หลิวจงอี้รับเหยื่อคอลฯ โรมหวั่นไทยซูเอี๋ยBGF

“หลิว จงอี้" ลุยแม่สอดอีกรอบ  เตรียมนำเครื่องบินจากจีนบินตรงรับเหยื่อกลับประเทศ “โรม” ปิดห้องคุย ฉก.ราชมนู ชี้การแก้ปัญหาเฉพาะหน้ายังมีจุดอ่อนเรื่องนโยบาย และ รบ.ต้องหนุนชายแดนมากกว่านี้ รับกังวลไทย-BGF ซูเอี๋ยกัน ผู้ว่าฯ ตากปัดเจอเหยื่อแก๊งคอลแค่คนเดียว

เมื่อวันที่ 16 ก.พ. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร" ตอนพิเศษ การเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ในโอกาส 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน  ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT2HD และวิทยุเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ ตอนหนึ่งว่า สำหรับความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์นั้น ทั้ง 2 ประเทศได้พูดคุยอย่างจริงจัง ซึ่งประธานาธิบดีจีนชื่นชมไทยที่มีการจัดการเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเด็ดขาด และจะตั้งทีมทํางาน 2 ทีมเพื่อช่วยกันในเรื่องนี้ โดยจีนประสงค์จะช่วยมากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ได้ขอแค่การตั้ง 2 ทีมที่จะสามารถสั่งการได้อย่างรวดเร็ว โดยมี รมว.การต่างประเทศ ช่วยกํากับดูแลในการพูดคุยของทั้ง 2 ทีม ให้พูดคุยแล้วสามารถหาข้อสรุปได้ทันที นับว่าเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์

เมื่อเวลา 10.30 น. คณะนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เดินทางจากประเทศเมียนมามายังท่าอากาศยานนานาดอนเมือง ประเทศไทย ก่อนจะนั่งเครื่องบินสายการบินนกแอร์เดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด จ.ตาก โดยมีคณะร่วมเดินทางจำนวนทั้งสิ้น 26 คน

ต่อมาเวลา 11.30 น. นายหลิว จงอี้ พร้อมด้วยคณะ เดินทางถึงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 โดยมี พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รักษาการผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก นำดูสถานที่ ซึ่งเป็นจุดที่จะรับตัวชาวต่างชาติจากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา เข้าสู่ขั้นตอนกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM ของประเทศไทย

โดยเป็นกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์และที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในจำนวนนั้นมีชาวจีนอยู่ด้วย และล่าสุด จากปฏิบัติการของกองกำลังทหาร BGF  ในประเทศเมียนมา ในการตรวจค้นอาคารต่างๆ  ในเมืองชเวก๊กโก สามารถรวบรวมคนได้ประมาณ 2,000 คน ครึ่งหนึ่งเป็นชาวจีน

นายหลิว จงอี้ ได้ตรวจดูทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด และแจ้งว่าในเบื้องต้นจะรับตัวชาวจีนกลับสู่ประเทศจีนด้วยวิธีการเดิมที่เคยใช้เมื่อปี 67 คือนำเครื่องบินจีนมาจอดที่ท่าอากาศยานแม่สอด

โดย พ.ต.อ.เพลินได้มีการอธิบายขั้นตอนการรับตัวของกลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยชี้ให้เห็นว่าจะมีขั้นตอนอย่างไร และจะผ่านการตรวจระบบอะไร โดยระบุว่าในพื้นที่ดังกล่าวสามารถรองรับคนได้ 200-300 คน และเต็มที่ไม่เกิน 500 คนต่อวัน แต่ทั้งนี้ต้องรอทั้ง 2 ประเทศหารือร่วมกันว่าจะจัดการอย่างไร

ต่อมาคณะเดินทางผ่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เข้าสู่พื้นที่ของประเทศเมียนมา ได้มีเจ้าหน้าที่ของฝ่ายเมียนมามาอธิบายถึงจุดการรับ-ส่งคนว่าจะต้องผ่านขั้นตอนอย่างไรบ้าง หลักสำคัญคือจะต้องผ่านการตรวจสอบของประเทศเมียนมาด้วย ทางนายหลิว จงอี้ ได้ตรวจดูสถานที่ด้วยตัวเอง ก่อนจะเดินทางข้ามกลับมาฝั่งประเทศไทย

วันเดียวกัน ที่ อ.แม่สอด คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ. ได้ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา กับผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจราชมนู โดยมี พล.ต.ไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร กล่าวให้การต้อนรับ

โดยนายรังสิมันต์กล่าวว่า กว่าจะปราบปรามได้มันนำมาซึ่งความสูญเสียจำนวนมาก ตนและ กมธ.ติดตามเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน อยากจะให้กำลังใจทุกท่าน งานทั้งหลายที่ท่านได้เผชิญคงเป็นงานที่ไม่ง่ายอย่างแน่นอน มันเป็นการต่อสู้กับแก๊งอาชญากรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

กังวลไทยซูเอี๋ย BGF

จากนั้นนายรังสิมันต์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า จากการพูดคุย มี 2 ขั้นตอน คือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและการแก้ไขปัญหาระยะยาว ซึ่งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทำได้ดีแล้ว แต่ยังมีจุดอ่อนทางด้านนโยบายและกฎหมาย รวมไปถึงอุปกรณ์บางอย่าง ที่กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดในอนาคตได้ เช่น อุปกรณ์แผงโซลาร์เซลล์ จานดาวเทียมสตาร์ลิงก์ และน้ำมัน ที่ยังพบว่ามีการลักลอบนำข้ามไปฝั่งเมียนมา ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว รัฐบาลจะต้องมีมาตรการรองรับ ควรจะต้องให้การสนับสนุนพื้นที่ชายแดนมากกว่านี้ และควรจะต้องมีงบประมาณ กำลังพลและเทคโนโลยี ทั้งนี้ จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอแผนอุปกรณ์ดังกล่าวขึ้นมายัง กมธ. เพราะ กมธ.มีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้รอบด้าน

ประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ยังกล่าวถึงข้อกังวลที่พบว่า เที่ยวบินเอกชนที่เดินทางมายังสนามบินแม่สอด ซึ่งตนเองได้โดยสารมา มีชาวต่างชาติโดยสารมาจำนวนมาก สอดคล้องกับข้อมูลทางการทหาร ที่ยังมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามา แม้จะมีการตั้งหน่วยคัดกรองถึง 4 ชั้นแล้วก็ตาม แต่ตนเองเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ทหารไม่สามารถเข้าไปทำการจับกุมได้ ตนจึงขอให้รัฐบาลทำการทบทวนนโยบายฟรีวีซ่า และขอให้มีการจัดโซนนิง โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน ซึ่งชาวต่างชาติที่จะมาในพื้นที่ดังกล่าว จะต้องแจ้งถึงวัตถุประสงค์ในการมา และให้พิจารณาเป็นราย  ส่วนข้อกังวลที่ 2 คือประเด็นเรื่องท่าข้าม เพราะข้อมูลทางการทหารรายงานว่าจุดท่าข้ามยังทีการลักลอบขนคน และส่งน้ำมันหลังเวลา 18.00 น.

เขากล่าวด้วยว่า การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการออกหมายจับ พล.ต.หม่อง ชิตตู  ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดน รัฐกะเหรี่ยง หรือ BGF ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญในการควบคุมเมียวดีและชเวก๊กโก และส่วนตัวเชื่อมีตัวเลขของคนที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ในชเวก๊กโกมีประมาณหลักแสนคน ยังไม่รวมกลุ่มเล็กๆ น้อยๆ ที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก และตอนนี้ตนได้ข้อมูลว่ามีความพยายามนำนายทุนรายใหญ่หลบหนีไปอยู่ที่เมืองพะอัน ดังนั้น การปราบปรามจะต้องเพิ่มมิติในการทำงาน เช่นการพูดคุยในหลายฝ่าย เพราะการพูดคุยกับทางการเมียนมาอาจจะยังไม่เพียงพอ

ส่วนกรณีทางการไทยออกมาแถลงว่า เหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ที่เป็นชาวต่างชาติ และรับได้รับการช่วยเหลือมาแล้ว 260 คน มีเพียงแค่ 1 คนที่ถูกหลอก ที่เหลือสมัครใจมานั้น นายรังสิมันต์  กล่าวว่า ยังไม่อยากสรุปตอนนี้ เพราะกระบวนการคัดกรองมี 2 ชั้น ซึ่งการคัดกรองขั้นใน ทางการไทยไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเราไม่มีทางรู้ได้เลยในรายละเอียดการคัดกรองว่าเป็นอย่างไร  เพราะเท่าที่สังเกต ก็พบเห็นข้อจำกัดเรื่องภาษา  เนื่องจากภาษาอังกฤษและจีนคงไม่เพียงพอ ต้องมีภาษาอื่นๆ เข้ามาด้วย รวมถึงข้อจำกัดเรื่องสถานทูต เพราะเหยื่อบางประเทศไม่มีสถานทูตในประเทศไทย มองว่ารัฐบาลไทยต้องให้ความสำคัญกับการคัดกรองให้มีประสิทธิภาพ จึงจะได้เห็นว่าใครเป็นตัวการใหญ่ และคนที่เกี่ยวข้องกับขบวนการที่จะนำไปสู่การทลายกลุ่มขบวนการแบบถอนรากถอนโคนได้

ส่วนการที่ทางการจีนส่งรายชื่อของตัวขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้กับทางการไทย 3,700 คน ไปคัดแยกออกจากเหยื่อ จะเป็นการช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนได้หรือไม่นั้น ประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ระบุว่า เป็นเพียงบรรเทาทุเลาเบาบาง ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด ถ้าหากทำได้คงทำไปนานแล้ว แต่ข้อมูลทางการจีนนั้นมีความสำคัญแน่นอน แต่ไม่สามารถจัดการได้ทั้งหมด ยกตัวอย่างตึกเคเคปาร์ค มีตัวการสำคัญคือ หวัน ค็อกคอย ซึ่งเป็นมาเฟียระดับโลก เป็นที่ต้องการตัวของหลายประเทศ ซึ่งการจะไปจับกุมไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนที่ชเวก๊กโก มี พล.ต.หม่อง ชิตตู ที่อยู่ในฐานะผู้ร่วมลงทุน ถือเป็นอาชญากรรายสำคัญ การสอบสวนจึงต้องมีการขยายผลไปยังบุคคลอีกหลายกลุ่ม เพื่อนำไปสู่การถอนรากถอนโคนอย่างแท้จริง

ส่วนกรณีที่กองกำลัง BGF พยายามกวาดล้างและคืนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ ถือเป็นการจัดฉากหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์กล่าวว่า เป็นได้ทั้งหน้าฉากและการเอาจริง พร้อมตั้งคำถามกลับว่า  ถ้าหากจะเอาจริงทำไมเพิ่งมาทำตอนนี้ ซึ่งถ้าหากพบว่ามีการกระทำความผิดกฎหมายไทย ทั้งอัยการและดีเอสไอ หากไม่สามารถออกหมายจับได้จะต้องมีคนรับผิดชอบ เราไม่ควรปล่อยให้อาชญากรทำการละเมิดกฎหมายไทย ไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศก็ตาม

เมื่อถามว่า การที่ทางการไทยแถลงถือเป็นการซูเอี๋ยกันในการจัดลำดับการค้ามนุษย์หรือไม่  นายรังสิมันต์ตอบว่า ตนกังวลเรื่องการซูเอี๋ย ระหว่างกองกำลัง BGF และฝ่ายไทย ส่วนเรื่องของขั้นตอนกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM ตนจะมีการหารือกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความเข้มข้นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อคัดกรองว่าใครเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ แต่ตอนนี้ไม่ควรจะรีบสรุปว่าใครคืออาชญากร ซึ่งจะต้องทำกระบวนการคัดกรองให้มีประสิทธิภาพจริงๆ ก่อน

จากนั้น กมธ.ได้นำคณะประชุมรับฟังปัญหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยมีหน่วยงานปกครองและหน่วยงานความมั่นคงร่วมประชุมด้วย มีรายงานว่า ในวงประชุม กมธ.ได้ถกเถียงกันอย่างดุเดือดถึงการเปิด-ปิดด่านท่าข้ามว่าเป็นอำนาจของใคร โดยมีการโยนกันไปโยนกันมา

นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตำรวจออกมาระบุว่า ในจำนวน 260 คน มีเหยื่อค้ามนุษย์เพียงคนเดียวที่ถูกหลอกนั้น คาดว่าเป็นการวิเคราะห์ของศูนย์บางศูนย์ และเป็นความเห็นส่วนตัวมากกว่า

เชื่อ จนท.ไทยเอี่ยวแก๊งคอล

ขณะที่เมื่อเช้ามืดวันที่ 16 ก.พ. ระหว่างหน่วยเฉพาะกิจราชมนูที่ อ.แม่สอด ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ ผลการปฏิบัติตรวจพบบุคคลต้องสงสัยสัญชาติเมียนมาจำนวน 5 ราย เป็นผู้ชายทั้งหมด มีอายุอยู่ในวัยทำงาน โดยทั้ง 5 รายให้การว่าลักลอบข้ามมายังฝั่งไทยเพื่อเข้าไปหางานทำที่ กทม. นอกจากนี้ ในการลาดตระเวน ยังมีการตรวจพบกลุ่มบุคคลจำนวน 3 ราย ได้ผลักถังเหล็กขนาด 200 ลิตรลงบริเวณริมแม่น้ำ จึงเข้าทำการตรวจสอบ  พบว่าเป็นถังบรรจุน้ำมันดีเซล 200 ลิตร จำนวน 4 ถัง (รวม 800 ลิตร) และทำการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะกระทำผิด 3 ราย เป็นชาย 1 ราย เป็นหญิง 2 ราย ซึ่งทั้ง 3 รายเป็นคนไทยทั้งหมด โดยยอมรับสารภาพว่าเตรียมที่จะทำการลักลอบนำน้ำมันดังกล่าวเพื่อส่งไปขายที่ประเทศเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการที่มีการลักลอบขนน้ำมันข้ามแดนไปส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลทำให้ปั๊มน้ำมันในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก เกิดผลกระทบและปัญหาการขาดแคลนน้ำมัน  ปั๊มน้ำมันมีไม่พอเพียงที่จะนำมาขายในพื้นที่

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล”  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง War on Scam Gang ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 10-11 ก.พ. จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลในการจัดการกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานในเมียนมา

จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อมาตรการของรัฐบาลในการตัดไฟ ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งออกน้ำมันเพื่อจัดการปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 70.54 ระบุว่าเห็นด้วยมาก รองลงมา ร้อยละ 21.07 ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย, ร้อยละ 5.34 ระบุว่าไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 3.05 ระบุว่าไม่เห็นด้วยเลย

สำหรับการมีส่วนเกี่ยวข้องหรือการสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมาจากเจ้าหน้าที่รัฐของไทยบางคน พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 69.85 ระบุว่ามีแน่นอน รองลงมา ร้อยละ 26.87 ระบุว่าไม่แน่ใจ และร้อยละ 3.28 ระบุว่าไม่มี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง