"ทักษิณ" เหน็บ "เท้ง" มีหน้าที่เดียวค้านในสภาแต่นายกฯ มีภารกิจเยอะกว่า หลังวิจารณ์ "แพทองธาร" ชิ่งฝุ่นบินไปสูดอากาศเมืองนอก ชี้ปัญหาฝุ่นทุกฝ่ายต้องช่วยกัน "อิ๊งค์" เคาะ 6 มาตรการระยะสั้นลด PM 2.5 ขอภาครัฐ-เอกชนจัด WFH พร้อมลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ให้ ปชช.ขึ้นรถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรี 7 วัน "มท." ประกาศ 15 จังหวัดห้ามเผา "อนุทิน" ขู่เด้งผู้ว่าฯ หากปล่อยมีเผาในพื้นที่ "เมืองกรุง" ยังน่าห่วง 67 พื้นที่อยู่ระดับสีแดง "ผู้ว่าฯ กทม." คาดเสาร์-อาทิตย์นี้อากาศเปิดช่วยฝุ่นดีขึ้น "รทสช.-นักวิชาการ" ซัด "ชัชชาติ" ไม่จริงจังแก้ปัญหาฝุ่นเหมือนที่เคยหาเสียง
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 เกินมาตรฐานจนอยู่ในขั้นวิกฤตหลายพื้นที่ว่า เราต้องยอมรับการเผาเพื่อเกษตรมีมาอย่างต่อเนื่องและไม่ยอมหยุดยั้ง ซึ่งมาตรการก็ยังไม่ได้รับการดูแลกันเท่าที่ควร นับตั้งแต่ประเทศเพื่อนบ้านก็มี ประเทศเราก็เยอะ คราวก่อนก็มีการเผาอ้อย เกิดฝุ่นละอองเยอะมาก ฉะนั้นวันนี้เราต้องร่วมมือกัน และรัฐบาลได้สั่งการไปว่าให้ทุกเขตกวดขันเรื่องการเผาในที่โล่ง ไม่ว่าจะเป็นการเผาซังข้าว ข้าวโพด หรืออ้อย ซึ่งถ้าคุยกันไม่เข้าใจไม่รู้เรื่องก็อาจจะต้องใช้กฎหมาย รวมถึงหยุดการช่วยเหลือจากภาครัฐ และโรงงานน้ำตาลก็ต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบ เพราะส่วนใหญ่ชาวไร่อ้อยก็เป็นลูกไล่ของโรงงานน้ำตาลทั้งนั้น
นายทักษิณกล่าวว่า เมื่อไม่เผาเกษตรกรก็อาจจะมองว่าเพิ่มต้นทุน ซึ่งโรงงานน้ำตาลหลายแห่งก็มีโรงงานไบโอแมส ก็น่าจะให้เขาตัดใบมาขายดีกว่าเผา และนายกฯ สั่งให้ไอซีทีจัดเร่งทำแอปพลิเคชันเพื่อให้คนแจ้งการเผาในทุกพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไประงับโดยด่วน
นอกจากนี้ ในส่วนกรุงเทพฯ ขณะนี้เนื่องจากอากาศปิด ลมไม่พัดควันออกไป นายกฯ ก็สั่งมาตรการ 7 วัน ให้ประชาชนใช้รถส่วนตัวให้น้อยลง โดยมาใช้บริการสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าหรือรถเมล์ โดยจัดให้มีการใช้บริการฟรี 7 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. ซึ่งผลพลอยได้จะดูว่าค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายจะได้ผลหรือไม่ อยากให้ประชาชนใช้บริการรถสาธารณะ และมีการขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันรถควันดำอย่างเข้มข้นและเคร่งครัด และไซต์ก่อสร้างที่มีฝุ่นที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ก็ต้องสั่งให้หยุดการก่อสร้าง
"นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ให้ความร่วมมือเรื่องนี้เป็นอย่างดี และนายกฯ ยังมีสั่งการให้กรมฝนหลวงฯ ถ้าความชื้นพอให้ขึ้นไป ก็ทำฝนเทียมด้วย เพื่อให้ลดมลภาวะฝุ่นในกรุงเทพฯ" นายทักษิณกล่าว
ถามถึงกรณีที่ในโซเซียลมีเดียระบุพรรคเพื่อไทย (พท.) แก้ปัญหาเรื่องฝุ่นช้าไปหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเยอะกว่าที่เราคิด และความร่วมมือในการป้องกันยังไม่ดีพอ ในต่างจังหวัดยังมีการเผา ส่วนกรุงเทพฯ เป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้เฉพาะหน้า
ซักว่า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านฯ ออกมาเหน็บนายกฯ ว่าไปสูดอากาศที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายทักษิณกล่าวว่า อ่อ ภารกิจมีหลายอย่าง ผู้นำฝ่ายค้านมีภารกิจเดียวคือค้านในสภา ฉะนั้นภารกิจนายกฯ เยอะกว่า ก็ต้องว่าไป
นายกฯ สั่ง 6 มาตรการแก้ฝุ่น
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กและ X ถึงมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ว่า เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ยังเป็นที่น่ากังวล ดิฉันจึงขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการเร่งด่วนเพิ่มเติม เพื่อแก้ไขปัญหาระยะสั้น ดังนี้ 1.ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชน ให้เจ้าหน้าที่และพนักงานสามารถทำงานแบบ WFH เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และดิฉันได้สั่งการไปทางกระทรวงคมนาคมให้สนับสนุนยกเว้นค่ารถไฟฟ้า-ค่ารถเมล์ ภายใต้กำกับของรัฐเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เพื่อลดปริมาณฝุ่นที่เกิดจากรถยนต์
2.ให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด หากมีความชื้นมากเพียงพอ ขอให้ปฏิบัติการฝนเทียมเจาะช่องบรรยากาศทั่วกรุงเทพฯ 3.ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด หากพบเห็นการเผาขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที 4.ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับรับแจ้งเหตุการเผา ให้พี่น้องประชาชนสามารถรายงานจุดที่เกิดการเผาได้อย่างรวดเร็วและเร่งแก้ปัญหาที่พบในทันที 5.ขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าฯ ชัชชาติ ให้กวดขันไซต์ก่อสร้างที่ไม่คลุมผ้าป้องกันฝุ่นตามกฎหมายโดยเคร่งครัด และช่วงอากาศปิด ขอความร่วมมือให้เลื่อนการก่อสร้างที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองออกไปก่อน และ 6.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านกวดขันรถควันดำโดยเคร่งครัด
"รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาฝุ่นควันอย่างเต็มที่ โดยมีทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาว และจะเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว" น.ส.แพทองธารระบุ
ทั้งนี้ ช่วงเช้า (24 ม.ค.) น.ส.แพทองธาร ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ทางไกลจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มายังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย เพื่อกำชับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5
ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเสียงวิจารณ์ในโลกออนไลน์ช่วงนี้ที่มีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่กรุงเทพฯ อย่างหนัก แต่นายกฯ มาทำอะไรที่การประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ว่า ต้องบอกให้เข้าใจก่อนว่าเรื่องฝุ่น เราทราบและเห็นแล้วว่าฝุ่นกำลังจะมา เราเตรียมตั้งแต่วันแรกที่เป็นนายกฯ เลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่ปีที่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในแต่ละพื้นที่ ฝุ่นไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ของเราว่าทำไมวันนี้มีฝุ่น รัฐบาลทราบอยู่แล้วว่ามีฝุ่น เพราะฉะนั้นก่อนมาเห็นเรียกประชุมกระทรวงที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว เราทำแบบนี้หมดแล้ว มากไปกว่านั้น ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนทั้งหมด เราขอความช่วยเหลือทั้งหมดว่าทุกคนร่วมมือกันให้ฝุ่นน้อยลง แน่นอนวันที่ฝุ่นมันเยอะ มันอยู่ในอากาศ เราไม่สามารถดีดนิ้วให้ฝุ่นหายไปได้ เราเตรียมเท่าที่ทำได้อย่างเต็มที่ เต็มกำลัง เผอิญว่าวันที่เรามาที่นี่เป็นช่วงที่ตรงกับช่วงฝุ่นเยอะ เราไม่สามารถเปลี่ยนวันของประชุม WEF ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องสื่อสารไป
“การมีฝุ่นไม่มีใครชอบหรอก ดิฉันลูกเล็ก เข้าใจดี ลูกออกไปเล่นข้างนอกไม่ได้เลย เพราะฝุ่นไปโรงเรียนก็ไม่ได้ เพราะเด็กเกินไป ไม่สามารถดูแลตัวเองในการปิดแมสก์เคร่งครัด เราก็ให้อยู่บ้าน ทำสุดความสามารถ” นายกฯ กล่าว
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ได้รายงานการปฏิบัติงานว่า หลังจากที่นายกฯ มีข้อสั่งการเร่งด่วน จึงได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเข้าดูแลบริหารจัดการด้านโครงข่ายคมนาคม เพื่อลดปัญหา PM 2.5 ดังนี้ 1.รถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดินให้บริการฟรี 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค.ให้บริการฟรีทุกเส้นทาง ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอสได้เจรจากับผู้ประกอบการที่ให้บริการประชาชนฟรีเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลจะชดเชยตามค่าเฉลี่ย 7 วัน รวมประมาณ 140 ล้านบาท
2.ให้ ขสมก.ให้ประชาชนใช้บริการรถเมล์ฟรีทุกสาย ในระยะเวลา 7 วันเช่นกัน 3.ให้หน่วยงาน กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ลงพื้นที่ตรวจวัดค่าควันดำรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 8 จุด 4.ให้กรมทางหลวง (ทล.), กรมทางหลวงชนบท (ทช.), การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.), การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟท.) และหน่วยงานที่มีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมต่างๆ เข้าบริหารจัดการพื้นที่ทันที เบื้องต้นให้ผู้รับเหมาฉีดพรมน้ำ ทำความสะอาดล้อรถที่เข้า-ออกพื้นที่ก่อสร้าง
นายสุริยะกล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการต่างๆ ที่กระทรวงคมนาคมดำเนินการ เชื่อว่าจะมีประชาชนมาใช้บริการเกิน 20-30% แต่หากครบ 7 วันแล้วถ้าค่าฝุ่นยังไม่ลด จะมีการประเมินอีกครั้งว่าจะขยายระยะเวลาออกไปอีกหรือไม่
ฮึ่ม! จว.ปล่อยมีเผาเด้งผู้ว่าฯ
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า มท.มีมาตรการ โดยผู้ว่าฯ 15 จังหวัดได้มีการประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ห้ามเผา ให้ใช้วิธีฝังกลบ ซึ่งมันไม่ใช่เหตุการณ์ใหม่ ผู้ว่าฯ ทราบอยู่แล้วว่าเมื่อพ้นเดือน ธ.ค.ต้องเตรียมรับมือในเรื่องดังกล่าว ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ก็มีการดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนกรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือในการใช้รถ ถ้าใช้ให้น้อยลง มีมาตรการเวิร์กฟรอมโฮม ลดฝุ่นในสถานที่ก่อสร้าง ถ้าคอนโทรลเรื่องพรุ่งนี้ได้ปริมาณฝุ่นจะลดลง
"ผู้ว่าฯ จะต้องใช้มาตรการอย่างเข้มข้น ไม่ใช่แค่เพียงแปะป้ายเตือนไม่ให้เผา แต่ต้องมีมาตรการ เช่น การปรับหรือบังคับใช้กฎหมาย ถ้าแจ้งเตือนแล้วยังไม่เลิก ต้องส่งดำเนินคดีให้หลาบจำ ขณะเดียวกันที่ผ่านมาเรามีการปลูกต้นไม้และใช้พลังงานสะอาดจนจะล้นเกิน 3,600 เมกะวัตต์ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเตรียมการลดมลพิษ และไปร่วมกับปฏิญญาสหประชาชาติในการลดโลกร้อน ลดขยะ ตอนนี้ต้องขอความร่วมมือประชาชน และขออนุญาตใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น รวมทั้งวันที่ 29 ม.ค. จะมีการเปิดศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งจะมีการประชุมถอดบทเรียนและนำไปปฏิบัติ
"จังหวัดภาคกลางก็จะมีการดำเนินการในลักษณะเช่นเดียวกันกับทางภาคเหนือ ที่ไม่ให้มีการเผาซากเศษวัสดุทางการเกษตร และต้องมีการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชเกษตรให้เป็นพืชล้มลุก เพื่อไม่ให้มีการเผา ซึ่งจะมีการหารือกับอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะให้ไปช่วยชาวบ้านในการฝังกลบ เพราะเป็นภาวะฉุกเฉิน จะใช้งบฉุกเฉินในแต่ละจังหวัดไปช่วยเติมน้ำมัน จัดหาเครื่องจักร ให้เกษตรกรฝังกลบแทนการเผาหน้าดิน ขณะนี้ทุกจังหวัดได้มีการกำหนดช่วงวันห้ามเผา ถ้าใครเผาถือว่าผิดกฎหมาย" นายอนุทินกล่าว
ถามถึงการเวิร์กฟรอมโฮม นายอนุทินกล่าวว่า สิ่งที่ดีที่สุดคือการให้หน่วยงานต่างๆ รับรองให้พนักงาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในสมัยโควิดได้มีการล็อกดาวน์ประเทศแล้วเวิร์กฟรอมโฮม ประสิทธิภาพงานนั้นสูงขึ้นกว่าเดิม
"นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ได้รายงานการแก้ปัญหาฝุ่นใน กทม. ต้องขอความร่วมมือจังหวัดปริมณฑลด้วย ซึ่งพบว่าจังหวัดนครนายกยังมีการเผาอยู่ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยออกคำสั่งไปนานแล้วให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดในเรื่องของการเผา ถ้ายังเผาอยู่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องถูกย้าย ซึ่งจังหวัดนครนายก สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ก็เป็นจังหวัดที่มีการประกาศ ถ้ายังปล่อยให้มีการเผา ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมาเข้าห้องอบรมที่กระทรวงมหาดไทยสักพัก" นายอนุทินกล่าว
ที่ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง นายชัชชาติเดินทางไปติดตามสถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่ กทม. พร้อมระบุว่า สถานการณ์ฝุ่นวันนี้แย่กว่าเมื่อวาน (23 ม.ค.) พบพื้นที่สีแดง 67 พื้นที่ หวังว่าจะเบาลงในช่วงสองวันนี้ เพราะสภาพอากาศน่าจะเปิดขึ้น แต่ปัญหาไม่ใช่แค่ กทม. แต่กินพื้นที่กว้างทั้งปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันออก และอีกหลายจังหวัด ตอนนี้จึงอยากขอให้ระวังเรื่องสุขภาพ สวมหน้ากากอนามัย งดกิจกรรมกลางแจ้ง
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า การเผาเป็นปัญหาที่หนัก โดยเฉพาะจากพื้นที่รอบนอก เมื่อมีลมพัดพาฝุ่นเข้ามาเจออาคารสูงใน กทม.ก็ชะลอความเร็วลง ทำให้ฝุ่นเก็บกักอยู่ในเมือง และจากการส่งทีมงานไปดูพื้นที่จังหวัดนครนายก พบมีการเผาพื้นที่โล่งจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่าพื้นที่เผาเป็นนาปลูกข้าวนาปี ซึ่งมีตอซังใหญ่ การกำจัดด้วยวิธีอื่นเป็นไปได้ยาก เกษตรกรจึงใช้การเผา และทางหน่วยงานท้องที่ยังไม่มีคำตอบว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
ถามถึงการสั่งปิดโรงเรียน ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า การสั่งปิดโรงเรียนสังกัด กทม. วันนี้ปิดแล้วรวม 352 แห่ง สำหรับการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นในวันเสาร์และอาทิตย์ การระบายอากาศยังคงตัว และจะดีขึ้นในวันที่ 27-28 ม.ค. (วันจันทร์ถึงวันอังคาร) จึงยังไม่ได้ยกระดับมาตรการใดออกมา ฝากประชาชนดูแลสุขภาพตัวเอง กทม. พร้อมน้อมรับคำติ แต่ก็ตั้งใจทำงานแก้ไขปัญหาต่อไป และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแก้ไขอย่างเต็มที่
"ปัจจัยสภาพอากาศนั้นเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งมีผล 30% ความกดอากาศ แก้ยาก ฝนหลวงอาจจะได้นิดหน่อย อย่างไรก็ตาม จริงๆ เมื่อวาน 1,300 พรุ่งนี้ 2,800 แล้ว สำหรับอัตราการไหล การโฟลว์อากาศ ซึ่งหากต่ำกว่า 2,000 นี้แย่ แต่ฝุ่นสะสมอยู่นาน ต้องใช้เวลาระบาย ไม่นับที่เผาใหม่ แต่ค่าที่เห็นเป็นเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ซึ่งจะเปลี่ยนช้า เสาร์-อาทิตย์จะดีขึ้น และวันจันทร์จะดีกว่า" ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
ซัดชัชชาติไม่จริงจังแก้ปัญหา
ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ได้สั่งยกเลิกการจัดงานครบรอบวันสถาปนายุวกาชาดไทย "103 ปี ร่วมใจสร้างสรรค์ยุวกาชาดไทย" ส่วนกลาง ในวันที่ 27 ม.ค. บริเวณสนามศุภชลาศัย กรุงเทพฯ ซึ่งมีครูและนักเรียนเข้าร่วมกว่า 5,000 คน เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งของ สพฐ. ที่ยกเลิกกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างไรก็ตาม ในจังหวัดอื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบฝุ่นละอองยังสามารถพิจารณาจัดกิจกรรมดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตาม นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ในพื้นที่ กทม.พบสถานการณ์หนักมาก ค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั้ง 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงขอเรียกร้องผู้ว่าฯ กทม.ให้ออกมาตรการเข้มข้นแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง
"ทราบดีอยู่แล้วว่าปัญหาฝุ่น PM 2.5 จะมีในช่วงเวลานี้เป็นประจำทุกปี จึงควรต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเพื่อแก้ปัญหาและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน แต่ที่เห็นการทำงานของ กทม. มาตรการยังไม่เข้มข้นเท่าที่ควร" รองหัวหน้าพรรค รทสช.กล่าว
เช่นเดียวกับ นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา กล่าวว่า ขอพูดในฐานะพลเมืองสูงอายุที่เลือกนายชัชชาติเป็นผู้ว่าฯ กทม. มองว่าปัจจุบันสภาพอากาศใน กทม.กำลังทำร้าย ทำลายเด็กอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ซึ่งปัญหานี้เกิดมาหลายปีแล้ว แต่เราไม่ยินดียินร้ายกับสภาพภูมิอากาศ สภาพฝุ่น โดยปัญหานี้เรื้อรังและหนักหน่วงขึ้นทุกปี แต่เมื่อเทียบกับนโยบายของนายชัชชาติที่เคยหาเสียงไว้กับภาคประชาชนนั้นดูดี แต่เมื่อลงไปสู่การแก้ไขปฏิบัติแทบไม่มีน้ำหนัก และแทบไม่แก้ไขปัญหาเลย
"กรุงเทพฯ เจอปัญหาสภาพอากาศปีแล้วปีเล่า แล้วทำไมเราถึงแก้ไขปัญหาไม่ได้ แล้วทำไมประชาชนต้องมาเผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายลงทุกปีๆ กลายเป็นว่าโรงเรียนและเด็กจะเป็นเหยื่อของระบบปัญหาที่ผู้ใหญ่ไม่ใส่ใจและละเลย เมื่อเจอปัญหามุ่งแก้ปัญหาเป็นปีๆ ไม่ได้จริงจังหรือผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ" นักวิชาการผู้นี้ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พท.ขอลดเวลาซักฟอกแค่2วัน
“รังสิมันต์” ยังอุบไต๋เชือดรัฐมนตรีกี่ราย แต่มั่นใจเป็นเรื่องของกรรม บอก 5 วันไม่มากไป
‘กาสิโน’ต้องฟังปชช. กฤษฎีกาคลอดร่างกม.ให้ทำได้ยากขึ้น/ม็อบขู่จัดทัพลงถนน
เร่งเดินหน้าเปิด "กาสิโน" กฤษฎีการับลูกติดสปีดทำคลอดร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ
อภิปรายไม่ไว้วางใจสาวไส้‘นายใหญ่’ หรือทิ้งทวนเวทีสุดท้าย‘25สส.ปชน.’
ภายหลังเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีการรวบรวมญัตติของ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่าแต่ละพรรคจะอภิปรายรัฐมนตรีคนไหน และมีข้อกล่าวหาเป็นอย่างไร เพื่อนำมาเรียบเรียงเขียนเป็นญัตติเดียว
โจ๊กลุ้นกก.วินัย 20ก.พ.ชี้ชะตา! บี้‘สุชาติ’ไขก๊อก
"บิ๊กหวาน" เตรียมนัดประชุมสรุปผลสอบวินัยร้ายแรง "บิ๊กโจ๊ก" หลังครบกำหนด 270
ครม.ทุ่มงบหนุนภาคใต้ NGOห้ามเอื้อทุนผูกขาด
นายกฯ ร่อนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ชาวบ้านต้อนรับมาให้กำลังใจลูกสาวทักษิณ
กห.ยันทำงานร่วม3ปท. เตือนไทยสูญเสียอิสระ
"หลิว จงอี้" เข้าพื้นที่เมียวดีพบเหยื่อชาวจีนและต่างชาติที่ศูนย์บัญชาการ BGF กว่า 900 คน