หนุนประชามติ‘กาสิโน’

"จุรินทร์" แจง ปชป.ยังไม่หารือปม "กาสิโน" ย้ำเป็นเรื่องใหญ่กระทบวงกว้าง ปชช.มีความเห็นต่าง พรรคการเมืองไม่ได้หาเสียงมาก่อน จึงควรทำประชามติให้ปชช.ตัดสินเป็นทางออกดีที่สุด "สส.ปชน." ระบุขาดมาตรการป้องกันการฟอกเงิน หวั่นเพิ่มปัญหากาสิโนเขมรพาเหรดเปิดในไทย "นันทนา" หนุนทำประชามติถ้าแก้ไขความซับซ้อน-ลดงบฯ จัดทำได้  "อดีต รมว.คลัง" จวกโครงการอันตรายสุดพรรณนา ปธ.วิปรัฐบาลยังไม่แน่ใจต้องทำประชามติหรือไม่ ขอรอดูร่างกฤษฎีกาก่อน "ทักษิณ" โวคิดมาก่อนสิงคโปร์ แต่ถูกพวกมือถือสากปากถือศีลคัดค้าน  

เมื่อวันที่ 20 มกราคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส. บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า พรรค ปชป. ยังไม่เคยมีการคุยกัน ถ้าสมมติว่ารัฐบาลตัดสินใจจะเสนอเข้าสภา ตอนนั้นที่ประชุมพรรคหรือที่ประชุม สส.ของพรรค จะมีการคุยกันว่าจะมีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการประชุม สส.ของพรรคเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ และต้องรอความชัดเจนด้วยว่าสุดท้ายรัฐบาลจะนำเข้าสภาหรือไม่

ส่วนที่เสนอให้ทำประชามตินั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า 1.เรื่องนี้เป็นเรื่องผลกระทบอย่างกว้างขวาง ทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหวมาก 2.ประชาชนมีความเห็นต่าง ฝ่ายหนึ่งเห็นด้วยอีกฝ่ายไม่เห็นด้วย 3.พรรคการเมืองไม่ได้หาเสียงมาก่อนว่าจะทำกาสิโน เพราะฉะนั้นข้อยุติที่ดีที่สุด คือการทำประชามติ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาลเองที่จะได้มีความชอบธรรมถ้าประชาชนเห็นด้วย ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็ยกเลิกได้ เพราะเป็นรัฐบาลในวิถีทางประชาธิปไตยที่ควรรับฟังเสียงประชาชน ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่และมีผลกระทบในวงกว้าง จึงคุ้มค่าที่จะทำประชามติ

 “โดยภาพรวมเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คิดว่าแรงต่อต้านไม่มี แต่ประเด็นใหญ่คือกาสิโน เพราะถ้าจะทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คิดว่าประชาชนไม่ขัดข้องอะไร ฝ่ายที่ต่อต้านส่วนใหญ่เท่าที่รับฟังก็ไม่ได้คัดค้าน เพราะการทำศูนย์การค้า ทำร้านอาหาร การทำแหล่งบันเทิง ก็มีอยู่แล้วในประเทศเรา ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ แต่สิ่งที่เป็นประเด็นความเห็นที่ขัดแย้งกันอยู่คือกาสิโน" นายจุรินทร์ระบุ

เมื่อถามว่า ถ้าร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสภา ปชป.ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลจะโหวตอย่างไร นายจุรินทร์ตอบว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันในพรรคก่อน คือขอดูหน้าตาของร่างว่าจะออกมาเป็นอย่างไร รายละเอียดเงื่อนไขเป็นอย่างไร และเมื่อไปคุยในพรรคแล้ว ในภาพรวมพรรคมีความเห็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำประชามติรอบหนึ่งต้องใช้งบประมาณกว่า 3 พันล้าน จะคุ้มหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า คิดว่าคุ้มค่า เพราะความเสียหายถ้าเทียบไปแล้วกับ 2-3 พันล้าน หากเกิดความเสียหายจะมากกว่านี้ เป็นความเสียหายมหาศาล โดยเฉพาะปัญหาทางสังคมและผลกระทบทางเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเป็นห่วง

ด้านนายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สส.นนทบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวขาดมาตรการป้องกันการฟอกเงินที่ชัดเจน แม้จะแต่งตั้งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ร่วมเป็นคณะกรรมการนโยบาย แต่ไม่มีบทบัญญัติใดที่ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของ ปปง.ในการตรวจสอบหรือกำกับดูแลธุรกรรมที่เกี่ยวกับกาสิโน อาจกลายเป็นช่องทางให้กลุ่มทุนผิดกฎหมายใช้ประโยชน์ คณะทำงานจำนวน 11 คน ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2567 ไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันการฟอกเงิน หรือการจัดการผลกระทบทางสังคมแม้แต่คนเดียว อีกทั้งยังพึ่งพาผู้ประกอบการระดับโลกโดยไม่มีการกำกับที่เพียงพอ อาจถือเป็นการละเลยหน้าที่ของรัฐ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดการฟอกเงิน

ยกกาสิโนเขมรมาไว้ไทย

นายนนท์กล่าวต่อว่า ควรทำให้รัดกุมรอบด้าน ไม่ให้เป็นแหล่งฟอกเงินของมิจฉาชีพ และรัฐบาลควรสร้างกลไกป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยกาสิโนควรต้องมีการรายงานธุรกรรมการเงิน ควรกำหนดกฎหมายการทำ KYC (Know Your Customer) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลก เป็นกระบวนการที่ใช้ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตนลูกค้า รวมถึงตรวจสอบข้อเท็จจริงของลูกค้าหรือ CDD (Customer Due Diligence) ประเมินความเสี่ยงและความโปร่งใสของลูกค้า

 “ผมเริ่มไม่แน่ใจว่ากฎหมายที่รัฐบาลผลักดันนี้ จะช่วยแก้ปัญหาหรือเพิ่มปัญหาให้กับประเทศ หรือบทบาทของรัฐบาลมีเพียงแค่สนับสนุนทุกอย่างที่พ่อนายกฯ เสนอ โดยไม่สนใจผลกระทบที่จะตามมา ขนาดมีกฎหมายการรายงานธุรกรรม สถาบันการเงินยังไม่ทำตามเลย แล้วนี่ทำกฎหมายกาสิโนแต่ไม่เขียนมาตรการไว้ในตัวบทกฎหมาย  ใครที่ไหนจะทำให้คุณ ในฐานะเคยร่วมเป็นกรรมาธิการรายงานศึกษาการจัดตั้งเอนเตอร์เทนเมนต์เพล็กซ์ของสภา ในรายงานผลการศึกษาที่เสนอไปยัง ครม.มีข้อเสนอแนะต่างๆ อาทิ ต้องมีขนาดใหญ่ โรงแรมหรูหราระดับ 5 ดาว มีสปา แหล่งบันเทิง ห้างร้านช็อปปิ้ง แต่จากที่ดูในบัญชีแนบท้ายร่างกฎหมายของ ครม.ได้ตัดลดสิ่งเหล่านี้ทิ้งแทบหมด และลดขนาดลงเพื่อให้ครบตามที่เสนอมาเท่านั้น เกรงว่าสุดท้ายก็คงจะยกกาสิโนของกัมพูชามาไว้ที่บ้านเรา" นายนนท์กล่าว

ด้านนางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังศึกษาและรอดูรายละเอียดที่รัฐบาลดำเนินการ หากรัฐบาลจะผลักดันเรื่องนี้จริง เราพร้อมแสดงจุดยืน รวมถึงร่วมให้ข้อมูลแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เพราะถือเป็นอนาคตของเยาวชนของชาติ และทิศทางของประเทศ ส่วนที่มีการเสนอให้ทำประชามตินั้น  เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ทำให้เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ยากใช้เงินเยอะ หากเป็นไปได้อยากให้การทำประชามติเป็นเรื่องที่ประชาชนเข้าถึงง่าย ตราบใดที่การจัดทำประชามติมีมูลค่าสูง รายละเอียดมากซับซ้อน ก็ถือเป็นเรื่องที่ยาก แต่หากแก้ไขในส่วนนี้ได้ก็เห็นด้วยที่จะมีการทำประชามติ

เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่นายทักษิณระบุว่า หากมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คนไทยจะมีเงินเต็มกระเป๋า นางสาวนันทนากล่าวว่า ไม่ทราบว่านายทักษิณพูดในนามของใคร ตำแหน่งอะไร ก็อยากให้มองประเทศเพื่อนบ้านที่นำเรื่องผิดกฎหมายขึ้นมาบนดิน ว่าเศรษฐกิจดีอย่างที่คาดไว้หรือไม่ ถ้าเรานำเรื่องอบายมุขขึ้นมาถูกกฎหมายทั้งหมด ต่อไปประเทศเราอาจจะใกล้เคียงกับบางประเทศที่มีสินค้าส่งออกเป็นยาเสพติด เพราะถือว่าทำรายได้ดี มองว่านี่ไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ แต่ต้องเริ่มต้นจากการเมืองที่ดี รัฐธรรมนูญต้องดี นำไปสู่เศรษฐกิจที่ดี และยั่งยืน ไม่ใช่การแจกเงินชั่วครั้งชั่วคราว  หรือเอาอบายมุขขึ้นมา สุดท้ายแล้วเยาวชนของชาติไม่มีอนาคต

อันตรายสุดจะพรรณนา

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า "นโยบายบ่อนกาสิโน พรรคเพื่อไทยไม่ได้ใช้หาเสียงเลือกตั้ง แต่เมื่อตั้งรัฐบาลข้ามขั้วจึงคิดจะทำบ่อนกาสิโน คนที่จะทำเรื่องนี้ไม่ได้คิดถึงอนาคตของคนในชาติ คนไทยต้องลุกขึ้นมาต่อต้าน จะปล่อยให้มีรัฐบาลคิดทำบ่อนกาสิโนนำพาประเทศฉิบหายไม่ได้ เพราะการสร้างชาติไม่ได้มาจากการสร้างบ่อนกาสิโน ถ้าคนคัดค้านมีน้อยตามที่อ้างกัน ทักษิณคงสนับสนุนการทำประชามติไปแล้ว ดังนั้นการทำบ่อนกาสิโนจะได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน คนไทยต้องลุกขึ้นมาต่อต้าน และตัดไฟแต่ต้นลมก่อนจะเกิดหายนะ"

นายสมหมาย ภาษี อดีต รมว.การคลัง และอดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ธุรกิจสีเทาในไทยทำไมจึงเบ่งบาน” ระบุว่า "ชาวต่างชาติที่มาประกอบธุรกิจสีเทาในไทยก็ไม่ใช่มีแค่ชาวจีนและชาวรัสเซีย แต่ยังมีชนชาติจากยุโรปก็ไม่ใช่น้อย เร็วๆ นี้อาจจะเห็นพวกจากแอฟริกาบ้างก็ได้ ถ้าจะมีคำถามว่าทำไมธุรกิจสีเทาในไทยจึงมีมากดาษดื่นมากกว่าประเทศอื่น คำตอบมีชัดเจน ประการแรก คนไทยเราเองจำนวนมากที่ประกอบธุรกิจแบบสีเทาให้ต่างชาติเขาเห็น หรือไม่ก็เข้าไปร่วมทุนกับต่างชาติที่ประกอบธุรกิจสีเทา สอง-เพราะในเมืองไทยมีกฎหมายควบคุมไม่รัดกุม และข้าราชการก็ไม่ได้ใส่ใจดูแลให้เป็นไปตามตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ได้สักอย่าง บางรัฐบาลถึงกับจะออกกฎหมายมาก่อให้เกิดธุรกิจสีเทาโดยตรงก็มี"

"ต้องขออภัยที่จำเป็นต้องออกความเห็นเรื่อง 'โครงการสถานบันเทิงครบวงจร' หรือ 'Entertainment Complex' ว่ามันเป็นโครงการที่จะเป็นอันตรายอย่างสุดจะพรรณนา ในการเปิดทางให้เกิดธุรกิจสีเทาตามมาอย่างแน่นอน และยังหมิ่นเหม่ต่อการเพิ่มแรงกดดันให้กับปัญหาสังคมที่ย่ำแย่ของไทย เกิดความเลวร้ายทับถมตามมาแบบไม่คุ้มค่าอีกมาก และเมื่อฟังให้ชัดก็ได้เห็นความน่าหวาดกลัวยิ่งขึ้นไปอีก เพราะที่จัดไว้ในที่ดินผืนใหญ่ของการรถไฟไม่ใช่แห่งเดียวในประเทศไทยเท่านั้น แต่จะมีอีก 4-5 แห่งคล้ายกันในท้องที่ของนักการเมืองบ้านใหญ่ทั้งหลาย นี่มันอะไรกัน เอาแต่มาปั้นตัวเลข GDP ว่าจะเพิ่มเท่านั้นเท่านี้โดยสำนักงานของรัฐไหนก็ไม่รู้"

"ผมถามตัวเองว่านี่นักการเมืองและข้าราชการไทยเขาเพ้อฝันไปหรือไง หรือว่ามีการเสพกัญชากันมากเกินไปแล้ว ของไทยที่จะตั้งในหัวเมืองสำคัญ 4-5 แห่ง ถือว่าเป็นโมเดลที่แปลกเป็นพิเศษในโลก บ่อนกาสิโนนั้นใครๆ ก็รู้ว่าเป็นธุรกิจสีเทา โกงกันก็ได้ ฟอกเงินก็ได้ แลกเปลี่ยนเงินสกุลไหนอย่างไรก็ได้ แต่รายรับรายจ่ายที่จะทำบัญชีให้ถูกต้องไม่ได้ ใหญ่อย่างไรก็ตาม สำนักงานบัญชีระดับท็อป 4 ของโลกคงไม่รับเป็นผู้สอบบัญชีให้ แล้วรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการไปกำกับดูแลให้อยู่กับร่องกับรอยได้อย่างไรกัน" นายสมหมายระบุ

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยว่า เรื่องที่ทุกคนเป็นห่วงเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา วันนี้ในฐานะที่เราอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติ เรื่องทั้งหมดที่ ครม.มีมติผ่านไปแล้ว และส่งไปที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นก็ยังไม่มาถึง ตนไม่ได้อ่านรายละเอียดจึงยังไม่มีความเห็น เพราะกฤษฎีกาก็อาจจะแก้ไขหรือเพิ่มเติมอะไรได้ กว่าจะมาถึงวิปหรือฝ่ายนิติบัญญัติก็น่าจะใช้เวลา 40-50 วัน และก็ยังไม่แน่ใจว่ามีเรื่องการทำประชามติหรือไม่ ซึ่งอาจจะมีก็ได้ ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นรายละเอียด

"ส่วนเรื่องการทำประชามติก็ต้องดูว่ามีหรือไม่มี วันนี้เขาอยากจะทำประชามติทุกเรื่อง แต่ต้องบอกว่าการทำครั้งหนึ่งใช้เงินประมาณ 3,000 ล้านบาท อาจจะทำพร้อมกับเรื่องอื่นก็ได้ จะบอกว่าเห็นด้วยหรือไม่ ขอให้ได้เห็นร่างที่กฤษฎีกาส่งกลับมาก่อน จะได้ดูในรายละเอียดทั้งหมด เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร" นายวิสุทธิ์กล่าว

ที่ จ.มหาสารคาม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ว่า เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีคนไปพูดว่าจะเปิดกาสิโน แต่จริงๆ กาสิโนเป็นพื้นที่ไม่ถึง 10% ของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ การที่บอกว่าเปิดกาสิโนนั้นบิดเบือน ตนคิดเรื่องนี้ก่อนสิงคโปร์ตั้งแต่ตอนเป็นสมัยพรรคไทยรักไทย

"คิดปุ๊บตอนนั้นก็มีคนค้านเลย นำโดยพวกที่มือถือสากปากถือศีล ผลสุดท้ายสิงคโปร์ก็เอาไปทำก่อน ทำให้เขาเพิ่มรายได้และนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเยอะ ของเราได้แต่ทำตาปริบๆ แต่วันนี้คนเห็นด้วยและเข้าใจแล้ว ฉะนั้นเราควรทำ ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน คนก็จะทำไร่ทำนาไม่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง" นายทักษิณ กล่าว.