
"เพื่อไทย" พาเหรดสยบข่าว ภท.สละเรือคว่ำพ.ร.บ.งบปี 69 ลั่นไม่มียุบสภา "ประเสริฐ" ทิ่มพวกปล่อยข่าวหวังให้ระแวงกันเอง บอก “นายกฯ อิ๊งค์” มั่นใจฝ่าวิกฤตจนอยู่ครบวาระ ด้าน ปธ.ญาติวีรชนพฤษภา 35 กระตุกสำนึกสงครามห้ำหั่น 2 ขั้ว “น้ำเงิน-แดง” มัวแต่แย่งชิงอำนาจต่อรองจนไม่เห็น ปชช. พาชาติยืนขอบเหว รัฐล้มเหลว ไม่คิดปฏิรูปโครงสร้าง ขณะที่ "เรืองไกร" ร้อง ป.ป.ช.สอบ "ทวี" ฝ่าฝืน รธน. ม.234 มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ ด้าน "วิรังรอง" ยกมติแพทยสภาตีแสกหน้าผู้ตรวจการฯ กลับคำวินิจฉัยเลิกอุ้ม "กรมคุก-รพ.ตร."
เมื่อวันจันทร์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะไม่โหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 ว่า พรรคภูมิใจไทยออกมาชี้แจงแล้วว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็บอกมาตลอดว่าพร้อมผลักดันนโยบายของรัฐบาล จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาขวางร่างพ.ร.บ.งบฯ ที่เป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล
"ผมมองว่าคนที่ปล่อยข่าวนี้ออกมา มีเจตนาทำให้คนในรัฐบาลระแวงกันเอง แต่ส่วนตัวที่ได้ประชุม ครม.ได้ทำงานร่วมกับรัฐมนตรีแต่ละพรรค ยังไม่เห็นประเด็นขัดแย้งในการทำงาน ทุกคนยังพร้อมให้ความร่วมมือการเดินหน้าภารกิจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จึงมั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลว่าจะสามารถทำงานแก้วิกฤตต่างๆที่เจอในขณะนี้ได้จนอยู่ครบวาระ" นายประเสริฐระบุ
นายประเสริฐระบุด้วยว่า ตนเชื่อว่าด้วยความเป็นผู้นำของ น.ส.แพทองธาร ที่ให้เกียรติผู้ร่วมงานทุกระดับอย่างดี ทำให้การทำงานราบรื่น แม้จะมีคนพยายามปล่อยข่าวทำนองนี้มาหลายครั้ง แต่เวลาที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่ามันไม่เป็นความจริง ครั้งนี้ก็เช่นกัน ขอให้ความมั่นใจประชาชนได้เลยว่ารัฐบาลจะเดินหน้าทำงาน แก้วิกฤตและพัฒนาประเทศได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ยุบสภาแน่นอน แม้การทำงานในพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะมีความเห็นต่างบ้างในบางประเด็น แต่ก็ไม่หนักหนาถึงขั้นที่จะพูดคุยกันไม่ได้ และเมื่อมีความเห็นต่าง ตนก็เชื่อว่าหัวหน้าพรรคจะสามารถพูดคุยกันได้
ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คิดเรื่องการเมืองให้น้อยคิดเรื่องบ้านเมืองให้มาก ร่างงบฯ ปี 69 ไม่ใช่เครื่องต่อรองทางอำนาจ แต่เป็นกุญแจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส สร้างรายได้ให้ชุมชน และฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤต งบประมาณฉบับนี้พิจารณาจัดทำด้วยระบบวิธีงบประมาณ เป็นผลจากกระบวนการที่เปิดกว้าง รอบคอบ มีการพิจารณาอย่างเป็นระบบจากทุกฝ่าย ไม่ใช่งบของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นงบในการพัฒนาประเทศในทุกมิติของประชาชนทุกคน
"หากจะมีการคว่ำงบประมาณต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโครงการสำคัญ และคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น การสาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา การสร้างงาน และการพัฒนาเชิงโครงสร้างในสถานการณ์ที่ประเทศกำลังฟื้นตัวจากวิกฤตหลายด้าน ร่างงบฯ ปี 69 คือโอกาสวางรากฐานอนาคตประเทศ หากการเมืองยังเป็นอุปสรรคก็เท่ากับปิดโอกาสของประเทศชาติและประชาชน” นายอนุสรณ์กล่าว
ฟาดแดง-น้ำเงินแย่งอำนาจ
วันเดียวกัน นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา ๓๕ และอดีตคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดรัฐล้มเหลว (Failed State) ไม่สามารถพัฒนาประเทศให้ก้าวทันโลกได้ ในภาวะที่โลกกำลังสู้กับสงครามการค้าและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ประเทศไทยไม่มีความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง ภาคส่วนต่างๆ ยังแตกแยกห้ำหั่นกันเอง
นายอดุลย์ระบุว่า ภายหลังการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 จะครบ 11 ปีแล้ว ประเทศชาติเสื่อมถอยแทบทุกด้าน เนื่องจากยังไม่มีการปฏิรูปโครงสร้างบ้านเมือง รัฐราชการสมคบคิดกับกลุ่มทุนใหญ่สร้างระบบอุปถัมภ์เข้มแข็งขึ้น ยิ่งทำให้กลุ่มทุนผูกขาดมั่งคั่ง การคอร์รัปชันกัดกินทุกวงการ กฎหมายไม่เข้มแข็ง คนมีเส้นสายอยู่เหนือกฎหมาย ธุรกิจสีเทาขยายตัว ขณะที่ภาคประชาชนอ่อนแอและยังถูกเอาเปรียบ นักการเมืองก็แย่งชิงอำนาจกันเหมือนเดิม และยังใช้กลไกรัฐองค์กรอิสระที่ตนเองควบคุมได้เป็นเครื่องมือ ในการต่อรองทางอำนาจและผลประโยชน์ของตัวเอง
"ความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่คลี่คลาย แต่เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง ที่ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมืองทั้ง 4 ฉบับค้างการพิจารณาอยู่ในสภา เนื่องจากรัฐบาลเห็นความสำคัญเรื่องอื่นมากกว่า ทั้งที่ความจริงแล้วหากความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่ยุติ การขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญก็เดินหน้าไปได้ยาก เป็นการจัดลำดับความสำคัญของภารกิจที่ไม่ถูกต้อง ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์"
นายอดุลย์ระบุว่า ดังนั้นในวาระ 33 ปีเหตุการณ์พฤษภา 35 มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม และญาติวีรชนพฤษภา 35 จะร่วมผลักดันการนิรโทษกรรมอีกครั้ง เพื่อให้รัฐบาลเร่งพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทั้ง 4 ฉบับ ในการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญวันที่ 3 ก.ค. 68 เพราะช่วง 20 ปีที่เกิดสงครามเสื้อสี มีประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ประชาชนเสียสละมามากแล้ว แต่ประเทศชาติก็ยังไม่มีการปฏิรูปให้บ้านเมืองดีขึ้น ยังไม่เกิดความปรองดองสมานฉันท์ ทำให้เสียเวลาเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศมาอย่างยาวนาน
"และปัจจุบันกลับเกิดสงคราม 2 ขั้วระหว่างสีน้ำเงิน กับสีแดง พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยแย่งชิงอำนาจต่อรองกัน โดยไม่เห็นหัวประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ ถ้าบ้านเมืองยังมีความขัดแย้งเช่นนี้ ขณะที่โลกกำลังแข่งกันอย่างรุนแรง เศรษฐกิจจะพังพินาศ ประเทศชาติจะเกิดความระส่ำระสาย และเกิดรัฐล้มเหลว (Failed State) เปิดทางอำนาจนอกระบบเข้ามาอีก แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าการเปลี่ยนต้องเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยเท่านั้น จึงขอวิงวอนฝ่ายการเมืองหยุดแย่งชิงอำนาจโดยด่วน แล้วร่วมกันหาทางออกให้ประเทศชาติ และขอเชิญทุกฝ่ายมาร่วมเสวนาหาทางออกให้บ้านเมืองกัน” นายอดุลย์กล่าว
'เรืองไกร' ไล่บี้ 'ทวี'
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า กรณีหมายเรียก 60 สว. ตนแนะนำว่าควรไป อย่างน้อยที่สุดได้รับทราบข้อกล่าวหา และได้โอกาสในการชี้แจงข้อเท็จจริงที่จะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีฝ่ายตน
"อย่ามัวคิดเรื่องศักดิ์ที่สูงกว่าเลย ศักดิ์กินไม่ได้ แต่ถูกใบแดง คืนเงินเดือน ต้องโทษอาญา และถูกตัดสิทธิทางการเมือง นั่นของจริง" นายสมชัยระบุ
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง) ว่าเข้าข่ายมีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามความในมาตรา 234 (1) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 หรือไม่
อีกทั้งยังน่าเชื่อว่า การนำตัวผู้ต้องขังรายนี้ออกไปจากสถานที่คุมขัง โดยมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 246 ดังกล่าว คือไม่ได้มีการร้องขอให้ศาลซึ่งมีอำนาจสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อนจนกว่าเหตุอันควรทุเลาจะหมดไป ตามความในมาตรา 246 วรรคหนึ่ง ทั้งนี้ เนื่องจากไม่พบข้อเท็จจริงที่แสดงให้เห็นว่าศาลมีคำสั่งตามวรรคหนึ่งแล้วหรือไม่
นายเรืองไกรระบุว่า ดังนั้น หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมซึ่งมีหน้าที่และอำนาจกำกับดูแลและติดตามข้อเท็จจริงของผู้ต้องขังรายนี้ ซึ่งเคยเป็นนายกรัฐมนตรีและยังคงเป็นบุคคลสำคัญทางการเมือง ที่สื่อมวลชนมีการติดตามและตั้งข้อสงสัยมาโดยตลอดว่าได้ถูกจำคุกโดยหมายของศาลจริงหรือไม่ ประกอบกับข้อเท็จจริงที่แพทยสภาได้มีมติออกมาลงโทษแพทย์ 3 ราย เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ก็ยังไม่พบว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ใช้หน้าที่และอำนาจเข้าไปติดตามตรวจสอบ ว่าจำเลยได้มีการปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องหรือไม่
"ดังนั้น กรณีที่เกิดขึ้นซึ่งอยู่ในหน้าที่และอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่จะต้องรู้หรือควรรู้ว่าผู้ต้องขังรายนี้ได้รับการบังคับให้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 246 และพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 6 ประกอบกฎกระทรวงกำหนดสถานที่อื่นที่ใช้ในการขัง จำคุก หรือควบคุมผู้ต้องหา จำเลยหรือผู้ซึ่งต้องจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด พ.ศ. 2552 หมวด 2 ส่วนที่ 1 ข้อ 22 และกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 หรือไม่" นายเรืองไกรระบุ
นายเรืองไกรระบุว่า แต่กลับไม่พบข้อเท็จจริงอันควรเชื่อได้ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ใช้หน้าที่และอำนาจให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายและกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง หรือไม่ อย่างไร กรณีจึงมีเหตุอันควรขอให้ ป.ป.ช.ทำการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) ต่อไปโดยเร็ว และขยายผลการตรวจสอบด้วยว่า มีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวทั้งในฐานะตัวการ ผู้ร่วม ผู้สนับสนุน หรือไม่ และบุคคลอื่นที่รู้เห็นหรือร่วมกระทำการจะต้องได้รับโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย หรือไม่
ขณะที่นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ดิฉันได้ส่งหนังสือร้องเรียนโต้แย้งคำวินิจฉัยที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเคยวินิจฉัยไว้ว่า กรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้ว โดยขอให้นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน นำมติของแพทยสภามาประกอบการพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้งว่า จะยังคงรับรองว่าแพทย์เจ้าหน้าที่รัฐทั้งสองหน่วยงานได้ปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ องค์กรอิสระ จะต้องไม่เอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง ไม่เอาใจใคร และควรทำให้รอบคอบ เลิกเอารายงานของหน่วยงานต่างๆ มาลอกพิมพ์ส่งให้ผู้ร้องเรียนเหมือนเป็นบุรุษไปรษณีย์"
"ดิฉันขอถามนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าจะแก้ไขกรณีดังกล่าวอย่างไร? เมื่อคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินขัดต่อมติของแพทยสภา ซึ่งเรื่องคำวินิจฉัยที่ขัดกันนี้ ดิฉันเคยเตือนไว้นานแล้ว" นางวิรังรอง ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' เข้าประชุมพรรค บอกพยายามเคลียร์เรื่องใหญ่ให้ได้
มีการประชุมสส.พรรคเพื่อไทยประจำสัปดาห์ โดยมี นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานสส.พรรคเพื่อไทย นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเป็นประธานการประชุม โดยมีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร
สส.อีสาน เสนอเพื่อไทยทวงคืนมหาดไทย อ้างต้องสางปัญหายาเสพติด
ประชุม สส.เพื่อไทยคึกคัก “แพทองธาร” เข้าร่วมครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ กลุ่มอีสานสะท้อนปัญหายาเสพติดระบาดหนัก เร่ง
'อิ๊งค์' ไม่เห็นด้วย สว. ยื่นซักฟอกรัฐบาลแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาล้มเหลว
บรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ช่วงหนึ่งนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำนักนายกรัฐมนตรี ได้ขอหารือกับนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงกรณีที่กลุ่ม สว.เตรียมขอเปิดอภิปรายทั่วไป
ไร้เงาเสี่ยหนูยืนประกบ! 'อิ๊งค์' บอกเงื่อนไขตั้งรัฐบาลคุยแค่ตำแหน่ง แต่ไม่การันตีอยู่ยาว
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้มีการพูดคุยเรื่องปรับ ครม.กันหรือไม่ว่า ไม่ได้คุย คุ
'อนุทิน' ลั่น มท.ของภูมิใจไทย ตามข้อตกลงตั้งรัฐบาล คนคุ้นเคยไม่ต้องทำเอ็มโอยู
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี โดยมีการเสนอสูตร 2 แลก 1 ได้มีการคุยกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ด้วยหรือไม่ว่า เมื่อกี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้สัมภาษณ์หรือ นายกรัฐมนตรีบอกไม่มีแล้วใครจะบอกว่ามี
นายกฯ ยังไม่เห็นหนังสือ ป.ป.ช. รับไต่สวน โยกงบ 68 มาแจกเงินหมื่น เสี่ยงผิดรธน.
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไต่สวนกรณีการโยกงบประมาณปี 2568 มาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อาจผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 นายกฯทราบเรื่องแล้วหรือยังว่า