แก๊งป่วยทิพย์หนาว! ไต่สวนแม้วสะเทือนอิ๊งค์ ปชน.โรยเกลือบี้ ‘ตั๋วPN’

"ทนายทักษิณ" ลั่นทำตามหมายจำคุกศาล มีหลักฐานชัดถูกส่งตัวไปที่เรือนจำจริง ก่อนป่วยเข้า รพ.ตามความเห็นแพทย์ มั่นใจแจงได้หมด เผย "พ่อนายกฯ" ไม่กังวล ระบุ 13 มิ.ย.ส่งคำชี้แจงไปก่อน ยังไม่เดินทางไปศาล  "อนุทิน" ยึดคำ "อิ๊งค์" ไต่สวนทักษิณไร้แรงกระเพื่อมรัฐบาล "รังสิมันต์" เชื่อศาลฎีกามีอำนาจในมือทำความจริงป่วยทิพย์ปรากฏได้  "จตุพร-หมอวรงค์" บอกสะเทือนเก้าอี้นายกฯ  อิ๊งค์แน่ "เทพไท" ฟันธงก๊วนช่วยเหลือหนาวสะท้านด้วย “วิโรจน์” ตามโรยเกลือบี้ตั๋ว  PN แพทองธาร

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาไต่สวนเอง กรณีนายทักษิณพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ อาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุกว่า หลังจากนี้เราจะรอรับหมายจากศาลว่าจะสั่งให้เราทำอะไรบ้าง ซึ่งน่าจะมีสำเนาคำร้องของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ส่งมาพร้อมกันด้วย

"เราจะต้องทำคำชี้แจงภายใน 30 วัน และเมื่อชี้แจงไปแล้วศาลก็จะดูคำชี้แจงจากหน่วยงานหรือบุคคลต่างๆ และต้องดูว่าในวันนัดพร้อม ศาลจะมีคำสั่งให้ไต่สวนต่อไปหรือไม่" นายวิญญัติกล่าว

ถามว่า ทางทีมทนายได้เตรียมคำชี้แจงประเด็นไหนไว้บ้าง นายวิญญัติกล่าวว่า ยังบอกประเด็นไม่ได้ เพราะเรายังไม่เห็นคำร้องที่ศาลส่งมา ซึ่งเราเตรียมหลักฐานและเหตุผลในการเข้าไปในเรือนจํารวมถึงข้อมูลว่าที่ผ่านมานายทักษิณมีอาการอย่างไร รักษาตัวอย่างไร และถูกปฏิบัติอย่างไร โดยเราไม่ทราบว่าศาลจะให้แก้ข้อกล่าวหาในจุดไหน จึงต้องรอดูคำร้องก่อน

ซักว่า ในวันนัดพร้อมหากมีหลักฐานครบศาลสามารถมีคําสั่งนัดวันที่จะตัดสินได้เลยหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า ต้องรอดูว่าศาลจะสั่งอย่างไร เป็นดุลยพินิจของศาล แต่แนวทางคือหากศาลเห็นว่าหลักฐานเพียงพอแล้วก็อาจจะมีคำสั่งออกมา หรือมีเนื้อหาข้อเท็จจริงจากการไต่สวน แต่หากศาลมองว่าไม่เพียงพอ ก็อาจจะมีการนัดไต่สวนโดยเรียกบุคคลอื่นเพิ่มเติม

ทนายความส่วนตัวนายทักษิณยืนยันว่า มั่นใจในการชี้แจงครั้งนี้ เนื่องจากมีความเป็นจริงในเรื่องการถูกจำคุก ได้รับหมายจำคุก และถูกส่งตัวไปที่เรือนจำจริง

"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นถือว่าเป็นเหตุแทรกซ้อนเข้ามา เพราะนายทักษิณเคยมีการรักษาโรคปอดและความดันมาก่อนอยู่แล้ว อาการจึงเกิดขึ้นจริง จนมีความเห็นจากแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และมีการส่งตัวตามปกติ เพราะฉะนั้นมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง" ทนายความส่วนตัวนายทักษิณระบุ 

เมื่อถามว่า นายทักษิณมีความกังวลเรื่องที่ศาลตั้งคณะไต่สวนหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า  ไม่กังวล เราอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง และสิทธิของผู้ต้องขังตามกฎหมาย รวมถึงกฎระเบียบของราชทัณฑ์ คิดว่าทำถูกทุกอย่าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทำตามหลักเกณฑ์

พอถามว่า ในวันที่ 13 มิ.ย. นายทักษิณจะเดินทางไปศาลด้วยตัวเองหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า ยังไม่ไป จะเป็นการส่งคำชี้แจงไปก่อน

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณว่า รัฐบาลนำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดนแรงกระเพื่อมอะไรต่างๆ เราต้องยึดที่หัวหน้ารัฐบาลเป็นหลัก

ถามว่า นายทักษิณเป็นผู้ที่มีบทบาททางการเมือง กำหนดทิศทางทางการเมือง นายอนุทินกล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกฯ และปัจจุบันนายกฯ ก็เป็นหัวหน้าพรรคแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อท่านให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีอะไร เราก็ต้องเชื่อท่าน

ซักว่าได้ให้กำลังใจนายทักษิณหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็ให้กำลังใจกันมาตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะอยากให้ทุกคนไม่มีเรื่องอะไรที่กลุ้มใจหรือปวดหัว ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ก็อยากให้ทุกคนมีความสุข มีกำลังใจที่จะทำงานให้กับชาติบ้านเมือง

โรมหนุนพิสูจน์ป่วยทิพย์

ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า กรณีนายทักษิณเป็นกรณีที่มีปัญหาจริงๆ มีพยานหลักฐานแวดล้อมและการพูดของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เราสามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็นคนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุด เมื่อองค์ประกอบจิกซอว์ต่างๆ ที่ต่อออกมาชัดเจน ตนก็สามารถพูดได้เลยว่ากรณีชั้น 14 เป็นกรณีแกล้งป่วย เป็นกรณีที่การเจ็บป่วยของนายทักษิณไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะที่เป็นนั่งร้าน และนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลตำรวจ รวมถึงดูการทำงานภาพใหญ่ทั้งหมด ดังนั้นกรณีชั้น 14 เป็นการทำให้การติดคุกของนายทักษิณที่สมควรจะต้องติดอยู่ในเรือนจำไม่สามารถติดจริงได้

"การไปอยู่ รพ.ชั้น 14 เป็นการไปอยู่แบบทิพย์ ทิพย์เป็นการไปอยู่เท็จ โดยไม่ได้มีสภาพหรือจะถือได้ว่าเป็นการติดคุกจริงๆ ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้น เราพบหลักฐานการใช้โทรศัพท์มือถือต่างๆ ด้วย นั่นหมายความว่าคุณทักษิณอาจจะบัญชาการสั่งการต่างๆ ยังรวมไปถึงการปล่อยให้บุคคลภายนอกไปเจอกับคุณทักษิณได้เช่นเดียวกัน ทั้งหมดนี้ชัดเจนว่าการติดคุกของคุณทักษิณไม่ได้มีอยู่จริง ผมคิดว่ามีความจำเป็นที่หน่วยงานบางหน่วยงาน องค์กรบางองค์กร รวมไปถึงศาล จะต้องใช้กลไกทางกฎหมายในการตรวจสอบนายทักษิณอย่างจริงจัง และน่าจะต้องมีการไต่สวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง" นายรังสิมันต์กล่าว

สส.พรรค ปชน.รายนี้ระบุว่า วันนี้องค์กรต่างๆ เราแทบจะไม่สามารถเชื่อมั่นได้เลย ในการที่จะทลายหรือจัดการชั้น 14 ป.ป.ช.เราก็ไม่สามารถเชื่อมั่นได้ ดังนั้นเวลาที่เราเห็นศาลตั้งคณะกรรมการในการไต่สวนกรณีชั้น 14 ตนคิดว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะตอนนี้แทบจะไม่เหลือองค์กรไหนในการจัดการชั้น 14 อีกแล้ว

ถามว่า ที่ผ่านมาองค์กรที่ตรวจสอบไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง นายรังสิมันต์กล่าวว่า ศาลมีดาบอยู่ในมือที่เข้มแข็งมากที่สุดกว่าทุกองค์กร ดังนั้นถ้าใครไม่ปฏิบัติตามศาลมีโทษจำคุกค้ำอยู่ ดังนั้น ตนค่อนข้างมั่นใจว่าหน่วยงานต่างๆ ต้องให้ความร่วมมือมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องกลับไปถามนายกฯ และถามองค์กรที่เกี่ยวข้องว่า ถ้ามั่นใจว่ากรณีชั้น 14 เป็นกรณีที่ไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างทำถูกต้อง โปร่งใส ชัดเจน ทำไมถึงต้องไม่ให้ความร่วมมือ

ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอนหนึ่งระบุว่า ถ้าบ้านเมืองนี้ต้องการปราบคอร์รัปชัน คนคิดทุจริตจะเกิดความเกรงกลัว ต้องทำให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์และไม่ต้องละเว้นใครเสียก่อน ถ้ามาตรฐานนี้บังคับใช้ไม่ได้ เราจะปราบการทุจริตที่เป็นภัยใหญ่ของประเทศได้ยากลำบากขึ้น สิ่งสำคัญบ้านเมืองนี้กระบวนการยุติธรรมต้องถูกทำลายเพื่อใครคนใดคนหนึ่งหรือไม่ แต่ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ สภาพของบ้านเมืองจะเดินไปได้ยากมาก

"ศาลใช้อำนาจไต่สวนหาความจริงเองแล้ว  เหตุการณ์นี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เพราะรัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊งอยู่ได้เพราะทักษิณค้ำยันไว้ ถ้าทักษิณมีเหตุอันใดทำให้เป็นไปทางลบแล้ว นายกฯ ผู้เป็นลูกย่อมอยู่ยาก" นายจตุพรกล่าว

นอกจากนี้ นายจตุพรยังกล่าวถึงเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่นายกฯ อธิบายประเทศไทยไม่ได้เสียอะไรเพราะต่างชาติเข้ามาลงทุนว่า ในข้อเท็จจริงแล้วประเทศไทยมีแต่เสียกับเสีย ส่วนต่างชาติและคนไทยบางคนมีแต่ได้กับได้ สิ่งที่ไทยต้องเสียอย่างชัดเจนคือ เสียพื้นที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยที่สวยงามให้ต่างชาติมาลงทุนทำกาสิโนซุกซ่อนรูปในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

“นายกฯ พยายามอธิบายการใช้พื้นที่กาสิโนเพียง 10% แต่กาสิโนทำรายได้หลักมากถึง 65-90% ของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์  ขณะที่การท่าเรือฯ มีรายได้หลักต่อปีประมาณ 7 พันล้าน กลับต้องเสียพื้นที่ให้ต่างชาติทำบ่อนกาสิโน รวมทั้งกาสิโนจะเกิดความเสียหายและทำให้คนติดการพนัน และรัฐต้องเสียค่าบำบัดผู้ติดการพนันมากขึ้น" นายจตุพรกล่าว

นายกฯ อิ๊งค์สะเทือนแน่

เช่นเดียวกับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม   ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ชั้น 14 อาจโยงถึงอุ๊งอิ๊ง" ตอนหนึ่งระบุว่า อย่างน้อยเมื่อระดับศาลฎีกาขยับลงมาดูแลเอง ปัญหานี้น่าจะสยบความเคลื่อนไหวทุกอย่างได้ เพราะข้อสงสัยของประชาชนว่า มีการเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณไม่ต้องติดคุกนั้นคาใจประชาชนมาตลอด ประชาชนก็ต้องการความจริง ต้องการการบังคับใช้กฎหมายที่เท่าเทียม ไม่ต้องการให้ใครใช้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่น กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยไปยื่นทั้ง ป.ป.ช.และแพทยสภาต่อปัญหาของคดีนี้

"สิ่งที่หลายคนตั้งคำถามการไต่สวนของศาลฎีกาจะจบที่ใครบ้างนั้นน่าสนใจ ถ้าสมมติว่าผลออกมาว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤตจนต้องส่งตัว หรือถือว่าไม่ได้ติดคุกจริง หรือไม่มีการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษา เรื่องนี้น่าจะขยายไปสู่ผู้ให้ความร่วมมือทั้งแพทย์ที่เกี่ยวข้องของ รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ อาจจะโยงไปถึง รมว.ยุติธรรม ที่สำคัญผมเคยทำเรื่องนี้ร้องไปที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งด้วย ซึ่งนายกฯ ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ให้คาดเดาละกันว่านายกฯ อุ๊งอิ๊งสมควรโดนมาตรา 157 หรือไม่" นพ.วรงค์ระบุ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ฟันธง! คดีชั้น 14 มีคนผิด ทักษิณยังหนาวต่อ" ตอนหนึ่งระบุว่า ไม่ว่าผลการพิจารณาของศาลฎีกาจะออกมาในแนวทางใด ไม่มีใครสามารถก้าวล่วงได้ แต่สำหรับพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหมด ที่อำนวยความสะดวกให้กับนายทักษิณโดยไม่ต้องติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว มาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 จนถึงวันพักโทษ จะหนีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ไปไม่ได้ เพราะอาการป่วยของนายทักษิณ เป็นที่รับรู้กันทั้งประเทศว่า ไม่ได้ป่วยจริง

"ในคดีนี้ไม่ว่านายทักษิณจะผิดหรือไม่ผิด จะต้องกลับไปติดคุกในเรือนจำอีกครั้งหนึ่งหรือไม่  แต่เชื่อว่ามีบุคคลที่กระทำความผิดตามมาตรา 157 แน่นอนเชื่อว่าคดีชั้น 14 ยังมีหนาวกันอีกหลายคน" นายเทพไทระบุ

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร มีนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธาน กมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยเชิญนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. มาให้ข้อมูลในฐานะเป็นผู้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการร้องเรียนการซื้อขายหุ้นโดยใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋ว PN มูลค่า 4,434 ล้านบาท ของ น.ส.แพทองธาร ที่ถูกมองมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี

ภายหลังการประชุม กมธ. นายวิโรจน์ให้สัมภาษณ์ว่า ในการตรวจสอบกรณีการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋วพีเอ็น หลังจากที่ซื้อหุ้นของคนในครอบครัวและเครือญาติของ น.ส.แพทองธาร ผอ.กองตรวจสอบภาษีกลางระบุว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริง แต่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด เพราะมีประเด็นของปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ คือการไม่มาชี้แจงของบุคคลที่เกี่ยวข้อง

นายวิโรจน์กล่าวว่า กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจเตรียมทำหนังสือไปยังหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องคือ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ให้ดำเนินการตรวจสอบในกรณีดังกล่าว โดยเฉพาะกรณีของอธิบดีกรมสรรพากร ที่ต้องตรวจสอบกรณีของนายกฯ ให้เร็วที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ไม่ใช่เตะถ่วงการตรวจสอบ ทั้งนี้ หากนายพิชัย นายปิ่นสาย และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ไม่ดำเนินการเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว อาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้

“กมธ.มีข้อเตือนใจไปยังข้าราชการที่ต้องทำหน้าที่ด้วยว่า มีประเด็นที่เคยเกิดขึ้นกับนางเบญจา หลุยเจริญ เมื่อครั้งทำหน้าที่ในกรมสรรพากร ถูกพิพากษาจำคุกในคดีวินิจฉัยภาษีซื้อหุ้น และถูกลงโทษทั้งคดีอาญาและจำคุก หากทำหน้าที่ปกป้องสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งกรณีที่ตรวจสอบ น.ส.แพทองธารนั้น หากฝ่ายที่เกี่ยวข้องประวิงเวลา อาจเท่ากับส่งสัญญาณปกป้อง หรือดึงเรื่องตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ซึ่งอาจถูกร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ต่อไป” นายวิโรจน์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แบ่งเค้กสมใจอยาก

นายกฯ เซ็นคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯ-รมต.ประจำสำนักนายกฯ ใหม่ กำกับดูแลแทนนายกฯ หลัง "อนุทิน" ลาออก เพื่อไทยกำกับดูแลมหาดไทยสมใจอยาก ส่ง "ภูมิธรรม" คุม ส่วน "พีระพันธุ์" ไม่ขยับ อยู่ที่เดิม

ยังกอดศพกันแน่น พท.ลั่นทำเพื่อชาติอยู่ครบเทอม/พรรคร่วมผีดิบแย่งชามข้าวฝุ่นตลบ

เช็กโผ ครม. "แพทองธาร 2" เปิด 2 ตัวเต็งนั่ง รมว.กลาโหม "บิ๊กเล็ก-พล.อ.สุนัย" อดีตนายทหารรบพิเศษ ด้าน ปชป. "เฉลิมชัย" รมว.ทส.เหมือนเดิม "เดชอิศม์" นั่ง มท.3 "ชัยชนะ" นั่ง รมช.สธ. ขณะที่ "รทสช." ยังอยู่ โควตาเท่าเดิม แต่แย่งชามข้าวกันฝุ่นตลบ เพื่อไทยโวมีในมือ 280 เสียง

ม็อบพรึ่บโคราช ตะเพิด‘นายกฯ’

ม็อบทุกสีไล่รัฐบาลพรึ่บ! โคราชเรียกร้อง "อุ๊งอิ๊ง" ลาออก เลือกนายกฯ ใหม่ เพราะไร้วุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถในการเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ สมคบคิด ตอบสนองอริราชศัตรู

ชง‘รองนายกฯ-กห.’ดึง‘พปชร.’

“อนุทิน” เปิดใจเป็นฝ่ายค้านแล้ว   ไม่จัดตั้งรัฐบาลสู้ “ภูมิธรรม” ตีปี๊บพรรคร่วมที่เหลือเสียงปึ้ก “ไผ่” โวมีเสียง 263 บวกๆ