กมธ.เปลี่ยนเป้า เน้นคุ้ย‘สุชัชวีร์’ เอื้อผลประโยชน์

“เศรษฐกิจไทย” รอธรรมนัสตัดสินใจจะส่งผู้สมัครชิงพ่อเมือง กทม.หรือไม่ “ประเดิมชัย” เผยรับหน้าเสื่อคุ้ย “ดร.เอ้” แทนธีรัจชัยแล้ว มุ่งเรื่องเอื้อประโยชน์พวกพ้องแทน ส่วนเรื่องรวยผิดปกติโยนให้ ป.ป.ช.ตัดสิน “เรืองไกร” ข้องใจทรัพย์สิน “เดชอิศม์”

เมื่อวันที่ 13 ก.พ. นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งผู้สมัครชิงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่าพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ให้พรรคเข้าที่เข้าทางก่อน และคิดว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทยจะให้รายละเอียดต่อไป

ด้านนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในการประชุม กมธ.สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมให้เป็นผู้รับผิดชอบการตรวจสอบความร่ำรวยผิดปกติและการทุจริต ของนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) แทนนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษก กมธ.ป.ป.ช. ที่ขอถอนตัวจากการเป็นผู้รับผิดชอบคดี

นายประเดิมชัยกล่าวต่อว่า แนวทางหลังจากนี้ กมธ.จะเน้นตรวจสอบประเด็นหลักคือ ข้อร้องเรียนกรณีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทของบุคคลใกล้ชิดนายสุชัชวีร์ได้รับงานใน สจล. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่นายสุชัชวีร์เป็นบอร์ด กฟผ.ในเวลานั้น มีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทคนใกล้ชิดได้รับงานจริงหรือไม่ ขณะนี้มีผู้ส่งข้อมูลทั้งผู้ประสงค์และไม่ประสงค์ออกนามมาให้ กมธ.จำนวนมาก ทุกทิศทาง จะนำมารวบรวมและเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลต่อไป

"ขณะนี้กำลังรอข้อมูลจากกรมสรรพากรและ สจล. ที่ กมธ.ขอข้อมูลไปก่อนหน้านี้ ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามีพยานหลักฐานมีน้ำหนักแน่นหนาเพียงใด เพราะ กมธ.เพิ่งสอบไปเพียงไม่กี่นัด ยังมีประเด็นที่ กมธ.ต้องแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ส่วนประเด็นตรวจสอบความร่ำรวยผิดปกติของนายสุชัชวีร์นั้น คงต้องให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบโดยตรง ไม่น่าจะเกี่ยวกับอำนาจของ กมธ. และเมื่อ กมธ.สรุปข้อเท็จจริงในการสอบสวนได้อย่างไร จะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป" นายประเดิมชัยกล่าว

วันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.2564 มีข่าวเกี่ยวกับบัญชีทรัพย์สินของนายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือนายกชาย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมา แต่ไม่มีการนำรายละเอียดของรายได้มาลงไว้ด้วย ทำให้ย้อนไปดูบัญชีทรัพย์สินของนายเดชอิศม์ ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2562 ซึ่งมีข้อสังเกตคือ ไม่มีการแจ้งเงินประจำตำแหน่ง ส.ส.ไว้ด้วยแต่อย่างใด กรณีจึงมีเหตุอันควรตรวจสอบต่อไปว่ามีการนำรายได้ไปเสียภาษีให้ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่

นายเรืองไกรกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีดังกล่าว กรมสรรพากรอาจยังไม่ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ ดังนั้น จึงมีเหตุที่ควรแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อพิจารณาส่งเรื่องกรมสรรพากรตรวจสอบต่อไปว่ารายได้ของนายเดชอิศม์และคู่สมรส มีการนำไปเสียภาษีโดยครบถ้วนถูกต้องทุกๆ ปีหรือไม่ โดยในวันที่ 14 ก.พ. จะส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอให้ตรวจสอบต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง