม่ใช่การคาดเดา เป็นสิ่งที่เห็นแล้ว

รัฐธรรมนูญ มาตรา 49 เลยออกมาเพื่อปกป้องสถาบันการปกครองในระบอบประชาธิปไตย  นี่คือการปกป้องระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ปกป้องพระมหากษัตริย์โดยตรง เป็นการปกป้องการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เพราะการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมีหลายแบบ แต่ประเทศเราจะเอาแบบที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ไอ้การที่คุณจะไปทำอะไรก็ตาม ในที่สุดแล้วมันอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเป็นประมุขในระบอบนี้ มันก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข อาจเป็นประชาธิปไตยระบอบประธานาธิบดี ระบอบพ่อข้าเป็น ลูกข้าเป็น น้องเขยข้าเป็นก็ได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง