สภาฯ ถก 7 ญัตติด่วน ปมปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา "รังสิมันต์" โวย "ภูมิธรรม-แพทองธาร" ไม่ยอมแจง กมธ. แนะพาทูตลงพื้นที่ให้โลกรู้พฤติกรรมเขมร สภาสูงประณามกระทำไร้ยางอายเยี่ยงสุนัขลอบกัด "คณะรวมพลังแผ่นดิน" ปลุกชุมนุมใหญ่ปกป้องอธิปไตย 27 ก.ค. ให้กำลังใจทหาร พร้อมไล่รัฐบาลอิ๊งค์
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธาน สส.พรรครัฐบาลและฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา จำนวน 7 ญัตติ เพื่อให้สภาพิจารณาสถานการณ์ไทย-กัมพูชา
โดยนายธเนศ เครือรัตน์ สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ขอให้สภาผู้แทนราษฎรศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และแนวทางในการแก้ปัญหาต่อกรณีการปะทะกันระหว่างกองทัพไทยและกัมพูชา เพื่อเสนอต่อรัฐบาล, นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ขอให้สภาร่วมกันพิจารณาปัญหาพิพาทชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา จนการพิพาทลุกลามไปถึงขั้นมีแนวโน้มไปสู่สงคราม นำความเดือดร้อนมาสู่พี่น้องประชาชนและกระทบอธิปไตยของชาติ, นายวุฒิพงษ์ นามบุตร สส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้สภาพิจารณาศึกษามาตรการดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนเพื่อเสนอต่อรัฐบาล
น.ส.ปทิดา ตันติรัตนานนท์ สส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย ขอให้สภาพิจารณาศึกษาปัญหาเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดจนจนถึงแนวทางในการช่วยเหลือผู้อพยพทุกจังหวัดที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และกระบวนการที่จะดำเนินการลดความรุนแรงบริเวณชายแดนเพื่อเสนอต่อรัฐบาล, นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ขอให้สภาพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในมุมมองการต่างประเทศเพื่อเสนอต่อรัฐบาล, นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ขอให้สภาพิจารณาศึกษาแนวทางการรับมือความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ที่นำไปสู่ภาวะการรบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและประชาชนชาวไทย และนายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี พรรคกล้าธรรม เสนอเรื่องการป้องกันและหาทางออกเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านเศรษฐกิจ สังคม และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทยต่อปัญหาชายแดนกัมพูชา
จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ได้เปิดโอกาสให้ผู้เสนอญัตติอภิปรายเพิ่มเติมไม่เกินคนละ 10 นาที อย่างไรก็ตาม วิปสองฝ่ายได้พูดคุยกันว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องความมั่นคงและเรื่องระหว่างประเทศ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน หากมีผู้มาลงชื่อเพื่ออภิปรายจะมีการประชุมลับ จึงขอให้มีอภิปรายอย่างระมัดระวัง
พาทูตดูพฤติกรรมเขมร
วันเดียวกัน คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ. เป็นประธานการประชุม ได้ประชุมวาระกรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกลไกการพูดคุย JBC และวาระพิจารณากรณีคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
โดยสัปดาห์นี้ ที่ประชุมมีมติใช้อำนาจเรียกบุคคลให้มาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความเห็นต่อคณะกรรมาธิการฯ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของรัฐสภา อาทิ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม ไม่ได้มอบหมายให้ใครเข้าชี้แจงแทน, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ ซึ่งแจ้งว่าไม่มา แต่มอบหมายให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเข้าชี้แจงแทน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ซึ่งแจ้งว่าติดภารกิจเดินทางไปที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มอบหมายให้นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วย รมว.การต่างประเทศ ชี้แจงแทน และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในตอนแรกประสานมาว่าจะมาด้วยตนเอง แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ขณะนี้จึงไม่สามารถมาได้ และมอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกรมยุทธการทหารบกมาแทน
ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ได้ขอมติจากที่ประชุมว่า การที่บุคคลที่เชิญมาแล้วมีการมอบหมายนั้น จะอนุมัติของใครได้บ้าง โดยสรุปผลการลงมติว่า ให้ผู้ชี้แจงแทนในส่วนของ รมว.กลาโหม, เลขาธิการ สมช. และ รมว.การต่างประเทศ ส่วนที่เหลือจะมีการออกหนังสือเรียกให้มาชี้แจงที่ประชุมครั้งถัดไปวันที่ 31 ก.ค.
นายรังสิมันต์ให้สัมภาษณ์ว่า ขอประณามรัฐบาลกัมพูชา เพราะพฤติกรรมของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการยั่วยุ การใช้ความรุนแรง การละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโดยใช้ระเบิดที่เป็นกับดัก ซึ่งเป็นอาวุธที่ไม่ควรมีการใช้กันแล้ว เป็นพฤติกรรมที่เรายอมรับไม่ได้ เชื่อว่ารัฐบาลกัมพูชาต้องมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำนี้อย่างแน่นอน
"เบื้องต้นที่ฝ่ายไทยสามารถดำเนินการได้ในทันทีเพื่อให้โลกได้เห็นพฤติกรรมของกัมพูชา คืออาจจำเป็นต้องมีการเชิญทูตจากประเทศต่างๆ ไปสังเกตสถานการณ์ในที่เกิดเหตุ ผมคิดว่าโลกต้องเห็นอย่างเต็มที่ และมีข้อมูลที่เพียบพร้อมว่ากัมพูชามีความก้าวร้าว ยั่วยุเพื่อให้สถานการณ์บานปลาย และกระทรวงการต่างประเทศจะต้องทำงานเชิญรุกมากกว่านี้ รอเดือน ธ.ค.หารือตามแนวทางของอนุสัญญาออตตาวาเป็นสิ่งที่ช้าเกินไป และสิ่งที่เป็นรูปธรรมคือควรเอาเรื่องนี้เสนอต่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อให้ทั่วโลกได้เห็น" นายรังสิมันต์ระบุ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และอดีตผู้บัญชาการทหารบก ออกแถลงการณ์ตอนหนึ่งว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ มีความเชื่อมั่นในกองทัพไทยว่ามีความพร้อมสูงสุดในการปกป้องพี่น้องประชาชนและผืนแผ่นดินไทยจากอริราชศัตรู จากประสบการณ์ที่ผ่านมา มั่นใจในศักยภาพและความสามารถของกำลังพลทุกนายในการรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามีบุคลากรที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย และที่สำคัญที่สุด เรามีจิตใจที่หลอมรวมเป็นหนึ่งพร้อมเสียสละเพื่อชาติ เพื่อประชาชน และแผ่นดิน
พรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ ประณามการปฏิบัติการทางการทหารของกองทัพกัมพูชา ต่อกรณีที่มีการใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือน เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน บ้านเรือน ชุมชนที่อยู่อาศัยของประชาชน ในหลายจังหวัดของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายที่จะทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย ส่งผลให้ประชาชนชาวไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จึงขอเรียกร้องต่อผู้นำรัฐบาลทั้งสองประเทศ ใช้การเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพ ป้องกันความสูญเสียของพี่น้องประชาชนไม่ให้มากไปกว่านี้โดยเร็วที่สุด
วันเดียวกัน กมธ.การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา นำโดย พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ในฐานะประธาน อ่านแถลงการณ์ประณามการกระทําอันรุนแรงและไร้ยางอายของกัมพูชาตอนหนึ่งว่า เป็นการกระทําอันเลวร้าย และไร้เกียรติเยี่ยงสุนัขลอบกัดของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา และการระดมยิงอาวุธชนิดต่างๆ เข้ามาในพื้นที่ชุมชนของไทย เป็นการกระทําที่ป่าเถื่อนรุนแรง โดยไม่สนใจที่จะรักษาความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้าน และไม่ไยดีต่ออันตรายที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนคนไทยที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชายแดน ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่ากัมพูชาจงใจทําร้ายประเทศไทยและประชาชนคนไทย โดยมีการวางแผนเตรียมการไว้ล่วงหน้า และขอประณามผู้นํารัฐบาลกัมพูชา ที่ไร้จิตสํานึก ไร้ความละอาย เลือกใช้วิธีการรุนแรงแทนการใช้สันติวิธี เพื่อเบี่ยงเบนกลบเกลื่อนเรื่องเลวร้ายต่างๆ ที่ตนเองสร้างขึ้น ไม่ให้ประชาชนชาวกัมพูชาล่วงรู้
นัดชุมนุมใหญ่ 27 ก.ค.
ที่โรงแรมรัตน์โกสินทร์ คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย แถลงข่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่ชายแดนไทย-กัมพูชา นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้อ่านแถลงการณ์ว่า ขอเรียกร้องให้ยุติการแทรกแซงกิจการภารกิจของกองทัพและหน่วยงานความมั่นคงทันที ยกเลิกคณะทำงานทีมไทยแลนด์ (ศก.ทบ.) และสนับสนุนดำเนินการตามยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี แนวทางนโยบายของกองทัพ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และหน่วยงานความมั่นคง ยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ.2543 (MOU 43) แผนแม่บท (TOR 46) บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (MOU44) และแถลงการณ์ร่วม (JC 44) รัฐบาลต้องไม่เปิดโอกาสให้ต่างชาติแทรกแซงสถานการณ์ ให้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศแถลงการณ์ประณามกัมพูชา และรายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทันที ให้รัฐบาลทั้งคณะลาออกทันที
ทั้งนี้ ขอประณามการกระทำที่รุนแรง ไร้มนุษยธรรม ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมแสดงพลังปกป้องอธิปไตย ในฐานะประชาชนคนไทยตามสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ในวันอาทิตย์ที่ 27 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า เดิมมีความตั้งใจเดิมว่าจะนัดหมายกันในวันเสาร์ที่ 2 ส.ค. แต่สถานการณ์เมื่อเช้าจนกระทั่งตอนนี้ มีผู้เสียชีวิต 9 คน ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นว่ารอต่อไปไม่ได้ จะต้องสำแดงพลังแผ่นดินเพื่อบอกฝั่งกัมพูชาและคนทั้งโลกให้รู้ว่าคนในประเทศไทยนั้นมีความรักชาติบ้านเมืองไม่น้อยกว่าชาติใดในโลก บอกเลยว่า 27 ก.ค.นี้ เชื่อมั่นว่าคนจะมากกว่าวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ให้นึกถึงทหารที่ไปรบ ให้นึกถึงประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนเขาไม่ได้นอน เราจะได้ส่งสารสำแดงพลังร่วมแรงร่วมใจ ปรากฏการณ์แบบนี้นานมาแล้วที่เราไม่เคยได้แสดง เพราะฉะนั้นเครือข่ายโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะอยู่ในแพลตฟอร์มใด ให้กระจายบอกกับพี่น้องประชาชนปิดประตูบ้าน ไม่ว่าจะอยู่ประเทศจังหวัดใด ให้เดินทางมาที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. นี่คือการสำแดงพลังของพี่น้องประชาชนคนไทย
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร อ่อนแอมากเกินไป ไม่เหมาะที่จะนำประเทศไทยไปสู่การสู้รบ ขอย้ำว่ามาในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ส่งกำลังใจให้ทหาร แต่เราจะไล่รัฐบาลด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง


