รัฐมนตรีรัฐบาลพ่อเลี้ยงเรียงหน้าบอกดิจิทัลเฟส 3 ที่ “ทักษิณ” ประกาศแจก มี.ค.-เม.ย. ใกล้เคียงไทม์ไลน์ที่วางไว้ “บิ๊กอ้วน” บอก 15 ล้านคนได้แน่ “จุลพันธ์” ลั่นเมษายนแจก เพราะมีงบเหลือกว่า 1.57 แสนล้าน “เผ่าภูมิ” ยันเร่งศึกษาใช้บิตคอยน์ในภูเก็ตให้เร็วที่สุด คลังปลื้มอาร์แอนด์ไอคงเครดิตประเทศ
เมื่อวันอังคารที่ 21 มกราคม 2568 ยังคงมีความต่อเนื่องจากการช่วยปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 จะได้รับในเดือนมีนาคม-เมษายน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดว่านายทักษิณพูดอย่างไร แต่ขณะนี้เงิน 10,000 บาท เฟส 2 จะจ่ายภายใน 27 ม.ค.นี้ ประมาณ 3 ล้านคน จำนวนเงิน 3 หมื่นล้านบาท ส่วนเฟสที่ 3 กระทรวงการคลังได้ประชุมและเตรียมประกาศ ซึ่งก็รับรู้กันทั่วไปว่าจะจ่ายเงินได้ประมาณไตรมาสที่ 2-3 ซึ่งเวลาก็ใกล้เคียงกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยจะจ่ายให้ประมาณ 15 ล้านคน เป็นงวดที่ขึ้นทะเบียนไว้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวเช่นกันว่า การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ที่นายทักษิณประกาศนั้นคงใกล้เคียง เราพัฒนาระบบและเดินหน้าไปได้มากแล้ว ซึ่งระบบน่าจะพร้อมทดสอบช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. หากมีความพร้อมไตรมาส 2 จะดำเนินการได้ กำลังทำงานให้เร็วที่สุด ส่วนกลุ่มผู้ลงทะเบียนแบบไม่มีสมาร์ทโฟน ยังยืนยันว่าจะทำต่อ แต่ยังไม่กำหนด ต้องรอขั้นตอนทางกฎหมายให้ครบถ้วนก่อน และจะพยายามทำให้ทัน
“เฟส 2 ขณะนี้กรมบัญชีกลางมีความพร้อม โดยในวันที่ 27 ม.ค.นี้ จะเดินหน้าโอนเงินตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. จะให้มีการตรวจสิทธิ์ในระบบแอปพลิเคชันทางรัฐ หากผูกบัญชีเข้ากับพร้อมเพย์จะเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ แต่หากโอนไม่สำเร็จ กระทรวงการคลังจะทดลองโอนซ้ำ 3 รอบ เชื่อว่าจะจบสิ้นใน 3 เดือน หากไม่เรียบร้อยถือว่าสละสิทธิ์” นายจุลพันธ์กล่าว
ต่อมานายจุลพันธ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า คาดว่าจะจ่ายเงินให้กับผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ได้ภายในเดือน เม.ย.2568 จากเบื้องต้นประเมินว่าจะดำเนินการได้ภายในเดือน มี.ค.นี้ แต่การดำเนินการทั้งหมดยังเป็นไปตามไทม์ไลน์แน่นอน คือภายในไตรมาส 2/2568 ทั้งนี้ การดำเนินงานในเฟส 3 นั้น จะอยู่ในงบประมาณปี 2568 วงเงิน 1.87 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนนี้จะใช้สำหรับแจกเงินให้ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิ์ในเฟส 2 ราว 3.02 ล้านคน เป็นวงเงินกว่า 3 หมื่นล้านบาท ทำให้จะเหลืองบประมาณราว 1.57 แสนล้านบาทที่จะใช้ดำเนินการในเฟสที่ 3
“เฟส 3 รัฐบาลยืนยันว่าผู้ได้รับสิทธิ์จะได้รับเงินเต็ม 10,000 บาทแน่นอน โดยจะพยายามจ่ายทีเดียวทั้งก้อน ส่วนผู้ที่ได้รับสิทธิ์จะมีกี่รายนั้น คงต้องขอกลับไปดูในรายละเอียดก่อน ตอนนี้กำลังเขย่ายอดกันอยู่ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเรื่องเม็ดเงินที่จะใช้ดำเนินการ ต้องขอดูยอดผู้ได้รับสิทธิ์จริงก่อน ส่วนเม็ดเงินที่ใช้ในโครงการแจกเงิน 10,000 บาททั้งหมดนั้น น่าจะจบที่ราว 4 แสนล้านบาท ต่ำกว่าที่เคยตั้งไว้ตอนแรกที่ 4.5 แสนล้านบาท” นายจุลพันธ์กล่าว
รมช.การคลังยังกล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตว่ามีเม็ดเงินในโครงการแจกเงิน 10,000 บาทโผล่ในงบประมาณปี 2569 ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด คงต้องขอกลับไปดูอีกครั้ง แต่เบื้องต้นมองว่าอาจเป็นการดำเนินการในกลุ่มตกหล่น โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้จำกัดเฉพาะเรื่องแจกเงิน 10,000 บาทเท่านั้น มิติในการใช้อาจมีมากกว่า ไม่ได้แปลว่าตะกร้าจะต้องปิดเฉพาะโครงการนี้เท่านั้น ตะกร้านี้เปิดไว้ได้ เงินมารอก็สามารถเอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง กล่าวถึงความพร้อมการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ว่าโครงการมีความพร้อมอย่างมาก โดยจะเปิดให้ตรวจสอบรายชื่อของผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินในวันที่ 22 ม.ค.นี้ ส่วนในวันที่ 27 ม.ค.ที่จะถึงนี้ ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์จะได้รับเงินเข้าบัญชีตามกำหนด ส่วนการแจกเงินในเฟสที่ 3 ให้ประชาชนที่ได้มีการลงทะเบียนแล้ว ซึ่งนายทักษิณระบุจะแจกเงินภายในเดือน มี.ค.-เม.ย.นั้น ถือว่าใกล้เคียงกับไทม์ไลน์ที่รัฐบาลวางไว้ เพราะอยากให้เงินลงไปช่วงที่เหมาะสม หรือในช่วงโลว์ซีซันของการท่องเที่ยว
ส่วนนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงข้อมูลผู้สูงอายุที่เป็นผู้มีสิทธิ์รับเงิน 10,000 บาท ในวันที่ 27 ม.ค. ที่ได้รายงานให้กับกระทรวงการคลังว่า ได้เสนอให้กระทรวงการคลังมีประมาณกว่า 4 ล้านรายชื่อ ซึ่งเป็นรายชื่อคนที่ลงทะเบียนกับแอปพลิเคชันทางรัฐ ซึ่งกระทรวงการคลังก็จะนำไปดูว่ามีคนไหนผ่านเกณฑ์บ้าง
“ท่านที่รู้ตัวว่าอยู่ในข่ายจะได้รับเงินหมื่นนี้ ขอให้ใช้เงินให้คุ้มค่า ระวังมิจฉาชีพ เพราะว่าเมื่อท่านได้รับเงินตรงนี้ไปแล้ว มิจฉาชีพก็จะจ้องกันตาเป็นมัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งออนไลน์หรือคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงกลุ่มคนต่างๆ ที่จะเข้ามาขอใช้เงิน” นายวราวุธกล่าว
นายเผ่าภูมิยังกล่าวถึงกรณีนายทักษิณระบุถึงการทำแซนด์บ็อกซ์สำหรับการใช้เงินดิจิทัลและบิตคอยน์ในจังหวัดภูเก็ตว่า เรื่องนี้อยู่ในการหารือภายในของกระทรวงการคลังถึงแนวทางและกลไกในการใช้และการกำกับดูแลว่าจะเป็นอย่างไร จากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปจะไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
“ทุกอย่างต้องทำให้เร็วที่สุด หากมีความพร้อม ก็จะสามารถเปิดเป็นแซนด์บ็อกซ์ในพื้นที่แรกที่มีความพร้อมได้” นายเผ่าภูมิระบุ
วันเดียวกัน นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค. บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เรตติ้ง แอนด์ อินเวสต์เมนต์ อินฟอร์เมชั่น อิงค์ (อาร์แอนด์ไอ) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ A- และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ระดับมีเสถียรภาพ โดยอาร์แอนด์ไอคาดว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นตัว และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริง (จีดีพี) จะเติบโตอยู่ที่ 2.6% ในปี 2567 และขยายตัวต่อเนื่องในปี 2568 อันเป็นผลจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งภาคการส่งออกสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แม้ว่าการขาดดุลทางการคลังจะยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ 4.3% ในปี 2567 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.5% ในปี 2568 แต่จะเริ่มทยอยลดลงตั้งแต่ปี 2569 จนอยู่ที่ 3% ในปี 2572
“ปัจจัยสำคัญที่อาร์แอนด์ไอจะติดตามสำหรับพิจารณาการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของประเทศไทยคือ การเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงวัยที่อาจจะส่งผลต่อภาระค่าใช้จ่ายของเงินงบประมาณ และมาตรการสนับสนุนการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ และการยกระดับมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการรักษาเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พิชัย'เปิดงาน'ชูใจ วัยเก๋า' ลดค่าครองชีพผู้สูงอายุ-ปชช.
“พิชัย” เปิดงานจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ภายใต้โครงการ “ชูใจ วัยเก๋า” นำสินค้าอุปโภคบริโภค 10 หมวด กว่า 1,000 รายการ
เมา24ชม.ไม่เว้นวันพระใหญ่
มีการพนันถูกกฎหมายยังไม่พอ! นายกฯ สั่งทบทวนช่วงเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
ยืดถึง30เม.ย. ‘คุณสู้เราช่วย’ อุ้มลูกหนี้1.7ล.
“พิชัย” แจงเงินหมื่นเฟส 3 ยังอยู่ระหว่างทบทวนระบบดิจิทัล ครม.ไฟเขียวขยายเวลา "คุณสู้ เราช่วย" ถึง 30 เม.ย.
หมายจับหม่องชิตตู ฟัน‘บิ๊กตร.’ทุนเทา
“นายกฯ อิ๊งค์” กำชับ ครม.จัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์เด็ดขาด ขอเวลา 2 อาทิตย์
ดัชนีCPIไทยร่วง เหลือ34คะแนน ชี้ปราบโกงเหลว
ป.ป.ช.เผยดัชนีการรับรู้การทุจริตปี 67 ไทยได้ 34 คะแนน อยู่ในอันดับ 107 ของโลก รั้งที่ 5 อาเซียน อึ้งต่ำสุดในรอบ 12 ปี
ตอบซักฟอกทุกเรื่อง อิ๊งค์จ่อคุยพรรคร่วมสู้ศึกฝ่ายค้าน/แก้รธน.ส่อแท้ง
“แพทองธาร” ลั่นพร้อมตอบทุกเรื่องในศึกซักฟอก “ทวี” ยกข้อกฎหมาย ป.ป.ช.ขู่หากอภิปรายพาดพิง “ทักษิณ” เท้งโวไม่กลัวถูกฟ้อง รอวัดใจ “เสรีพิศุทธ์” ให้ข้อมูลชั้น 14