อนิจจัง!ครม.อิ๊งค์ เก้าอี้นายกฯยังไม่จีรัง/จูบปากหนุนกาสิโน

“อุ๊งอิ๊ง” ปลง! บอกใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง แม้แต่ตำแหน่งนายกฯ ย้ำตอนนี้ยังไม่คิดปรับอะไรทั้งสิ้น ส่วนผลโพลก็รับฟัง “ภูมิธรรม” พลิ้วไปมา ตอนแรกบอกเพื่อไทยเหมือนเดิม แต่ภูมิใจไทยต้องไปถามกันเอง ต่อมาหลังนายกฯ เรียกถกงบประมาณ กลับควงแขนหวานฉ่ำกับเสี่ยหนู ลั่นจะจับมือกันชั่วนิรันดร พรรคร่วมรัฐบาลพาเหรดโยน “นายกฯ อิ๊งค์” ตัดสินใจ สำทับไม่คิดย้ายกระทรวง “พปชร.” ยันไม่มีลมหวน “บิ๊กอ้วน” เผยคุยหัวหน้าพรรคล่าสุดเห็นพ้องหนุนกาสิโนแล้ว

เมื่อวันอังคารที่ 22 เม.ย.2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายกฯ หัวเราะก่อนตอบว่า ความจริงตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม และทราบมาว่ามีเรื่องของผลโพลที่ทุกคนให้ความสนใจ ความจริงแล้วพร้อมรับฟังทุกความเห็น ไม่ว่าจะเป็นผลโพลหรือความเห็นของประชาชนจะนำไปคิด

 “ความจริงแล้วใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ไม่ว่าตำแหน่งทุกอย่างหรือแม้แต่ตำแหน่งของนายกฯ ก็เช่นกัน ไม่ใช่แค่ตำแหน่งของใครคนใดคนหนึ่ง ตำแหน่งของนายกฯ ก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นเราก็ทำใจให้นิ่งไว้”

เมื่อถามว่าที่บอกให้ทำใจให้นิ่ง เป็นการสื่อสารไปยังรัฐมนตรีทุกคนใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่ค่ะ ทุกๆ คนบอกว่าทุกๆ อย่าง เราต้องใจนิ่งๆ ไว้ ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ได้คิดปรับอะไร แต่พอรับฟังความคิดเห็นก็ต้องมาดูว่าอย่างไรบ้าง เพราะความจริงแล้วชอบทำงานเป็นทีม ชอบทำงานในแบบที่ทำงานด้วยกันไม่ต้องสู้กัน ไม่ต้องไฟต์กันในแต่ละกระทรวง ความจริงไม่ชอบความแตกสามัคคี แต่ก็ทำดีที่สุดแล้ว ดูว่าเป็นอย่างไร ถ้าสมมุติว่าเกิดอะไรขึ้นมาเราไปปรับแก้ตอนนั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอะไร

เมื่อถามว่า การทำงานของ ครม.ชุดนี้ที่ผ่านมาเรื่องความสามัคคีเป็นอย่างที่หวังใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ถือว่ามีความสามัคคี เมื่อมอบนโยบายใดๆ ทุกคนก็พยายามทำเต็มที่และเกิดขึ้นจริง แต่ก็เข้าใจหลายๆ กระทรวงที่บางทีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดไว้ บางนโยบายหรือบางอย่างอาจขรุขระบ้าง อันนี้เข้าใจได้

เมื่อถามถึงกรณีมีการวิเคราะห์กันว่าจะปรับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออก แล้วนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้ามาแทน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “อะไรนะ เอาพรรคภูมิใจไทยออก เอาพลังประชารัฐเข้าแทน หืม อันนี้ โอ้โหคำถามนี้แรง ยังไม่มีอย่างนั้นนะคะ ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนเดิมอยู่”

เมื่อถามอีกว่า ในอนาคตมีทางนำพรรค พปชร.เข้ามาได้หรือไม่ เพราะตอนหาเสียงเคยบอกว่าให้ดูหน้าดิฉัน จะไม่จับมือกับคนทำรัฐประหาร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “ใช่ค่ะ ที่บอกว่าดูหน้าดิฉันไว้จะไม่จับมือกับคนทำรัฐประหาร อันนี้คือ 2 ปีที่แล้ว เผอิญคะแนนมันไม่ถึงก็เลยต้องจับกันหน่อย และจับมาสักพักแล้วเหมือนกัน ทำไมคำถามนี้ดีเลย์จัง”

ถามย้ำว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นเหมือนในปัจจุบันจนจบรัฐบาลหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ก็อยากให้เป็นเช่นนั้น จะมีอะไรอีกหรือไม่เล่าให้ฟังบ้างสิ ดูดวงให้หน่อย

เมื่อถามว่า ผลโพลบอกให้ปรับในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับเสียงสะท้อนของคนในพรรค เราจะปรับยุทธศาสตร์หรือปรับตัวรัฐมนตรี น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ตกผลึก ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่เรารับฟังทุกความคิดเห็น

ถามว่า เหมือนความคิดเห็นของ น.ส.แพทองธารจะเห็นแย้งกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มีท่าทีเหมือนอยากให้ปรับ ครม. น.ส.แพทองธารจึงถามกลับว่า “เอ๊ะ คุณพ่อให้สัมภาษณ์อยากให้ปรับ ครม.หรือ” ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ก่อนถามอีกว่า แต่ดูเหมือน น.ส.แพทองธารจะไม่ยอมเรื่องนี้ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า มันไม่ไปถึงจุดที่ไม่ยอมหรอก เห็นต่างมีหรือไม่มี ตัวดิฉันและคุณพ่อมีความเห็นต่างตลอด แต่เห็นด้วยกันก็เยอะ แต่ไม่ไปถึงจุดที่มีปัญหากันแน่นอน

ต่อมา น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีระบุ ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ไม่ว่าตำแหน่งทุกอย่างหรือแม้แต่ตำแหน่งของนายกฯ เป็นการส่งนัยอะไรหรือไม่ว่า “ไม่มี เป็นเรื่องธรรมชาติ”

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของนายกฯ หากเห็นว่ารัฐมนตรีกระทรวงใดมีความไม่เหมาะสม เป็นสิทธิของนายกฯ ที่จะปรับ หากเป็นโควตาไหน กระทรวงใด และอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดต้องเคลียร์กับพรรคนั้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครได้สัญญาณอะไรจากนายกฯ ว่าจะปรับ ครม. เป็นเรื่องพูดกันแต่คนวงนอกเป็นส่วนใหญ่ รู้สึกว่าอยู่ดีๆ เรื่องนี้ก็ลอยขึ้นมาเป็นประเด็น โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ดังนั้นเรื่องนี้ต้องถามนายกฯ เอง

บิ๊กอ้วนโยน ภท.ถามตัวเอง

ส่วนความขัดแย้งของพรรค พท.กับพรรค ภท. นายภูมิธรรมกล่าวว่า แต่ละพรรคมีเรื่องภายในของตัวเองที่ต้องไปเคลียร์ แต่สำหรับหัวหน้าพรรค ภท. และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีประเด็นอะไรขัดแย้งกัน แต่อาจเห็นต่างกันบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ ทั้งหมดต้องอาศัยหลักการและความถูกต้อง

เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มองว่าพรรค พท.กับ ภท.ยังเดินกันต่อไปได้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า อยู่ที่พรรคภูมิใจไทย และอยู่ที่ภายในของพรรคเพื่อไทย แต่ละพรรคต้องไปทำความเข้าใจของตัวเอง ทำความเข้าใจได้ ยอมรับหลักการได้ พรรคร่วมรัฐบาลก็เดินต่อไปได้

ถามย้ำว่า ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า “ผมเหมือนเดิม แต่ว่าฝ่ายภูมิใจไทยก็ต้องไปถามในพรรคเขาเอง”

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า พูดตรงๆ ข่าวเรื่องการปรับ ครม. ในฐานะที่อยู่ตรงนี้จะโดนปรับหรือไม่โดนปรับ ใครจะโดนหรือไม่โดน มีผลต่อการทำงานจริงๆ รบกวนอย่างที่นายกฯ ได้แจ้งไปว่า ณ ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ทุกคนยังทำงานตามปกติ

 “ทุกอย่างเป็นอำนาจตัดสินใจของนายกฯ และมั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และเพื่อให้การทำงานราบรื่น แต่อย่างที่นายกฯ บอก ณ ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม” นายสรวงศ์ย้ำ

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. กล่าวถึงกระแสพรรคจะถูกปรับออก เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กำชับให้เขี่ยออก ว่าการพูดถึงคนที่ไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ไม่แฟร์สำหรับเขา ซึ่งการปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกฯ ไม่จำเป็นต้องไปคุยไปถาม หรือฟังใครทั้งสิ้น และตั้งแต่เกิดกระแสข่าวก็ได้พูดคุยกับนายกฯ ตลอด แต่เป็นเรื่องของการทำงาน

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า นายกฯ ได้ให้ความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่หรือไม่ นายอนุทินย้อนกลับว่า ถ้าท่านไม่ให้ความมั่นใจ คงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีสูตรใหม่ดึงพรรค พปชร.เข้ามาร่วม และเอาพรรค ภท.ออก เป็นไปได้หรือไม่นั้น นายอนุทินตอบว่า นี่รัฐบาลนะ การทำอะไรต้องมีหลักการ มีความมั่นคง อย่าไปคิดอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน

เมื่อถามว่า กระแสข่าวที่ปล่อยออกมากวนใจหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า นักข่าวนั่นแหละกวนใจ โทร.มาเต็มไปหมด

เสี่ยหนูชี้แค่ข่าวลือ

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พรรค ภท.จะไปรวมกับพรรคประชาชน (ปชน.) จับมือกันเป็นฝ่ายค้าน นายอนุทินกล่าวว่า ปรับ ครม.ยังไม่ได้ปรับเลย จะไปเป็นฝ่ายค้านได้อย่างไร ธรรมดาการเมืองสมัยก่อนมีหัวหน้าพรรคเยอะ เขาก็คิดว่าจะชิงตำแหน่งนายกฯ กัน มีอะไรก็เขย่าตำแหน่ง แต่ตอนนี้ตำแหน่งนายกฯ มั่นคงและแข็งแรง ไม่มีคนคิดจะแข่งหรือคิดไม่ดีกับท่าน จะเอาท่านลงมาจากตำแหน่ง ในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีใครคิดเลย ทีนี้ก็เลยมาแกล้งตนเองแล้ว แค่นั้นเองไม่มีอะไร

ต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกระแสข่าวปรับ ครม.ว่า ไม่มี ไม่เคยมี ทำไมถึงถามเรื่องนี้เยอะจัง ไม่เข้าใจ ผู้สื่อข่าวพยายามถามย้ำว่า มีกระแสข่าวลือว่าพรรค พท.อาจทวงคืนกระทรวงมหาดไทย นายอนุทินกล่าวว่า ผู้สื่อข่าวคิดเองว่าเป็นกระแสข่าวลือ คำถามคือเราไปตอบข่าวลือทำไม

เมื่อถามว่า เมื่อมีข่าวออกมาแบบนี้ รู้สึกอย่างไรกับการทํางาน นายอนุทินกล่าวว่า เป็นข่าวลือ รู้สึกไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ทำงานปกติ นายกฯ ก็ยังสั่งงานปกติ ท่านก็เรียกมาประชุมให้เร่งรัดเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ ให้เบิกเร็วกว่านี้ คุยเรื่องที่เป็นบวกกับประเทศ เรื่องที่ใครฟังแล้วเกิดความสบายใจดีกว่า

จากนั้นนายอนุทินได้สอบถามผู้สื่อข่าวว่า นายกฯ ได้แถลงหลังการประชุม ครม.ว่าอย่างไร ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่า ยังไม่มีการปรับ ครม. เพราะนายกฯ ระบุว่าในโลกล้วนอนิจจัง ทำให้นายอนุทินจึงเดินขึ้นไปที่ตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมหันมาร่ายกลอนสดให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า “ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง คนบ่ดูหนังสือยังสอบได้ คนดูหัวแทบพังยังสอบตก เพราะฉะนั้นไซร้ อย่าได้ดูมัน”

ต่อมาภายหลังการประชุมเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2568 และเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี ประจำปีงบประมาณ 2567 ที่มี น.ส.แพทองธารเป็นประธาน นายภูมิธรรมได้เดินคล้องแขนนายอนุทินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและอารมณ์ดี

โดยเมื่อถามว่า นายกฯ ให้ทุกพรรคที่คุมแต่ละกระทรวงไปทำงานปกติ แปลว่าสัญญาณการทำงานร่วมกันยืดยาวใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมหัวเราะก่อนตอบว่า มันไม่มีประเด็นที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะทำงานด้วยกันดีมาตลอด

ถามต่อว่า นอกจากเรื่องงบประมาณแล้ว มีการคุยกันเรื่องความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า “เนี่ยผมเดินจูงแขนกันลงมาเลย นี่ไงก็ยังรักกันดีอยู่” จากนั้นนายภูมิธรรมหันไปหานายอนุทิน แล้วบอกให้พูดบ้าง นายอนุทินจึงกระเซ้ากลับมาว่าเดี๋ยวหอมแก้ม นายภูมิธรรมจึงกล่าวกับสื่อว่า ต้องให้หอมแก้มเหรอ ก่อนหัวเราะพร้อมระบุว่า “ไม่มีอะไรครับ รัฐบาลยังร่วมมือและดำเนินการทำงานได้อย่างเต็มที่ทุกฝ่าย และตอนนี้ก็เร่งรัดให้บริหารการเงินในระบบให้มันดี เอางบเหลื่อมปีมาจัดการให้เต็มที่”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างประชุม นายกฯ ได้พูดถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า มีแต่การคุยกันเรื่องตลก อันนี้ตนเองพูด ไม่ใช่นายกฯ พูด ยืนยันเรื่องความขัดแย้งไม่มี ถูกสื่อถามจนสงสัยแล้วว่ามันมีหรือเปล่า

จากนั้นนายภูมิธรรมได้เดินควงแขนก่อนจะคลายมาจับมือนายอนุทินขึ้นตึกบัญชาการ 1 ผู้สื่อข่าวจึงแซวว่าจะจับกันจนถึงปี 2570 เลยหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า “จับมือกันชั่วนิรันดร”

พรรคร่วมแห่ปัดปรับ ครม.

 ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงกระแสปรับ ครม.ว่า นายกฯ ยังไม่ส่งสัญญาณการปรับ กระแสส่วนใหญ่มาจากการวิจารณ์ของสื่อมวลชน ซึ่งหากปรับจริงก็ต้องคุยกันในพรรคทั้งหมด เพราะต้องเป็นมติของพรรคอยู่ดี อย่างไรก็ตาม กธ.ยังคงยืนยันในสัดส่วนเดิม ส่วนกระแสว่าพรรคอยากได้ มท.นั้น ไม่มี พรรคไม่เคยมีแนวคิดเอาสัดส่วนของพรรคอื่น ยืนยันว่าเรายังคงดูแลกระทรวงเกษตรฯ ยังพอใจในตำแหน่งและสัดส่วนเดิมอยู่ ไม่ได้มีความคิดที่จะขยับไปตรงไหน

 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรื่องนี้ว่า ไม่ทราบเลย และเมื่อถามย้ำว่า หากมีการปรับ ครม.จริง พร้อมเปลี่ยนกระทรวงใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ไม่ๆ โนคอมเมนต์ เป็นอำนาจของนายกฯ

ส่วน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ยังไม่ได้รับสัญญาณจาก น.ส.แพทองธาร และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน เพราะหากปรับ ครม.ต้องแจ้งหัวหน้าพรรค

“พูดตรงๆ ตอนนี้ทั้งสมอง สติ คิดแค่ว่าวันนี้อยู่ตรงนี้ทำงานให้ดีที่สุด การเมืองไม่มีอะไรแน่นอนหรอก พูดไปเดี๋ยวก็ผิด เดี๋ยวก็ถูก คาดการณ์ไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร สำคัญวันที่เราอยู่เป็นรัฐมนตรี เราทำอะไรบ้าง คิดแบบนี้จริงๆ ทั้งวัน ไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลย” นายเอกนัฏกล่าว

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวว่า การปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ 100% ซึ่งการอยู่ร่วมกันในพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายกฯ ให้เกียรติทุกพรรค เมื่อมีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการปรับ ครม. จะพบปะหัวหน้าพรรคและเลขาฯ พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน

 “เรื่องของโพลนั้น ปกติรัฐบาลเราจะยึดตามสำนักงานสถิติ แต่ถึงตัวอย่างในโพลจะน้อย จะกี่คนเราก็ต้องรับฟัง หากประชาชนมองว่ารัฐมนตรีท่านใดควรที่จะปรับปรุง เราก็ควรต้องปรับปรุง” พ.ต.อ.ทวีระบุ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ท้ายที่สุดนายกฯ เป็นผู้ตัดสินว่าจะปรับอย่างไร ปรับแค่ไหน และจะปรับเมื่อไหร่ ส่วนตนเองคงรอฟังข่าว ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณการปรับ ครม. ทั้งนี้ ชทพ.ไม่ใช่พรรคใหญ่ มีแค่ 10 คน คงไม่ได้ไปต่อรองอะไร ดังนั้นการไปต่อรองหรือสลับกระทรวง ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแน่นอน

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค พปชร.ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการดึงพรรคร่วมรัฐบาล และถอดพรรค ภท.ออก โดย พล.อ.ประวิตรได้แต่เม้มปากแน่นและส่ายหน้า และแม้จะถามย้ำเรื่องดังกล่าว พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบเช่นกัน

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวว่า เป็นการปล่อยข่าวเฟกนิวส์เพื่อหวังผลประโยชน์ ยืนยันจะไม่มีการกลับไปร่วมรัฐบาลแน่นอน

 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้า พปชร. กล่าวว่า คงเป็นการคาดการณ์จากการนับจำนวน สส. ว่าถ้าไม่พอจะหา สส.มาเพิ่ม แต่คิดว่าเป็นไปไม่ได้

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้ สส.ของพรรคพลังประชารัฐ 20 คน ยังครบอยู่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า เดี๋ยวต้องไปเช็กชื่อก่อน แต่ถ้าคนอยากดูดก็ห้ามเขาไม่ได้ คนที่ชอบเล่นการเมืองแบบนอกกติกา ชกใต้เข็มขัด ก็ต้องปล่อยเขาไป เราไม่รู้จะทำยังไง แต่ก็ต้องทำให้ดีที่สุด

วันเดียวกัน นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ถึงการกำชับ สส.เพื่อไทยลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจประชาชนเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.....หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะหวั่นจะมีม็อบใช่หรือไม่ ว่าการลงพื้นที่ไม่ใช่ลงไปเนื่องจากกลัวจุดม็อบ แต่เป็นปกติช่วงปิดสมัยประชุมเราก็จะให้ สส.ลงพื้นที่พบประชาชนว่ามีกฎหมายอะไรที่ค้างในสภาหรือมีปัญหา ยังไม่มีความเข้าใจจะได้ชี้แจง

ยันพรรคร่วมหนุนกาสิโน

“เรื่องนี้พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ขัดแย้ง เนื่องจากเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา และยืนยันกาสิโนเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว แต่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นกฎหมายกาสิโน ซึ่งมันไม่ใช่” นายภูมิธรรมกล่าว

เมื่อถามว่า พรรค รทสช.และ ปช.เข้าใจเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า คิดว่าเข้าใจ แต่ก็มีเงื่อนไขหลายๆ อย่าง ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ทุกคนก็ยอมรับว่าเป็นนโยบายรัฐบาล แม้กระทั่งนายอนุทิน

พ.ต.อ.ทวีกล่าวถึงเพจพรรคโพสต์ แถลงจุดยืนไม่รับหลักการสถานบันเทิงครบวงจร ว่าอาจเป็นความเห็นของคนบางคนภายในพรรค แต่โดยหลักการเมื่อเป็นรัฐบาลร่วมกันมี พ.ร.บ.นี้ ก็รับหลักการ แต่ในส่วนของกาสิโนอาจคัดค้าน เนื่องจากขัดต่อหลักศาสนามุสลิม และฐานเสียงพรรคก็มาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า การโหวตเป็นสิทธิ์ของ สส. แต่พรรคก็ต้องมีทิศทางและต้องประชุมกัน และเมื่อถามย้ำว่า ทิศทางพรรคเป็นอย่างไร พ.ต.อ.ทวีกล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “อันนี้เป็นการถามคำถามสมมุติเพื่อให้ทะเลาะกัน”

ขณะที่ นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร กล่าวถึงการประชุม กมธ.นัดแรกในวันที่ 23 เม.ย.ว่า ยังไม่มีการกำหนดตัวบุคคลว่าใครจะได้รับเลือกให้เป็นประธาน กมธ. ซึ่งเชื่อว่าการทำงานของ กมธ.จะไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นการทำงานเชิงวิชาการ

 “ยืนยันว่าเป็นการศึกษาในประเด็นเศรษฐกิจ สังคม เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาล ทั้งนี้ การศึกษานั้นไม่ได้กำหนดว่ารัฐบาลต้องทำตาม แต่ผลศึกษาของ สว.นั้น เชื่อว่าจะได้รับความเชื่อถือ เพราะไม่ได้เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายของรัฐบาลหรือฝ่ายการเมือง” นายสรชาติกล่าว

นายแล ดิลกวิทยรัตน์ สว. ในฐานะ กมธ. กล่าวว่า การทำงานของ กมธ.ควรยึดหลักวิชาการ ที่ผ่านมามีงานวิจัยและนักวิชาการศึกษาเรื่องดังกล่าวไว้จำนวนมาก ดังนั้นการทำงานของ สว.ดังกล่าวควรรักษาความเป็นกลาง ไม่มีกลุ่มการเมืองหรือมีสี ต้องยึดการสร้างความน่าเชื่อถือด้วย ต้องทำงานด้วยความเป็นกลาง หากไม่มีความน่าเชื่อถือจะไม่มีใครฟัง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กลุ่ม 18' เผยธาตุแท้! ประกาศอุ้ม 'อิ๊งค์' ขวางมติ 'รทสช.' ดัน 'ชัยเกษม'

'กลุ่ม 18' ไม่ยอมรับมติ 'กก.บห.รทสช.' ขอเปลี่ยนม้ากลางศึก ยันหนุน 'แพทองธาร' ตามเดิม ชี้ 'ชัยเกษม' ติดข้อจำกัดสุขภาพ เชื่อ 'พีระพันธุ์' หวังส้มหล่น

'อิ๊งค์' สั่ง 'มท.-7ผวจ.' ยึดปลอดภัยสันติเลี่ยงปะทะ ดูแลคนพื้นที่ชายแดน

นายกฯ หัวโต๊ะถกดูแลปชช.พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำ 'มท.-ผู้ว่าฯ' ยึดความปลอดภัย-สันติ-เลี่ยงปะทะ ชี้หากเกิดเหตุสุดวิสัย พร้อมรักษาชีวิตทหาร

'บิ๊กเล็ก' โต้ส่งสัญญาณอำลา รมต. แค่ให้ข้อคิดทีมไทยแลนด์

'บิ๊กเล็ก' ปัดโพสต์ส่งสัญญาณอำลาเก้าอี้รัฐมนตรี แจงให้แนวคิดทีมไทยแลนด์ ยันยังทำหน้าที่เต็มร้อย ชิ่งตอบปมปรับ ครม. ชี้เป็นเรื่องการเมือง

สวนคำชี้แจง 'อิ๊งค์' 4 เรื่อง ยังไม่สำนึกภัยมั่นคงชาติตัวจริง

'ชาญชัย' ตั้ง 4 ข้อสังเกต สวนคำชี้แจง 'นายกฯ' ชี้ทำตัวเป็นภัยความมั่นคงชาติเสียเอง ยกเหตุต่อรองผลประโยชน์ชาติเป็นเรื่องลับส่วนตัว เย้ยโดนหัวหน้าแก็งคอลเซ็นเตอร์อัดคลิปแฉ

เปิดเบื้องลึก! 'รทสช.-ปชป.-ชทพ.' หาม 'อิ๊งค์' ไปตายดาบหน้า

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา หลายคนคงจะจดจ่อต่อผลการการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรค