‘ทรัมป์’สาบาน สู่ยุคทองสหรัฐ เซ็น200คำสั่ง!

โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเริ่มต้น "ยุคทอง" ของสหรัฐ หลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 พร้อมมั่นใจว่าจะกอบกู้สังคมที่พังทลายให้กลับมาดีกว่าเดิม  ประเดิมเซ็นคำสั่ง 200 ฉบับ ให้อเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงปารีส ออกจากสมาชิกองค์การอนามัยโลก

ที่ห้องโถงกลมของอาคารรัฐสภา กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 มกราคม 2568 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับวันที่ 21 ม.ค. ตามเวลาของไทย โดนัลด์ ทรัมป์ เสร็จสิ้นพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา  และกล่าวสุนทรพจน์ด้วยความมาดมั่นว่าจะนำอเมริกากลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม

"ยุคทองของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประเทศของเราจะเจริญรุ่งเรืองและได้รับการเคารพอีกครั้งทั่วโลก" ทรัมป์กล่าวที่อาคารรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของเขาที่ปรับเปลี่ยนมาดำเนินการในร่ม เนื่องจากข้อกังวลด้านสภาพอากาศที่หนาวเย็น

แม้ให้สัญญาว่าจะนำประเทศกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่โทนเสียงของทรัมป์นั้นมืดมนตามแบบฉบับของเขา และประณามสิ่งที่เขากล่าวว่าเป็น "การทรยศต่อชาวอเมริกันโดยสถาบันที่หัวรุนแรงและฉ้อฉล"

ทรัมป์กล่าวว่า เป็นเวลาหลายปีแล้วที่สถาบันซึ่งนิยมความรุนแรงและฉ้อฉลได้ดึงอำนาจและความมั่งคั่งจากพลเมืองของเราไป ในขณะที่เสาหลักทางสังคมของเราพังทลายและดูเหมือนจะทรุดโทรมลงอย่างสิ้นเชิงนับจากนี้เป็นต้นไป ความเสื่อมโทรมของอเมริกาสิ้นสุดลงแล้ว

ทรัมป์กล่าวคำสาบานกับพระคัมภีร์ไบเบิลที่แม่ของเขาให้มา พร้อมยกมือข้างหนึ่งขึ้นในอากาศ และกลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47

เขาเดินทางไปที่อาคารรัฐสภาพร้อมกับโจ ไบเดน ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งทำตามประเพณีด้วยการเสิร์ฟชาแก่ผู้สืบทอดตำแหน่งของเขาที่ทำเนียบขาว

"ยินดีต้อนรับกลับบ้าน" ไบเดนกล่าวกับทรัมป์ขณะที่เขาและจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ทักทายประธานาธิบดีคนใหม่และเมลาเนีย ภริยาของทรัมป์ ที่ทำเนียบขาว

แม้ว่าทรัมป์ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของไบเดนในปี 2021 หลังจากกล่าวอ้างการทุจริตการเลือกตั้งด้วยความเท็จ แต่ครั้งนี้ไบเดนมีความกระตือรือร้นที่จะฟื้นคืนความรู้สึกของประเพณี

ไบเดนเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีร่วมกับอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา, จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และบิล คลินตัน ที่รัฐสภา โดยอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ฮิลลารี คลินตัน และลอรา บุช ก็อยู่พร้อมหน้าเช่นกัน ยกเว้นมิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ที่พยายามอยู่ห่างๆ จากกลุ่มของบรรดาอดีตผู้นำ

พิธีครั้งนี้ค่อนข้างแหกขนบธรรมเนียมอยู่บ้างในประเด็นผู้นำต่างชาติที่ปกติแล้วจะไม่ได้รับเชิญ แต่ประธานาธิบดีฮาเวียร์ มิลเล ของอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นฝ่ายขวาจัดได้เข้าร่วมพิธีนี้ พร้อมกับนายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี จากฝ่ายขวาจัดของอิตาลี

อากาศที่หนาวเย็นรุนแรงทำให้พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ต้องจัดขึ้นในร่มเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของโรนัลด์ เรแกน ในปี 1985 ทำให้พลาดโอกาสพบปะกับฝูงชนจำนวนมากตามปกติที่เนชันแนลมอลล์

ภายใต้พิธีอันโอ่อ่าและอลังการ มหาเศรษฐีผู้นี้กำลังเริ่มต้นวาระชาตินิยมฝ่ายขวาของเขาด้วยคำสั่งฝ่ายบริหารราว 100 ฉบับที่เตรียมการประกาศใช้ทันทีเพื่อทำลายมรดกที่ไบเดนทิ้งไว้

ก่อนเวลาทองในฐานะประธานาธิบดีจะหมดลง โจ ไบเดน ได้ออกคำสั่งอภัยโทษล่วงหน้าเป็นกรณีพิเศษแก่พรรคพวกของเขา เพื่อปกป้องจากการสืบสวนที่ไม่มีมูลความจริงและมีแรงจูงใจทางการเมือง

เขายังอภัยโทษให้กับแอนโทนี เฟาซี อดีตที่ปรึกษาโควิด-19 รวมทั้งมาร์ก มิลลีย์ นายพลเกษียณอายุและสมาชิกคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ ที่สอบสวนเหตุการณ์โจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐ โดยผู้สนับสนุนทรัมป์ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021

ไบเดนกล่าวว่า เขาได้ฟื้นฟูประเพณีการฝากจดหมายให้กับผู้สืบทอดตำแหน่งของเขาด้วย และระบุว่า เนื้อหาในจดหมายนั้นจะเป็นความลับระหว่างเขากับทรัมป์เพียงสองคน

หลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งพิเศษประมาณ 200 ฉบับ อาทิ คำสั่งฝ่ายบริหารอภัยโทษจำเลย 1,500 คน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนเขาที่บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตันเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ในความพยายามไม่ให้สมาชิกสภาคองเกรสรับรองโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีสหรัฐหลังได้รับชัยชนะเหนือทรัมป์ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563

การอภัยโทษให้กับนักโทษในคดีบุกเข้าไปอาคารรัฐสภา เป็นหนึ่งในคำสั่งที่ทรัมป์ลงนามภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งทรัมป์กลับสู่ทำเนียบขาวในอารมณ์แห่งชัยชนะหลังจากชนะเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ในสุนทรพจน์ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง เขาวิจารณ์การทำหน้าที่ประธานาธิบดีของไบเดนและแสดงตนว่าได้รับเลือกจากพระเจ้าให้ช่วยประเทศที่กำลังสั่นคลอน

ทรัมป์ไม่ได้ดำเนินการทันทีในเรื่องการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศซึ่งเป็นคำมั่นสัญญาหลักของเขาระหว่างหาเสียง แต่ระบุว่า เขาจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์

ทรัมป์ประกาศถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกครั้ง ส่งผลให้สหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยมลพิษมากที่สุดในโลกถอนตัวออกจากความพยายามระดับโลกเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นครั้งที่ 2 ในรอบทศวรรษ นักวิเคราะห์และนักการทูตกล่าวว่า การถอนตัวครั้งที่ 2 ของสหรัฐครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อสหรัฐและทั่วโลกมากกว่าการถอนตัวครั้งแรกในปี 2560

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเพิกถอนคำสั่งห้ามการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งของสหรัฐที่ลงนามโดยไบเดน ที่บังคับใช้ตามแนวชายฝั่งส่วนใหญ่ของประเทศ

ทรัมป์ระบุด้วยว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก ระบุว่าหน่วยงานด้านสุขภาพระดับโลกแห่งนี้จัดการการระบาดของเชื้อโควิด-19 และวิกฤตด้านสุขภาพระหว่างประเทศอื่นๆ อย่างไม่เหมาะสม

คำสั่งฝ่ายบริหารอื่นที่ทรัมป์ลงนามคือเพิกถอนนโยบายของรัฐบาลไบเดนที่ควบคุมปัญญาประดิษฐ์และรถยนต์ไฟฟ้า

เขายังสั่งระงับการจ้างงานของรัฐบาลกลางและสั่งให้พนักงานของรัฐกลับมาทำงานที่สำนักงานแทนที่จะทำงานจากที่บ้าน เขาลงนามในเอกสารเพื่อจัดตั้งกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล ซึ่งเป็นคณะที่ปรึกษาภายนอกของทรัมป์ที่นำโดยอีลอน มัสก์ ซึ่งมีเป้าหมายในการลดรายจ่ายจำนวนมากของรัฐบาล

ทรัมป์ระบุด้วยว่า เขาจะออกคำสั่งยกเลิกโครงการความหลากหลายทางเพศของรัฐบาลกลางและกำหนดให้รัฐบาลยอมรับเฉพาะเพศที่กำหนดเมื่อแรกเกิดเท่านั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เจ้าหน้าที่การบินแห่งชาติสหรัฐฯ หลายร้อยคนถูกปลดออกทางอีเมล

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการลดการใช้จ่ายของรัฐบาล ขณะนี้โปรแกรมประหยัดงบส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่จำนวนมากของหน่