ศาลอุทธรณ์แก้ คุก1ปีสนธิญาณ ขวางเลือกตั้ง57

ศาลอุทธรณ์พิพากษาเเก้จำคุก “สนธิญาณ” 1 ปี แต่ให้ลดโทษเหลือ 8 เดือน เหตุขวางเลือกตั้ง ส่วน “สกลธี-สมบัติ-เสรี” รอด “ต้อย” ไม่ต้องนอนคุก วางเงินสด 6 เเสนบาทขอประกันสู้คดีชั้นฎีกาศาลอนุมัติ

เมื่อวันพุธที่ 20 ต.ค. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีกบฏ กปปส.สำนวนแรก หมายเลขดำ อ.1191/2557, อ.1298/2557 และ อ.1328/2557 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม แกนนำ กปปส., นายสกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.กทม., นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และนายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด เป็นจำเลยที่ 1- 4 ในความผิดรวม 8 ข้อหา โดยเฉพาะข้อหากบฏและขัดขวางการเลือกตั้ง

คดีนี้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2562 พิพากษายกฟ้อง แต่โจทก์ได้อุทธรณ์ ขณะที่การอ่านพิพากษาวันนี้จำเลยทั้งสี่เดินทางมาศาลพร้อมด้วยเเกนนำ กปปส.หลายคน อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส., นายถาวร เสนเนียม และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่มาให้กำลังใจ

ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์ว่า ตามทางนำสืบฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 ได้เดินทางพร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมไปหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวจริง ซึ่งจำเลยที่ 1 ไม่ได้นำสืบปฏิเสธว่าไม่ใช่ผู้ร่วมกลุ่มตัวแทนเจรจา หากจำเลยไม่ได้เป็นผู้ร่วมชุมนุม ก็คงไม่ได้เข้าร่วมเป็นผู้เจรจาดังกล่าว ส่วนจำเลยที่ 2-4 โจทก์ไม่ได้นำสืบว่าร่วมเดินทางไปกับจำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดดังกล่าว

อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน จึงพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 มาตรา 76 และ 152 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 จำคุก 1 ปี แต่ทางนำสืบของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 8 เดือน และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยที่ 1 มีกำหนด 5 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ภายหลัง น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความ กปปส. ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวชั่วคราวนายสนธิญาณก่อนฎีกา โดยใช้เงินสด 600,000 บาท ซึ่งศาลได้พิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้วว่าอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยไม่กำหนดเงื่อนไขใดๆ เพิ่มเติม

นายสนธิญาณกล่าวหลังได้รับการปล่อยชั่วคราวว่า รู้สึกอะไรไม่ได้ เพราะศาลพิจารณาไปตามขั้นตอนพยานหลักฐาน และหลังจากนี้ก็ต้องต่อสู้คดีกันต่อไป เพราะว่าศาลชั้นต้นยกมา แต่ศาลอุทธรณ์ท่านมีหลักฐานที่จะพลิกแบบนี้ ซึ่งก็จะต้องมีอีกขั้นตอนที่จะต้องฎีกากันต่อไป ส่วนยังมีความหวังในการต่อสู้คดีหรือไม่นั้น เบื้องต้นได้ให้การปฏิเสธมาโดยตลอดอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นพยานหลักฐานที่จะต้องสู้กันต่อไป และหลังจากนี้ต้องเอาคำพิพากษาชั้นต้น และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาดูอีกครั้งเพื่อเปรียบเทียบ ซึ่งในส่วนนี้ก็เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายที่จะต้องมาดูว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป

ด้านนายสุเทพกล่าวว่า พวกเราในฐานะที่ร่วมอุดมการณ์กันมา ก็ขอขอบคุณศาลที่ได้พิจารณาคดีนี้ตามกระบวนการยุติธรรม แล้วมีคำพิพากษาที่พวกเราส่วนใหญ่ถือว่าหมดเคราะห์หมดโศก ทั้งนี้พวกเราต่อสู้คดีมายาวนานมาก แต่ก็น่าเสียดายที่นายสนธิญาณถูกจำคุก 8 เดือน แต่ก็เห็นว่าเรามีโอกาสที่จะต่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกาได้ เพราะว่าจากคำวินิจฉัยในข้อเท็จจริงของศาลอุทธรณ์เป็นประโยชน์ที่เราจะใช้เป็นข้อต่อสู้คดีในศาลฎีกาต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง