คลังเตรียมแผนรับมือสงครามอิสราเอล-อิหร่าน พ่วงปัญหาการเมืองฉุดเศรษฐกิจไทยดิ่ง ลุยดันจ้างงาน 6-7 ล้านคน “จุลพันธ์” ไม่เห็นหัว ภท. วางใจเสียงข้างมากลากจบปิดจ๊อบพิจารณางบฯ 69
เมื่อวันศุกร์ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีปัจจัยเสี่ยงจากเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชนว่า สศค.ไม่ได้นิ่งนอนใจเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงทั้งหมด และได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เตรียมพิจารณาว่าจำเป็นจะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อออกมารองรับ
นายพรชัยระบุว่า ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้พิจารณาเห็นชอบการข้อเสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.15 แสนล้านบาท จากทั้งหมด 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งหลักๆ จะเป็นโครงการที่จะเข้าไปเสริมเรื่องการลงทุน และอีกส่วนคือเรื่องของการจ้างงาน ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 30% ของเม็ดเงินที่ได้รับการอนุมัติ โดยกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้ประเมินว่าจะช่วยให้มีการจ้างงานประมาณ 6-7 ล้านคน และส่วนที่เหลือจะเป็นเม็ดเงินที่ใช้ในการสนับสนุนการลงทุนด้านต่างๆ ซึ่งจะมีผลดีต่อภาคการผลิต
“ขณะเดียวกัน ประเมินว่าเม็ดเงิน 1.15 แสนล้านบาทที่จะเข้าไปสนับสนุนเรื่องแรงงาน การลงทุน และลงไปช่วยในภาคการผลิตนั้น จะมีส่วนในการช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ประมาณ 0.4-0.5% ซึ่งเชื่อว่าในส่วนนี้จะสามารถเพียงพอรองรับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในทุกๆ ด้านได้” นายพรชัยระบุ
ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะส่งผลต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2569 หลังจากนี้หรือไม่ว่า การลงมตินั้นตนยังไม่รู้แนวทางของพรรค ภท. ว่าเขาจะตัดสินใจสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ อยู่หรือไม่
“แต่หากจะมีมติอื่นใดที่ไม่ตรงกับรัฐบาลก็ไม่มีผลอยู่ดีในชั้นกรรมาธิการ เพราะในชั้นกรรมาธิการหากบวกลบเสียงแล้วนั้น ทางรัฐบาลก็ยังมีเสียงข้างมากอยู่ เราไม่ได้ห่วงอะไร เป็นไปตามขั้นตอน ส่วนในสภาใหญ่ หากเป็นรัฐบาลแล้วก็ต้องรวบรวมเสียงข้างมาก ถ้ามีเสียงข้างมากต้องไม่มีปัญหาอะไร” นายจุลพันธ์กล่าว
เมื่อถามว่า การพิจารณางบประมาณปี 2569 จะเป็นไปตามกรอบเวลาหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า โดยปกติแล้วตามกรอบคือ 105 วัน ซึ่งไม่เคยมีปัญหา มีบางปีที่ตึงๆ แน่นๆ หน่อย แต่ปีนี้เราเข้ามาค่อนข้างเร็ว จึงยังมีเวลาเหลือเพียงพอในการพิจารณา หลังจากนี้เมื่อมีความชัดเจนในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว เราก็จะเดินหน้าในการตั้งอนุ กมธ. ซึ่งเมื่อตั้งอนุ กมธ.เสร็จ งานก็จะเร็วขึ้น เชื่อว่าจะเสร็จตามกรอบ หากไม่ทันกฎหมายก็บอกว่าให้ใช้ร่างเดิม ก็กลับไปใช้ร่างเดิม แต่ทั้งนี้เราตั้งความหวังว่าทำเสร็จทันอยู่แล้ว โดยคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2-3 ช่วงวันที่ 13-15 ส.ค.นี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชวนซื้อOTOP ช่วยคนในชาติ ที่กำลังลำบาก
นายกฯ เปิดงาน OTOP CITY 2025 ปลื้มตียอดแตกรายได้มากกว่าทุกปี
‘ช่อ’แจ้งความปิดปาก! ปัดให้ทหารบอกแผนรบ
"ช่อ-พรรณิการ์" หิ้วหลักฐานแจ้งความ อ้าง "นักการเมือง-IO ทหาร"
สอบอดีตบิ๊กดีอีพันMOU ห่วงกระทบปชช.1.2ล้าน
"ไชยชนก" ชี้เป็นหน้าที่ “ดีเอสไอ” สอบสวน หลังพบข้อมูลนักการเมือง
หนูแบไต๋ร่วมได้ทุกพรรค
“อนุทิน” เปิดทางทุกพรรคที่สร้างประโยชน์ให้บ้านเมือง เหน็บ "เด็กพรรคส้ม"
อาเซียนเมินกัมพูชา ไม่หนุนข้อเสนอหยุดยิง-ถกจีบีซี24ธค./สมรภูมิสระแก้วยังเดือด
ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษเหลว ไร้ข้อสรุปเป็นรูปธรรม “กัมพูชา”
พสกนิกรซาบซึ้ง ‘พระพันปีหลวง’ ทรงให้ไร้ข้อแม้!
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

