“อนุทิน” ยอมรับเป็นสะพานพา “เนวิน” พบ “ทักษิณ-อิ๊งค์” บ้านจันทร์ส่องหล้า บอกพูดคุยกันหลายเรื่อง ไปพบทุกเดือนเป็นเรื่องปกติ ลั่นภูมิใจไทยไม่เคยขวางเพื่อไทย ทำงานเป็นทีมเวิร์ก ปัดเคลียร์ใจรับศึกซักฟอก กำชับเข้มลูกพรรคอยู่ในแถว ด้าน “สมคิด” หยัน “ลุงป้อม” ร่วมศึกซักฟอก 4 ปีอภิปราย 2 วิ ขอสมุนดูแลเข้มเพราะยืนเป็นชั่วโมง “เลขาฯ สมช.” พร้อมเสิร์ฟข้อมูลถึงมือนายกฯ แจงปมอุยกูร์ ขณะที่ศาล ปค.สูงสุดยันปิดจบคดีจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” ปีนี้
เมื่อวันพุธ เวลา 10.05 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวยอมรับถึงกระแสข่าวที่ได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 2 มี.ค. โดยนายอนุทินได้ย้อนถามกลับสื่อว่า ทราบได้อย่างไร พร้อมกับหัวเราะ ก่อนยอมรับว่า ไปเป็นเรื่องปกติเป็นประจำอยู่แล้ว ก่อนถามกลับอีกครั้งว่า รู้ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเนวินได้ร่วมเดินทางไปด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทินยอมรับว่า ตนเป็นคนชวนไป นัดกันวันหยุด อยู่กันพอดี พร้อมยอมรับด้วยว่า มีการหารือกันหลายเรื่อง แต่ไม่มีอะไรมาก และเป็นการขอคำแนะนำ เนื่องจากนายทักษิณเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ มันก็ไม่มีคนอื่น ก่อนย้อนถามกลับสื่อมวลชนอีกครั้งว่า “ใครหลุดออกมา”
เมื่อถามว่า ยอมรับใช่หรือไม่ว่าได้เดินทางไปบ้านจันทร์ส่องหล้าจริง นายอนุทินถึงกับอุทานว่า “โห ผมยืนอยู่ตรงนี้ก็พูดแล้วว่าไปพบกันทุกเดือนเป็นเรื่องปกติ” พร้อมระบุว่า เมื่อตนถามอะไรนายทักษิณก็ให้คำแนะนำดีๆ เสมอ
ส่วนมีประเด็นการหารือเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และเรื่อง พ.ร.บ.การพนันออนไลน์หรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า ก็คุยกันทุกเรื่อง ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และนโยบายรัฐบาล เมื่อถามอีกว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องการจัดแข่งขันโมโตจีพีด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้คุยเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้อีกนาน
เมื่อถามย้ำว่า ถือเป็นการเคลียร์ใจหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมามีกระแสข่าวถึงรอยร้าวระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี เพราะตนคุยกับนายทักษิณเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่คุยโทรศัพท์ก็คุยไลน์ ไม่เคยมีอะไรที่เป็นปัญหา
หนูไม่ขวางแม้ว
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีประเด็นออกมาอีกหรือไม่ว่าพรรคภูมิใจไทยขวางพรรคเพื่อไทย หรือประเด็นรอยร้าว นายอนุทินถึงกับกล่าวว่า “เดี๋ยวก่อนนะ ภูมิใจไทยเคยขวางอะไรเพื่อไทย หากผู้สื่อข่าวพูดแบบนี้ก็เอาอีกแล้ว เสี้ยมคนให้ชนกันอีกแล้ว ส่วนประเด็นที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องหารือกัน และก็มีข้อสรุปทุกครั้ง อย่างร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ตอนแรกกระทรวงการคลังให้อำนาจนายกรัฐมนตรีรักษาการกฎหมายเพียงคนเดียว ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ชี้แจงต่อนายกฯ ว่าเรื่องกฎหมายควบคุมอาคารและอื่นๆ หากนายกฯ รักษาการคนเดียวอาจหนักเกินไป นายกฯ ก็เห็นด้วย ในที่สุดร่างล่าสุดก็ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมรักษาการ
“เราก็ทำงานด้วยกัน หากเราไม่ใช่ทีมเวิร์กไม่ห่วงกัน ให้เขารักษาการคนเดียว อย่างไรกระทรวงมหาดไทยก็มีบทบาทในเรื่องของกฎหมายการพนัน ไม่ต้องห่วง ต่อให้รักษาการหรือไม่ สปิริตการอยู่ร่วมกันก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบ มีอะไรก็ร่วมกันแบ่งเบาภาระ เพราะนายกฯ มีภาระอื่นมากมาย จะรู้เรื่องรายละเอียดกฎหมายแต่ละฉบับได้อย่างไร นี่ถือเป็นบทพิสูจน์ว่าเราทำงานด้วยกันด้วยความห่วงใย ความร่วมมือ และการสนับสนุน” นายอนุทินระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณให้ความเห็นเรื่องร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า สัปดาห์หน้าร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้น เรื่องนี้ขึ้นอยู่ที่นายกฯ ซึ่งกฎหมายที่รอเข้าอยู่มีร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ร่าง พ.ร.บ.การพนันออนไลน์ ซึ่งตนได้แจ้งถึงนายกรัฐมนตรีแล้วว่าหากจะนำร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับนี้เข้า ควรจะเร่งเอาร่างการเพิ่มโทษการพนันเถื่อนเข้าไปก่อนด้วย เพื่อที่จะรองรับกัน หากจะทำให้การพนันถูกกฎหมาย ต้องทำให้ผู้ที่จะทำการพนันผิดกฎหมายมีโทษหนัก แต่ยังไม่รู้ว่านายกฯ จะบรรจุเข้าเมื่อไหร่ ส่วนจะบรรจุพร้อมกันหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายกฯ ตนไม่สามารถก้าวล่วงได้
เมื่อถามว่า การหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้าได้มีการหารือถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตรงนั้นไม่ต้องพูดหรอก เราเชียร์กันมาตั้งแต่วันดินเนอร์พรรคร่วมฯ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบว่านายกฯ จะถูกอภิปรายคนเดียว แต่พอวันรุ่งขึ้นทราบว่านายกฯ ถูกอภิปรายคนเดียว ตนก็ออกมาให้ความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนนายกฯ เต็มที่
เมื่อถามอีกว่า เสียงโหวตของพรรคภูมิใจไทยจะเป็นแนวทางเดียวทั้งพรรคหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า วันนั้นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยห้ามลาห้ามขาด รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยทั้ง 8 คน ต้องอยู่ในสภาเตรียมข้อมูลที่ถูกพาดพิงก็ต้องตอบได้ เราจะไปหวังให้นายกฯ ตอบคนเดียวก็ไม่ได้ ท่านจะไปรู้เรื่องรายละเอียดได้อย่างไร แต่หากมีความประสงค์ที่จะตอบเอง ก็ต้องเตรียมข้อมูลนำเสนอให้นายกฯ ซึ่งก็มีการเตรียมตัวที่จะสนับสนุนนายกฯ อย่างเต็มที่ ส่วนที่นายกฯ บอกว่าได้มีการส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคนั้น ท่านก็พูดสนุกตลกไปเท่านั้น มีใครกล้าไม่ช่วย เป็นสปิริตอยู่แล้ว แต่ตนจำไม่ได้ ท่านก็ส่งแค่สติกเกอร์ แต่ไม่ได้เป็นการขอให้ทุกคนช่วย นายกฯ ไม่ทำหรอก ใครปล่อยให้นายกฯ ทำอย่างนั้น ตนก็คงต้องโทร.ไปบอกให้ท่านยกเลิกข้อความแล้ว มันเป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี
"หน่วยงานที่เรากำกับดูแลทั้ง 4 กระทรวงพร้อมอยู่แล้ว รัฐมนตรีคนไหนไม่พร้อม ผมตัดสินรัฐมนตรีในส่วนของผมได้ หากไม่อยู่ก็ one way ticket" โดยนายอนุทินกล่าวย้ำว่า พูดถึงรัฐมนตรีภูมิใจไทยคนอื่นไม่เกี่ยว
หยันลุงป้อมลงศึก
เมื่อถามกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ด้วยนั้น นายอนุทินย้อนถามกลับว่า “อ๋อเหรอ ก็ดี เพราะไม่ได้เห็นท่านในสภามานาน คิดถึง”
เมื่อถามอีกว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะเห็น สส.ของพรรคภูมิใจไทยทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯ หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ขอใช้คำว่าเป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯ หน้าที่คือถ้าใครไม่อยู่ในกฎระเบียบผิดข้อบังคับ ก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้ไม่เกิดการเสียเวลา เพราะหากใช้เวลานานเกินไปก็ไม่เกิดประโยชน์ หากมีการพาดพิงก็ต้องดูว่าอยู่ในระเบียบข้อบังคับหรือไม่ ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องปกติ ทำกันอย่างกับไม่เคยมีอภิปราย
ด้านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ระบุว่า ต้องขอบพระคุณที่ พล.อ.ประวิตรจะลุกขึ้นอภิปราย ซึ่งความจริงมีความเป็นห่วงท่านที่จะอภิปราย เพราะเคยอยู่สภา เท่าที่เคยเห็น 4 ปีท่านอภิปรายได้แค่ 2 วินาที แต่ครั้งนี้เห็นว่าจะยืนเป็นชั่วโมง ซึ่งต้องขอขอบพระคุณท่าน ไม่เป็นอะไร เราก็เตรียมที่จะตอบรับ ยินดีที่จะอภิปราย และขอให้กำลังใจท่าน โดยขอให้ทีมรอบๆ ข้าง รวมไปถึงเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พยายามให้ข้อมูล พล.อ.ประวิตรเยอะๆ จะได้พูดคุยกับประชาชนได้ ซึ่งตนจะรอดู ไม่ไปไหน และจากการพูดคุยกับวิปรัฐบาลและ สส. ไม่ได้เตรียมองครักษ์พิทักษ์นายกฯ แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหวั่นไหวกับข้อมูลของพรรคประชาชนอยู่หรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ต้องหวั่นไหว หากถามมาก็ตอบไป ซึ่งนายกฯ จะตอบมากที่สุด ทั้งนี้ จากการที่ได้ไปดูญัตติที่ฝ่ายค้านเขียนมา มีเรื่องการครอบงำ ภาวะผู้นำ เชื่อว่านายกฯ จะสามารถตอบได้ไม่ต้องเป็นห่วง
ขณะที่ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า กรณีเรื่องส่งอุยกูร์กลับจีน สมช.จะรายงานนายกฯ แบบเป็นบันทึกทางการตามขั้นตอน ขณะนี้ใกล้แล้วเสร็จ เมื่อถามอีกว่า ฝ่ายค้านเตรียมจะนำเรื่องดังกล่าวมาใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีด้วย นายฉัตรชัยกล่าวว่า ก็ต้องชี้แจงกันต่อไป ทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอน ทาง สมช.ก็ต้องเตรียมข้อมูลให้รัฐบาล และ สมช.เองก็ต้องชี้แจงด้วย
ขีดเส้นจบคดีปู
ที่ศาลปกครองกลาง นายประวิตร บุญเทียม รองประธานศาลปกครองสูงสุด กล่าวถึงคดีทุจริตจำนำข้าว ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ส่วนในคำสั่งพิพาทที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์รับผิด 35,000 ล้านบาทนั้น ทางผู้ฟ้องคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มาฟ้องให้เพิกถอนคำสั่งให้รับผิดนี้
“ซึ่งเรื่องนี้มี 4 โครงการ ทางศาลชั้นต้นก็วินิจฉัยกรณีความรับผิดว่า เป็นเรื่องการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ในฐานะนายกฯ ได้ตั้งคณะกรรมการประกอบด้วยปลัดกระทรวงทั้งหลาย ที่ได้หารือถึงการกำหนดแนวทางการป้องกันการทุจริตจำนำข้าว ฉะนั้นความผิดจึงไม่ได้มีเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์เพียงคนเดียว และเป็นความผิดในเรื่องของนโยบาย ดังนั้นศาลชั้นต้นจึงเพิกถอน คำสั่งที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ผู้ฟ้องคดี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 35,000 ล้านบาท ทางผู้ฟ้องก็ได้อุทธรณ์ ซึ่งคดีก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด โดยคดีนี้ก็มีการอุทธรณ์กันมานานพอสมควร ตั้งแต่ปี 2564 ฉะนั้นเรื่องนี้ก็ค่อนข้างที่จะก้าวหน้าไปพอสมควรแล้ว” นายประวิตรระบุ
นายประวิตรระบุว่า ส่วนในคดีนี้ที่มีเจ้าหน้าที่จำนวน 5 คน คือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์, นายภูมิ สาระผล, นายมนัส สร้อยพลอย, นายทิฆัมพร นาทวรทัต และนายอัฐฐิติพงศ์ หรืออัครพงศ์ ทีปวัชระ ได้รับคำสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมเช่นเดียวกัน ซึ่งคดีก็อยู่ในชั้นอุทธรณ์ของศาลปกครอง ดังนั้นคดีทั้งสองยังไม่ถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น เชื่อว่าจะไม่นาน และก็คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้ เพราะคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เย้ยมั่นคงรำวง ดับไฟใต้ไม่คืบ! ‘อ้วน’เสียงอ่อย
"สว.ไชยยงค์" ฟาดรัฐบาล “ดับไฟใต้” ไม่คืบ “สว.ใต้” ชี้กล้าๆ กลัวๆ ปล่อย "กอ.รมน.ภาค 4-สมช.” รำวง เสนอใช้ กม.ก่อการร้ายสู้
ขีดเส้น30วันแจงส่งทักษิณชั้น14
"ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ขีดเส้น 30 วัน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจงปมส่งตัว "ทักษิณ" รักษาชั้น 14 รพ.ตำรวจ
พิงอาเซียนสู้ทรัมป์ ธปท.ชี้4ปัจจัยเสี่ยง
นายกฯ ย้ำไทยจับตาท่าทีสหรัฐใกล้ชิดทุกมุม เชื่ออเมริการอดูฟีดแบ็กรอบโลกเช่นกัน
ซื้อเสียงเลือกตั้งซ่อม บี้กกต.นครฯจะจับกี่โมง ‘ธรรมนัส’ลุยช่วย‘บิ๊กโอ’
โค้งสุดท้ายเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ กกต.จัดกิจกรรม Road Show ไม่ซื้อสิทธิ
ผงะ!กินหัวคิวปีละ2แสนล. ‘สตง.’กอดขั้นตอนแก้แบบ
"สตง." ก้นร้อนร่อนเอกสารแจง ปรับแก้แบบปล่องลิฟต์ ความหนาลดลง 5 ซม.
ไทย-เขมรชื่นมื่น โชว์สัมพันธ์75ปี ฮุนเซนโอ๋ลูกแม้ว
"ไทย-เขมร" ชื่นมื่น เปิดตราสัญลักษณ์สัมพันธ์ 75 ปีสองประเทศ ลงนามเอกสาร 7 ฉบับ