ปราศรัยหลักสี่เดือด พี่ป้อมชูน้องตู่/พท.ปลุกให้ชนะขาด/วรงค์อ้อนแฟนปชป.

โค้งสุดท้ายเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร ตำรวจส่งกำลัง 500 นายดูแล “สิระ” แจ้นฟ้อง กกต. ปราศรัยทิ้งทวนสุดคึกคัก “ลุงป้อม” ขนคณะพบผู้สูงอายุ ลั่น พปชร.ใจถึงพึ่งได้ ดูแลตลอดชีวิต โดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ “มาดามหลี” บอกเป็นคะแนน 1 ใน 3 ที่ต้องคว้าให้ได้ “ชลน่าน” ปลุกสาวกต้องชนะให้เด็ดขาด อ้างโพลไหนก็บอกเข้าวิน “ก้าวไกล” ระบุเหมือนซ่องโจรแตก “ไทยภักดี” อ้อนแฟนคลับ ปชป.ช่วยเทคะแนนให้

เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ม.ค. มีความคึกคักอย่างมากเกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แทนตำแหน่งที่ว่าง ในเขต 9 หลักสี่-จตุจักร  วันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.นี้ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.เป็นต้นมาได้สั่งระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งยังไม่พบ ส่วนในวันที่ 30 ม.ค. จะใช้กำลังของตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) เป็นหลักในการทำงาน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า บก.น.ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเกือบ 500 นาย ในการสนับสนุนภารกิจดังกล่าว และหากใครพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กฎหมายเลือกตั้งสามารถแจ้งไปยัง Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะเดียวกัน นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ เขตหลักสี่ พร้อมทนายความ ได้ไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อร้องเรียนกรณีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กระทำการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (5) ประกอบมาตรา 132 วรรคสาม จากการโพสต์เนื้อหาของเพจพรรค โดยเสนอให้ กกต.สอบสวน หากผิดจริงให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยยุบให้พรรค

นายสิระกล่าวว่า เรื่องนี้มีการฟ้องคดีอาญาที่ศาลอาญาไปด้วย และเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. กล่าวในเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ยังไม่มีการเรียกเราไปรับทราบข้อกล่าวหา และการโพสต์ดังกล่าวก็มีก่อนประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งซ่อม ดังนั้น คงไม่เข้าข่ายตามที่กล่าวหา มั่นใจว่าไม่ได้ผิดกฎหมาย และคงไม่ถึงการยุบพรรค

วันเดียวกัน ผู้สมัครจากพรรคต่างๆ ยังคงเดินหน้าหาเสียง รวมทั้งมีการจัดปราศรัยใหญ่ทิ้งทวนกันจำนวนมาก โดยในช่วงเช้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขตจตุจักร-หลักสี่ เบอร์ 2 พรรคกล้า เดินพบปะพี่น้องประชาชนซอยวิภาวดี 64 พร้อมเชิญชวนประชาชนมาฟังปราศรัยใหญ่ที่สนามฟุตบอลเคหะท่าทราย หลักสี่ เช่นเดียวกับนายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยภักดี ได้ลงพื้นที่ที่หมู่บ้านดวงดี และหมู่บ้านอยู่เจริญนคร 2 พร้อมเชิญชวนไปร่วมเวทีปราศรัยใหญ่รับฟังอุดมการณ์และจุดยืนของตนเองและพรรค ที่สนามกีฬาเสนานิคม 2 ขณะที่นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.จตุจักร-หลักสี่ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 ก่อนชวนฟังปราศรัยใหญ่ที่ตลาดนัดเจเจกรีน 2

ด้านนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ก.ก. ยืนยันว่า จากการไปช่วยนายกรุณพลหาเสียงช่วงที่ผ่านมา และเข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว ค่อนข้างมั่นใจว่าจะรับเสียงสนับสนุนจากประชาชนเป็นอันดับ 1 ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ โดยในวันที่ 30 ม.ค. เราจะส่งตัวแทนพรรค 280 คน ไปประจำหน่วยเลือกตั้งทั้ง 280 หน่วย ซึ่งเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งซ่อมที่พรรคมีอาสาสมัครเข้ามาร่วมสังเกตการณ์จำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนตื่นตัวและใส่ใจการเลือกตัวแทนไปเป็นปากเสียงของเขา และยังสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนไม่มั่นใจในการทำงานของ กกต. หรือเชื่อว่าจะมีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้น จึงอยากเรียกร้องไปยัง กกต. ให้รักษาความเที่ยงธรรมในการเลือกตั้งในครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา

ลุงป้อมหาเสียงผู้สูงอายุ

และเมื่อถึงเวลา 17.00 น. ที่วิภาวดี พาเลซ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. พร้อมคณะ ได้ลงพื้นปราศรัยใหญ่เพื่อช่วยนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 โดยนายสิระกล่าวกับผู้สูงอายุช่วงหนึ่ง ว่า ขอฝากให้ประชาชนช่วยเลือกนางสรัลรัศมิ์ เพื่อสานต่อการทำงาน หากรักสิระขอให้เลือกมาดามหลีไปเป็นตัวแทน

ส่วน พล.อ.ประวิตร กล่าวตอนหนึ่งว่า มาที่นี่ด้วยความรัก อยากจะอยู่ร่วมกับพวกท่าน ตนเองเกิดในกรุงเทพฯ ยินดีพบผู้สูงอายุใกล้เคียง เพราะก็อายุ 77 ปี ยืนยันว่ารัฐบาลดูแลผู้สูงอายุ และสังคมผู้สูงอายุที่เกิดมากขึ้น โดยพรรค พปชร.และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม พยายามทำทุกอย่าง ทั้งเรื่องที่ดิน ที่อยู่ สร้างอาชีพให้อยู่ดีกินดี และนโยบายของ พปชร.จะสนับสนุนโครงการผู้สูงอายุเป็นอันดับแรก เพราะประชาชนจะอยู่ในบั้นปลายของชีวิตต้องมีความสุข มีที่อยู่ที่กิน มีเงินเดือน และล่าสุดรัฐบาลมีการปรับเงินเดือนผู้สูงอายุตั้งแต่ 80 ปี 70 ปี ลงมาตามลำดับ เพราะผู้สูงอายุถือว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญ

“เราจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ และยืนยันว่าเราไม่มีความขัดแย้งใดๆ พรรค พปชร.ใจถึงพึ่งได้ ทำทุกอย่างให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ทุกสาขาอาชีพ และให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแลจนกว่าจะเสียชีวิตให้อยู่ดีเป็นสุข” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ต่อมา พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์หลังลงพื้นที่ช่วยหาเสียงถึงความมั่นใจ​ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. ว่าแล้วแต่ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ การเลือกตั้งขึ้นอยู่กับประชาชน​ ส่วนจะมีแต้มต่อหรือไม่​ เราจะไปพูดอย่างนั้น​ ก็ไม่ได้​  เพราะเราไม่รู้​ ไม่มีใครรู้

เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจว่าจะสามารถ​รักษาเก้าอี้​ ส.ส.หลักสี่​-จตุจักร​ ไว้ได้หรือไม่​ พล.อ.ประวิตรย้ำว่า​ ก็บอกไปแล้วว่าแล้วแต่ประชาชน​

ขณะที่นางสรัลรัศมิ์กล่าวว่า ดูจากสีหน้า พล.อ.ประวิตรแล้วท่านก็คงมั่นใจว่าเราจะคว้าชัยในครั้งนี้ได้ และทุกคนก็ได้กำลังใจเป็นอย่างดี ขณะที่โครงสร้างประชากรผู้สูงอายุในเขตหลักสี่-จตุจักรมี 1 ใน 3 และเราเน้นดูแลผู้สูงอายุเป็นหลักมาโดยตลอด คิดว่าผู้สูงอายุทั้งหลายจะเทใจให้กับเรา และชักจูงลูกหลานให้เทคะแนนให้เราด้วย

เมื่อถามว่า ยืนยันกับ พล.อ.ประวิตรใช่หรือไม่ว่าจะคว้าชัย 100% นางสรัลรัศมิ์ตอบว่า "ใช่"

เมื่อถามย้ำว่าเหตุผลสำคัญที่ทำให้มั่นใจมีอะไรบ้าง นางสรัลรัศมิ์กล่าวว่า จากการลงพื้นที่มาโดยตลอด หลายบ้านที่เข้าไปพูดคุยก็บอกกับเราว่าที่บ้านมีกี่คน ก็จะยกคะแนนให้เราหมด ฉะนั้นจึงคิดว่าคะแนนของเราครั้งนี้จะเยอะมาก

ถามอีกว่ากระแสของทั้ง พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างไรบ้าง นางสรัลรัศมิ์กล่าวว่า ส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งได้ข่าวดีมา ในเรื่องการฟื้นสัมพันธ์กับประเทศซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นข่าวดีของประเทศไทย ที่จะได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนแรงงานซึ่งกัน รวมถึงเรื่องของการท่องเที่ยว เพราะประเทศซาอุฯ ร่ำรวยมาก ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของ พล.อ.ประยุทธ์ และคิดว่าอันนี้จะทำให้คะแนนไหลมาทางรัฐบาล

เมื่อถามว่า การหาเสียงครั้งนี้มีการชู พล.อ.ประวิตรเป็นหลัก กระแสเป็นอย่างไรบ้าง นางสรัลรัศมิ์กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค และที่ผ่านมาพรรคเราก็เสนอนโยบายที่ดูแลประชาชนมาโดยตลอด และจะเห็นว่า พล.อ.ประวิตรให้ความสำคัญกับประชาชนสูงวัยและสังคมผู้สูงอายุ

ปราศรัยใหญ่เดือด!

เวลาเดียวกัน ที่สวนสาธารณะ เคหะทุ่งสองห้อง พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดปราศรัยใหญ่ช่วยนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะพรรคเพื่อไทยปราศรัยว่า เราต้องช่วยกันเลือกนายสุรชาติให้ชนะขาด เพราะถ้าเราไม่ชนะขาด เราจะขาดโอกาสในการแก้ตัว ในการกู้ศักดิ์ศรีคืนจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งนายสุรชาติจะไม่ชนะถ้าพี่น้องไม่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะจากที่สำรวจมา พี่น้องบอกจะออกมาใช้สิทธิเพียง 50 คน จาก 100 คน ถ้าเป็นแบบนี้ เราแพ้ ดังนั้นขอให้พี่น้องช่วยกันออกมาใช้สิทธิ และฝากพี่น้องช่วยเป็นหูเป็นตา พร้อมบอกต่อๆ กันว่า เงินรับมา  แต่จะกาพรรคเพื่อไทย

"เราต้องแก้แค้นให้นายสุรชาติ ไม่ยอมให้เขาโกง เราจะรายงานคะแนนทุกกระดานแบบเปิดเผยในสื่อทั่วไป เพื่อไม่ให้เกิดการเอาบัตรเปล่ามากายัด และเราจะไม่ยอมให้ไฟดับด้วย ครั้งนี้ปันใจไม่ได้ ขอให้พรรคเพื่อไทยเท่านั้น ที่พูดแบบนี้พวกผมไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แต่ขอให้พี่น้องคำนึงถึงพรรค ที่มีโอกาสชนะมากที่สุด และทุกโพลพรรค เรามีโอกาสชนะมากกว่าทุกพรรค จึงขอให้เลือกพรรคที่มีโอกาสชนะเพื่อจะสู้กับพรรคฝั่งรัฐบาลขณะนี้ เพื่อบอกไปยังรัฐบาลว่า เราต้องการการเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว และนี่เป็นวิธีเดียวที่เราจะแสดงออกในทางประชาธิปไตย" นพ.ชลน่านปราศรัย

ส่วนที่ตลาดเจเจกรีน 2 พรรค ก.ก.ได้จัดปราศรัยใหญ่ ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ก.ก. ปราศรัยและตามมาด้วยแกนนำพรรค ซึ่งนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ได้ปราศรัยระบุว่า รัฐบาลขณะนี้มีสภาพเหมือนก่อนซ่องโจรแตก จึงหวังว่าประชาชนในเขต 9 ก้าวเท้าเข้าคูหากาด้วยความหวัง กาด้วยหัวใจ เลือกพรรคก้าวไกล

ขณะที่ลานกีฬาชุมชนเสนานิคม 2 พรรคไทยภักดีได้ปราศรัยใหญ่ โดยมี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรค รวมทั้ง พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา และนายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมด้วย โดย นพ.วรงค์ปราศรัยว่า เป็นโค้งสุดท้ายชี้เป็นชี้ตายอนาคตของประเทศ นี่คือการต่อสู้ของประชาชนกับกลุ่มการเมืองขนาดใหญ่ จึงต้องรบแบบจรยุทธ์ รบในทุกรูปแบบ ไม่ต่างจากสงคราม ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้คือการเลือกตั้งซ่อม ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในการกำหนดนโยบาย แต่ก็พรรคการเมืองบางพรรคหาเสียงแบบบิดเบือนด้วยการกำหนดนโยบายว่าจะทำโน่นทำนี่ เข้าข่ายโกหกหลอกลวงประชาชน

                    “วันนี้อยากบอกชาวเขตจตุจักรและหลักสี่ว่า จะเลือก ส.ส.ไปเป็นฝ่ายค้าน หรือจะเลือก ส.ส.เข้ามาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ขอย้ำว่าพรรคไทยภักดี 1 เสียงจะเป็น 1 เสียงคุณภาพ และเป็นพันธมิตรกับนายกรัฐมนตรี เราตรงไปตรงมาไม่มีกั๊ก ยืนยันว่าเราไม่ได้เกาะกระแส แต่เรายืนข้าง พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.2563 แต่มีพรรคบางพรรคที่เพิ่งมาเกาะกระแส แต่พรรคไทยภักดีไม่ใช่”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการปราศรัยช่วงหนึ่ง นพ.วรงค์ปราศรัยถึงเรื่องดาวเทียมไทยคม ถึงกับร้องไห้เสียงสะอื้นพร้อมกับกล่าวว่า สิ่งที่ดีใจและภูมิใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ คือการรับลูกแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และต่อสู้กันหลายรอบ จนถึงขณะนี้ดาวเทียมไทยคมดวง 4 และดวง 6 กำลังจะเป็นของประชาชนอย่างสมบูรณ์แบบ

“รอบนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ขอคะแนนจากแฟนคลับพรรคประชาธิปัตย์ให้เลือกพรรคไทยภักดีด้วย” นพ.วรงค์ปราศรัย

ที่สนามฟุตบอลเคหะท่าทราย ศูนย์เยาวชนหลักสี่ พรรคกล้าจัดเวทีปราศรัยใหญ่ช่วงโค้งสุดท้าย โดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ปราศรัยว่า ถ้าพี่น้องต้องการเลือกตั้งซ่อมแล้วอยากได้ ส.ส.เป็นฝ่ายค้าน ให้ไปเลือกพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย เพราะพรรคกล้าไม่มีเจตนาเลือกตั้งแล้วเข้าไปเป็นฝ่ายค้าน แต่พร้อมสนับสนุนทุกเรื่องที่นายกฯ ที่รัฐบาล ที่รัฐสภานำเสนอแล้วเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ขอเรื่องเดียว ขออย่าโกง อย่ามีเรื่องทุจริต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง