"หมอวรงค์" จับพิรุธ "หมอ" รพ.ตร.น้ำท่วมปาก ส่งเวชระเบียนชั้น 14 ได้แค่นั้น เชื่อข้อมูลที่เหลือป่วยทิพย์ "คปท." ฮึ่ม! ผู้เกี่ยวข้องส่อเจตนาปิดบังความจริง นัดม็อบ 21 ม.ค.บุกทำเนียบฯ เช็กบิลโค้งสุดท้ายเลือก อบจ.เชียงรายหาเสียงเดือด “ทักษิณ” จ่อยกทัพช่วยเมียยงยุทธ สู้สีน้ำเงินรอบสอง 29 ม.ค. ก่อนปิดโรดแมปทัวร์ทั่วประเทศ “ธนาธร” ลุยสมุทรสาคร ขอโอกาส 4 ปีคนสมุทรสาครต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้ “ทนายอั๋น" ยื่น กกต.สอบ ผู้สมัครนายก-สมาชิก อบจ.ได้หมายเลข 4 ยกจังหวัดบุรีรัมย์ จ่อฟ้องแสวงปมเอื้อบ้านใหญ่
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2568 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า ข้อมูลล่าสุดโรงพยาบาลตำรวจ ส่งเวชระเบียนให้แพทยสภาบางส่วน จึงสงสัยได้ว่า เวชระเบียนที่มากกว่านั้นไม่มี จึงไม่ส่ง ปกติแล้วเวชระเบียนของผู้ป่วย จะถูกเก็บเป็นอย่างดี เพื่อประโยชน์ในการรักษา และทบทวนผลการรักษาในอดีต หรือมีปัญหาเกี่ยวกับผู้ป่วย การรวบรวมส่งเวชระเบียนจึงง่ายมาก การที่โรงพยาบาลตำรวจส่งมาบางส่วน จึงเชื่อได้ว่า เขามีแค่นั้น การที่มีแค่นั้นก็แสดงว่า แพทย์สั่งรักษาแค่นั้น เวชระเบียนจึงมีแค่นั้น
นพ.วรงค์กล่าวว่า ถ้าผู้ป่วยวิกฤตต่อเนื่อง 180 วัน ต้องมีการสั่งการรักษาทุกวันแบบต่อเนื่อง ถ้ามีเวชระเบียนแค่นั้นก็แสดงว่ามีการสั่งการรักษาไม่มาก ก็แสดงว่าผู้ป่วยไม่วิกฤต จะไปหาเวชระเบียนได้อย่างไร เพราะ 1.คนไข้วิกฤตจะไม่ทำ MRI แต่รายนี้ทำ 2.คนไข้วิกฤตจะไม่ผ่าตัดด้วยกล้อง (scope) จะรอให้พ้นวิกฤตก่อน แต่รายนี้ทำ 3.คนไข้วิกฤตต้องติดเตียง แขนขาจะลีบลง แต่รายนี้ไม่มีร่องรอย 4.คนไข้วิกฤตจะถูกฟ้องด้วยแล็บ จะต้องถูกเจาะเลือด x-rays หรือ CT scan เพื่อส่งแล็บแบบต่อเนื่อง จะหาผลแล็บได้ไหม 5.คนไข้วิกฤตก่อนกลับบ้าน อ้างว่าช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ได้คะแนนประเมิน 9 คะแนน จากเต็ม 20 คะแนน สภาพที่อ้าง ผู้ป่วยต้องมีปัญหา 5.1 การกินอาหาร 5.2 การเคลื่อนที่ไปมาภายในบ้าน 5.3 การขึ้นลงบันได 5.4 การลุกจากเตียง 5.5 การใส่เสื้อผ้า 5.6 การใช้ห้องน้ำ 5.7 การล้างหน้า หวีผม แปรงฟัน 5.8 การอาบน้ำ 5.9 กลั้นอุจจาระ 5.10 กลั้นปัสสาวะ
"การบันทึกเหล่านี้ อย่างน้อยแพทย์เจ้าของไข้และพยาบาลที่ดูแลตึกนั้น ต้องบันทึกลงในรายงานของตนเอง และเก็บไว้ในเวชระเบียน เพราะสภาพผู้ป่วยรายนี้ยังอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจตลอด จะต้องมีบันทึกนี้เป็นหลักฐานในเวชระเบียนด้วย มีไหม? รวมทั้งบันทึกผู้ประเมินและที่มาของ 9 คะแนนในเวชระเบียน มีไหม? ส่งเวชระเบียนมาบางส่วน แค่นี้ก็สามารถสรุปได้อย่างเป็นทางการว่าป่วยทิพย์” นพ.วรงค์กล่าว
ขณะที่ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความว่า เร่งเร้า แสดงพล อนุกรรมการ ชุดแพทยสภา แถลงว่า รพ.ตำรวจให้เอกสารทางการแพทย์มาไม่ครบ เหมือนปิดบังความจริงบางอย่าง ขณะเดียวกันทางคดี พี่ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ก็ยื่นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาให้ไต่สวน นำทักษิณกลับเรือนจำ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาจะมีคำสั่งว่าจะรับหรือไม่รับคำร้อง ในวันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้
"งวดเข้ามาทุกทีๆ สถานการณ์ป่วยทิพย์ก็เตรียมเช็กบิล สถานการณ์พนันออนไลน์และกาสิโนก็ร้อนแรงท้าทายสังคม ถึงเวลาพี่น้องเราแสดงออกเพื่อปกป้องประเทศไทย #Saveประเทศไทย อย่าให้คนอยู่เหนือกฎหมาย อย่าให้ประเทศไทยเต็มไปด้วยการพนัน อังคาร 21 ม.ค. 10.00 น พร้อมกันหน้าทำเนียบรัฐบาล ฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐ อดีตแนวร่วม พธม. อดีตแกนนำ กปปส. อดีตแกนนำ นปช. คปท. กองทัพธรรม ศปปส. จะไปทวงคืนความยุติธรรมกับนายกฯ หุ่นเชิด ลูกเทวดา เสาร์ 25 ม.ค.สำแดงพลังประชาชน คนไม่เอากาสิโน ไม่เอาพนันออนไลน์ ส่งพลังประชาชนให้ศาลฎีกาฯ ให้พิทักษ์กระบวนการยุติธรรม อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เที่ยงวันยันเที่ยงคืน ใส่รองเท้าผ้าใบมาร่วมกัน" นายพิชิตกล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย ที่เป็นการแข่งขันกันระหว่าง นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช อดีตนายก อบจ.เชียงราย ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา แกนนำพรรคเพื่อไทย กับนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ.เชียงราย ที่แม้จะลงสมัครอิสระ แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายพรรคการเมืองสีน้ำเงิน ว่ากำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น โดยพบว่านางสลักจฤฎดิ์และนายยงยุทธ ติยะไพรัช กับทีมงานหาเสียงเลือกตั้งได้ลงพื้นที่หาเสียงอย่างหนัก มีการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่-ปราศรัยย่อยทุกอำเภอในจังหวัดเชียงราย บางวันเปิดเวทีปราศรัยถึง 3-4 จุด เช่นเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการเปิดเวทีปราศรัยที่ตำบลปล้อง, ตำบลหงาว อำเภอเทิง ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของบ้านใหญ่ตระกูล วันไชยธนวงศ์ แต่ปรากฏว่ามีประชาชนไปฟังการปราศรัยเรือนหมื่นคน
และที่น่าสนใจก็คือ ในโค้งสุดท้ายของการหาเสียง ก่อนวันเลือกตั้ง 1 ก.พ. นายทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางมาที่เชียงรายเพื่อหาเสียงช่วยนางสลักจฤฎดิ์ในวันที่ 29 ม.ค. โดยจะขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงให้ถึง 3 จุดในวันเดียว ที่อำเภอแม่สรวย-อำเภอพาน และสนามฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด ที่เป็นสโมสรฟุตบอลประจำจังหวัด หลังก่อนหน้านี้เคยมาช่วยหาเสียงให้แล้วเมื่อ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันวันนี้ 17 ม.ค. นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ได้เดินทางมาช่วยหาเสียงและขึ้นเวทีปราศรัยให้ด้วย
นายยงยุทธ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้นางสลักจฤฎดิ์ กล่าวว่า ประชาชนชาวเชียงรายให้การตอบรับและตื่นตัวกับการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงรายมาก ส่วนเรื่องความมั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ คงต้องรอจนถึงช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง แต่การหาเสียงในช่วงที่ผ่านมาได้ใช้รูปแบบการหาเสียงท้องถิ่น-นายก อบจ.ที่แตกต่างจากการหาเสียงนายก อบจ.ในรูปแบบเดิมๆ เพราะได้นำเสนอนโยบายแนวความคิดหลายอย่างที่ประชาชนจับต้องได้ ไม่ได้พูดถึงแต่เรื่องการทำถนน แต่ได้นำเสนอแนวคิดเรื่องการพัฒนาจังหวัด โดยเชื่อมโยงกับส่วนกลาง-รัฐบาล ในรูปแบบเชียงรายโมเดล
นายยงยุทธกล่าวต่อไปว่า นโยบายเชียงรายโมเดลจะทำให้เห็นถึงการช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ เช่น เรื่องการเกษตร ซึ่งหน่วยงานรัฐมีกระทรวง-กรมที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง มีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ มีข้าราชการหลายหน่วยงานในจังหวัด แต่เกษตรกรก็ยังมีปัญหาเรื่องหนี้สิน ธ.ก.ส.เรื่องราคาพืชผลการเกษตรที่ขายไม่ได้ราคา แต่ก็จะพบว่า ข้าราชการเองบางทีมาอยู่ที่จังหวัด พอทำงานได้สักพักก็ย้ายไปจังหวัดอื่น แต่เกษตรกรยังอยู่ที่จังหวัด ยังประสบปัญหาเหมือนเดิม แล้วก็เจอกับปัญหาเดิมๆ เช่น บอกว่าที่ราคาสินค้าเกษตรขายไม่ได้ราคา ก็เพราะผลิต-ปลูกมากเกินไป โดยไม่ได้มีแนวนโยบายใหม่ๆ มาแก้ปัญหา ก็เสนอแนวทางว่า ต่อไปต้องปรับจากที่เกษตรกรเป็นต้นน้ำ-ผู้ผลิต ทาง อบจ.เองต้องเข้ามาอยู่กลางน้ำ หาพื้นที่ตลาดกลาง ทำ market place ตลาดเปิดในจังหวัดในพื้นที่ต่างๆ เช่น แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด อาทิ น้ำตก ภูเขา โดยให้เกษตรกรนำผลิตผลทางการเกษตรมาขายโดยไม่คิดค่าพื้นที่ขาย เป็นลักษณะ Farm from to Table จากเกษตรกรถึงผู้บริโภค
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ ยื่นคำร้องต่อนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้ตรวจสอบผู้สมัครนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ เนื่องจากพบความผิดปกติที่นายกและสมาชิกในนามกลุ่ม "ฅนบุรีรัมย์" ได้หมายเลขเดียวกันทั้งจังหวัด จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเข้าข่ายจ้างวานให้บุคคลมาลงสมัครหรือไม่ โดยนายภัทรพงศ์กล่าวว่า การที่ผู้สมัครนายกและสมาชิก อบจ.ได้หมายเลขเดียวกันทั้งจังหวัด ซึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญ โดยได้รับหมายเลข 4 โดยติดตั้งป้ายหาเสียงคู่กัน เข้าข่ายมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 54 ที่ระบุว่า ห้ามซื้อ ห้ามจ้างคนมาลง ซึ่งตนมองว่า กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่จะทำให้ผู้สมัครได้รับหมายเลขเดียวกันทั้งจังหวัด
นายภัทรพงศ์กล่าวอีกว่า การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งที่แล้วใช้ชื่อกลุ่ม "เพื่อนเนวิน" และได้รับเบอร์เดียวกันคือหมายเลข 8 และในการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้ชื่อกลุ่มว่า "ฅนบุรีรัมย์" และได้รับหมายเลขเดียวกันทุกเขต ขณะเดียวกันผู้มากบารมีได้ใส่เสื้อที่มีข้อความดังกล่าว ตนจึงจำเป็นต้องมาร้องให้ กกต.ตรวจสอบ อีกทั้งนายแสวงในฐานะที่เป็นคนบุรีรัมย์ ขอให้อย่าลืมบ้านเกิดบ้านเก่า จะดำเนินการอย่างไร เช่นเดียวกับกรณีการเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งทราบดีว่าจังหวัดบุรีรัมย์คือแหล่งกำเนิดของประเพณีวัฒนธรรมการเมืองแบบเดิมๆ บ้านใหญ่ การซื้อเสียง การใช้อำนาจรัฐ แต่ในป้ายที่เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิในวันที่ 1 ก.พ.2568 เหตุใดไม่ระบุห้ามซื้อสิทธิขายเสียง เลือกคนที่มีความรู้ความสามารถเข้าไป
“ขอตั้งคำถามว่า กกต.เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มบ้านใหญ่หรือไม่ สกัดพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ ซึ่งมีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า นายอำเภอสั่งการให้ปลัดอำเภอสั่งการต่อไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้ไปจับตาดู และถ่ายภาพพรรคประชาชนลงพื้นที่หาเสียงเพื่อรายงานกลับมายังนายอำเภอ ตนจึงถามว่ากรณีเช่นนี้นายแสวงทำอะไรอยู่ ซึ่งในวันที่ 23 ม.ค.2568 ตนจะไปยื่นฟ้องนายแสวงต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ขณะนี้ได้เตรียมเอกสารคำร้องไว้เรียบร้อยแล้ว”
นายภัทรพงศ์กล่าวว่า กรณีที่ผู้สมัครนายกและสมาชิก อบจ.ได้หมายเลขเดียวกันทั้งจังหวัดนั้น เชื่อว่า กกต.จังหวัดก็ไม่สามารถที่จะตอบคำถามได้ ตนเคยร้องไปเช่นเดียวกับกรณีที่ตนได้ร้องไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และไม่ทราบผลการวินิจฉัย แต่สมาชิกและนายกชุดนั้นก็อยู่รอดปลอดภัยจนครบวาระแล้วมาลงสมัครใหม่อีกครั้งในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยครั้งนี้บริบทต่างกัน การที่ตนออกมาเคลื่อนไหวยิ่งทำให้ตนรู้จักนายแสวง จึงยื่นเรื่องตรงต่อนายแสวง ซึ่งไม่ทราบว่าเขาจะดำเนินการอย่างไรต่อ
ขณะที่ช่วงค่ำวันที่ 16 ม.ค.2568 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครช่วยนายเชาวริน ชาญสายชล (โต้) ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสาคร พรรคประชาชนหาเสียง โดยธนาธรได้ขึ้นรถแห่พร้อมทีมงานหาเสียงบนรถแห่ไปยังแลนด์มาร์กมหาชัย ผ่านวงเวียนน้ำพุไปจนถึงตลาดต้นสนริมถนนพระราม 2 พร้อมกับเดินหาเสียงกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต้นสน โดยมีประชาชนที่กำลังเดินซื้อของอยู่ในตลาดต่างมารุมล้อมขอถ่ายรูปด้วย
หลังจากนั้นนายธนาธรพร้อมผู้สมัครนายก อบจ.ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง โดยระบุว่า ขอโอกาสขอคะแนนเสียงจากคนสมุทรสาครในวันเลือกตั้ง 1 ก.พ.นี้ ช่วยกันเลือกช่วยกันกาให้นายเชาวริน ผู้สมัครจากพรรคประชาชน ได้เป็นนายก อบจ.สมุทรสาคร เพื่อเข้าไปทำงานให้กับพี่น้องประชาชน โดยการันตีให้กับตัวผู้สมัครว่าจะไม่มีการโกงกินอย่างแน่นอน พร้อมกับลั่นว่า อะไรที่ว่าเราทำไม่ได้ เราจะทำให้ได้ให้ดู ไม่ว่าน้ำประปาดื่มได้ คลองสวยน้ำใส ตลอดจนมาตรฐานและคุณภาพของ สถานพยาบาล และโรงเรียน โดยเชื่อมั่นว่า 4 ปีต่อจากนี้ไปคนสมุทรสาครจะมีชีวิตที่ดีขึ้นในทุกๆ ด้านอย่างแน่นอน
จะเห็นได้ว่าจังหวัดสมุทรสาครถือเป็นเป้าหมายของทางพรรคประชาชนตั้งความหวังไว้สูงมากว่าจะปักธงได้ เพราะแกนนำคนสำคัญของทางพรรคประชาชนต่างทยอย กันมาช่วยผู้สมัครหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าเท้ง ตามมาด้วยชัยธวัช ตุลาธน และล่าสุด ตัวพ่ออย่างธนาธรก็มาด้วยตัวเอง โดยหวังจะโค่นบ้านใหญ่สมุทรสาครลงให้ได้
ที่จังหวัดอำนาจเจริญ นางมาฆวดี ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอำนาจเจริญ (ผอ.กต.) เปิดเผยว่า ตามที่ประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอำนาจเจริญ (นายก อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอำนาจเจริญ (ส.อบจ.) ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.นี้ ซึ่งจังหวัดอำนาจเจริญได้แบ่งออกเป็น 24 เขตเลือกตั้ง โดยมีผู้สมัครนายก อบจ.จำนวน 6 คน และมีผู้สมัครสมาชิก อบจ.อำนาจเจริญ จำนวน 146 คน ขณะที่ในส่วนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ขณะนี้ได้มีการส่งหนังสือแจ้งเจ้าบ้านเกี่ยวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งแล้ว ซึ่งหากไม่พบชื่อ หรือปรากฏชื่อบุคคลอื่นอยู่ในทะเบียนบ้าน หรือมีชื่อผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งปรากฏอยู่ สามารถแจ้งเพิ่มชื่อ หรือถอนชื่อต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วัน หรือภายในวันที่ 21 มกราคม 2568
ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ จากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ณ ที่ว่าการอำเภอที่ตั้งอยู่ในเขตเลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสามารถตรวจสอบรายชื่อจากเอกสารที่แจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ส่งมายังเจ้าบ้าน หรือแอปพลิเคชันได้ก่อนวันเลือกตั้งภายใน 15 วัน
ส่วนบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อำนาจเจริญ และ ส.อบจ.อำนาจเจริญ เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีการติดป้าย ติดประกาศ ตามจุดสำคัญที่กำหนด มองเห็นเด่นชัดทั่วบ้านทั่วเมือง รวมถึงรถแห่หาเสียงผ่านเครื่องขยายเสียง การแนะนำตัวของผู้สมัครแต่ละคนวิ่งหาเสียงตลอดเวลา ปลุกกระแสให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งตื่นตัว เตรียมออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้
มีรายงานว่า ได้มีการจัดตั้งหัวคะแนนในแต่ละหมู่บ้านแล้ว สัดส่วนหัวคะแนน 1 คน ต่อ 20-30 คน หรือดูแลควบคุมทั้งหมู่บ้าน ซึ่งสามารถสั่งให้ลงคะแนนคนที่ตนสนับสนุนได้ 100% โดยเฉพาะก่อนวันเลือกตั้ง 5 วัน จะมีการทำโพลของผู้สมัครบางคน หากจุดไหนเสียงไม่ดี จะทุ่มพลังแฝงทุกอย่างลงจุดนั้น ทำแล้วเสียงยังไม่ดีอีก จะมีการทิ้งทวนคืนหมอหอน จนกว่าจะได้รับชัยชนะ ซึ่งบรรดาคอการเมืองตามสภากาแฟนต่างฟันธงเป็นเสียงเดียวกันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องทุ่มเงินไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท จึงจะคว้าชัยชนะ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พท.ขอลดเวลาซักฟอกแค่2วัน
“รังสิมันต์” ยังอุบไต๋เชือดรัฐมนตรีกี่ราย แต่มั่นใจเป็นเรื่องของกรรม บอก 5 วันไม่มากไป
‘กาสิโน’ต้องฟังปชช. กฤษฎีกาคลอดร่างกม.ให้ทำได้ยากขึ้น/ม็อบขู่จัดทัพลงถนน
เร่งเดินหน้าเปิด "กาสิโน" กฤษฎีการับลูกติดสปีดทำคลอดร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ
โจ๊กลุ้นกก.วินัย 20ก.พ.ชี้ชะตา! บี้‘สุชาติ’ไขก๊อก
"บิ๊กหวาน" เตรียมนัดประชุมสรุปผลสอบวินัยร้ายแรง "บิ๊กโจ๊ก" หลังครบกำหนด 270
ครม.ทุ่มงบหนุนภาคใต้ NGOห้ามเอื้อทุนผูกขาด
นายกฯ ร่อนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ชาวบ้านต้อนรับมาให้กำลังใจลูกสาวทักษิณ
กห.ยันทำงานร่วม3ปท. เตือนไทยสูญเสียอิสระ
"หลิว จงอี้" เข้าพื้นที่เมียวดีพบเหยื่อชาวจีนและต่างชาติที่ศูนย์บัญชาการ BGF กว่า 900 คน
'รุ่นใหม่-รุ่นเลี้ยงหลาน' ไม่ต่างกัน! สส.ส้มผวาหลุดเก้าอี้ พูดอย่างทำอย่าง
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "44 คนของพรรคส้ม" โดยระบุว่า ผลพวงของ 44 สส. พรรคก้าวไกล ร่วมลงชื่อร่างแก้ไขมาตรา 112