เปิดฉากขยี้‘บิ๊กตู่’ งัดไม้เด็ดกรีดแผลทุจริต-ล้มเหลว/ไพบูลย์นำทีมป้อง

ระเบิดศึกอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติวันแรก ฝ่ายค้านเขย่าขวัญบิ๊กตู่-ครม. โวสั่นคลอน รบ.ได้ ขู่แฉเรื่องไม่ชอบมาพากล รมต.เลี่ยงกฎหมาย หลังบ้านมีเอี่ยวเงินๆ ทองๆ พท.ล็อกเป้ายิงถล่มรัวๆ รถไฟฟ้าสีเขียว-สีส้ม-เหมืองทองอัคราฯ จัดหนัก 29 ขุนพล ก้าวไกล 18 คน เรียงหน้าสับ 22 ชม.

วันพฤหัสบดีที่ 17 ก.พ.นี้เป็นวันแรกของการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน 173 คน เข้าชื่อกันเพื่ออภิปรายทั่วไปรัฐบาลในประเด็นต่างๆ

โดยมีความเคลื่อนไหวจากฝ่ายค้านและรัฐบาล เริ่มที่ฝ่ายค้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคประชาชาติ เปิดเผยว่า พรรคประชาชาติได้เวลาในการอภิปรายจากวิปฝ่ายค้านรวมเวลา 60 นาที ซึ่งเบื้องต้นมี ส.ส.ขออภิปรายรวม 4 คน ซึ่งการอภิปรายทั่วไปครั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152  ย่อมไม่ใช่การมาชมรัฐบาล ขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล  โดยปัจจุบัน พบเห็นได้ชัดเจนว่า ประชาชนเดือดร้อนอย่างมากจากการที่รัฐบาลบริหารงานผิดพลาด โดยเฉพาะเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ แต่คนใกล้ตัวรัฐบาลกลับมีชีวิตสุขสบาย ดังนั้น ส.ส.พรรคประชาชาติ จะอภิปรายชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลบริหารงานผิดพลาดอย่างไร

 “การอภิปรายรอบนี้จะมีการอภิปรายส่วนหนึ่งที่จะชี้ให้เห็นว่ามีคนในรัฐบาล รัฐมนตรีบางคน บริหารงานในลักษณะเลี่ยงที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคือมีกฎหมายอยู่แต่ไม่ทำตามกฎหมาย จนส่อไปในทางที่อาจจะเหมือนการทุจริต ตรงนี้ส.ส.พรรคประชาชาติก็จะมีการอภิปรายด้วย คือเป็นลักษณะการทำงานของรัฐมนตรีบางคนที่ส่อไปในทางว่าอาจมีผลประโยชน์ขัดกัน ไม่โปร่งใส มีกฎหมายอยู่แต่ไม่ทำตาม” เลขาธิการพรรคประชาชาติระบุ

นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำพรรคก้าวไกล กล่าวเช่นกันว่า การอภิปรายรอบนี้ รับรองได้ว่า พรรคก้าวไกล จัดหนักเหมือนที่ผ่านมาทุกแมตช์ที่พรรคก้าวไกล เวลาตรวจสอบรัฐบาลทั้งตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจและตอนอภิปรายทั่วไปรอบนี้ก็เช่นกัน ก็จัดหนักแน่นอน โดยในส่วนของพรรคตอนนี้หารือกันรอบล่าสุด จะมีคนอภิปรายประมาณ 17-18 คน ที่ผ่านมาได้มีการหารือกันในเรื่องประเด็นเนื้อหาการอภิปรายอย่างเข้มข้นระหว่าง ส.ส.ที่จะอภิปราย ไม่ต่างอะไรกับการสอบคัดเลือก สอบแข่งขันเลยคือ จากที่พรรคได้เวลามาประมาณ 5 ชั่วโมงแล้วมี ส.ส.จะอภิปรายประมาณ 17-18 คนเฉลี่ยแล้ว ส.ส.คนหนึ่งพรรคตกลงกันว่าจะให้อภิปรายประมาณ 15 นาที โดยพรรคก็มีการให้ส.ส.ที่จะอภิปรายมาคุยกันซึ่งดูแล้วหากประเด็นเนื้อหาของคนใด ที่จะขึ้นอภิปรายถ้าเนื้อหาการอภิปรายค่อนข้างดี พรรคก็เกลี่ยเวลาให้มากขึ้น แล้วไปหัก ส.ส.คนอื่น เพื่อเกลี่ยเวลาให้อยู่ในกรอบที่พรรคได้เวลามาจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน

นายสุรเชษฐ์กล่าวด้วยว่า ความเห็นส่วนตัวมองว่าไฮไลต์หลักๆ ในการอภิปรายครั้งนี้ของพรรคก้าวไกล ภาพรวมเลยคือจะอภิปรายเพื่อชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดบกพร่องของรัฐบาลในการบริหารจัดการด้านต่างๆ จนทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบโดยเฉพาะเรื่องค่าครองชีพ ที่เกิดจากการบริหารจัดการที่ล้มเหลวของรัฐบาล จนประชาชนเดือดร้อน และรัฐบาลไม่ได้ทำตามที่เคยให้สัญญาไว้กับประชาชน เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ทั้งหมดพรรคจะชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลผิดพลาดบกพร่องอย่างไร ทำให้คุณภาพชีวิตประชาชนเดือดร้อนอย่างไร จากนั้น พรรคก็จะอภิปรายเสนอข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลด้วยตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 152 บัญญัติไว้ คือเราจะไม่ได้มาด่ารัฐบาลอย่างเดียว แต่จะให้ข้อเสนอแนะด้วยว่ารัฐบาลควรต้องทำอย่างไร ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวของกระทรวงมหาดไทย มองว่าพรรคคงไม่ได้อภิปรายเรื่องนี้เป็นประเด็นหลักมากนักแต่อาจแค่แตะๆ เท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ตนเองได้เคยอภิปรายเรื่องนี้มาแล้วตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อปี 2564 ที่ถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ ไปจากเดิมที่เคยอภิปรายไว้แล้วว่า 3 ป. ทำให้รถไฟฟ้าราคาแพง จึงคงไม่อภิปรายเรื่องนี้ ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจัดหนักตลอด เราเต็มที่กับทุกแมตช์

โวจบซักฟอกมีอาฟเตอร์ช็อก

ขณะที่พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความพร้อมเต็มที่ โดยในส่วนของพรรคเพื่อไทย มีการนัดประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมผู้อภิปราย โดยจะมีการซ้อมตามสคริปต์ให้แม่นยำ จากนั้นจะมีการตัดตัวผู้อภิปรายในรอบสุดท้ายเพื่อให้เกิดความกระชับที่สุด คาดว่าจะเหลือผู้อภิปรายประมาณ 29 คน สำหรับเนื้อหาสาระที่จะใช้อภิปรายนั้น จะมีทั้งประเด็นเก่าที่มีรายละเอียดลึกกว่าเดิม และประเด็นใหม่ที่เพิ่งเกิดสดๆ โดยเฉพาะความล้มเหลวในการบริหารด้านเศรษฐกิจ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบไม่ได้แน่ ปัญหาการจัดการการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่มีอย่างต่อเนื่อง เมื่อสังคมได้รับฟังเนื้อหาแล้วจะตะลึงถึงความผิดพลาดและความย่อหย่อนของรัฐบาลอย่างชัดเจน

ประธานวิปฝ่ายค้านมั่นใจว่า ผลที่ได้จากการอภิปรายในครั้งนี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เป็นประโยชน์กับประชาชน จะเกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับการบริหาร เปลี่ยนแปลงในระดับรัฐมนตรี และอาจจะถึงขั้นเปลี่ยนแปลงผู้นำ เพราะเกิดวิกฤตศรัทธาขั้นรุนแรง หลังจากนี้มีอาฟเตอร์ช็อกแน่นอน ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าไม่หนักใจ ไม่ให้ราคานั้น อาจเป็นเพราะไม่มีการลงมติ ท่านเลยเบาใจ ไม่ต้องเข็นกล้วยออกจากสวน แต่อย่าลืมว่ามือในสภาไม่เท่าศรัทธาของประชาชน ซึ่งการไม่ลงมติในครั้งนี้ถือว่าดีกับฝ่ายค้านมากกว่า เพราะไม่ได้มีข้อบ่งชี้ว่าใครแพ้ ใครชนะ แต่ทุกครั้งหลังการอภิปรายจะมีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งฝ่ายค้านจะได้คะแนนดีกว่ามาตลอด ส่วนรัฐบาลจะสอบตก

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พรรคเพื่อไทย และรองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวเช่นกันว่า พรรคเพื่อไทยมีการติว ส.ส.ที่จะอภิปราย เบื้องต้นได้มีการแยกประเด็นติว แบ่งเป็น 4 กลุ่ม เตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก โดยพรรคได้รับกรอบเวลา 760 นาที พรรคเน้นเรื่องทั่วไปอย่าง เรื่องข้าวของราคาแพง ราคาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งบางเรื่องได้ตั้งกระทู้ถามแล้ว แต่เราต้องการความชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องของรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีส้ม และเรื่องเหมืองทองอัคราด้วยฝ่ายค้านจะอภิปรายตามญัตติที่ได้เสนอไม่ออกนอกญัตติ

เมื่อถามกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ระบุว่าการอภิปรายทั่วไปครั้งนี้เหมือนกับตอบกระทู้ถามสด นายสมคิดกล่าวว่า แล้วแต่ พล.อ.ประวิตรจะมอง แต่เรามองว่าเราพูดความจริงให้ประชาชนรับทราบว่ารัฐบาลทำอะไรไว้ และรัฐบาลทำให้ประชาชนเดือดร้อน

เมื่อถามว่า คาดว่าการอภิปรายทั่วไปครั้งนี้จะเป็นการเปิดแผลของรัฐบาลให้ไปน็อกในรอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ถูกต้อง เหมือนเราซ้อมแย็บไว้ก่อนจะต่อยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ม.151 อันนี้เป็นการอภิปรายม.152 มันเป็นประเด็นสอบถามเป็นประเด็นเสนอแนะไม่ใช่อภิปรายยิงตรงประเด็นเลย ซึ่งเราก็จะมีการเก็บไว้ไปปล่อยตอนอภิปราย ม.151

ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในฐานะหนึ่งในผู้อภิปรายของพรรคเพื่อไทย นอกจากจะอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ที่บริหารงบประมาณผิดพลาด ปล่อยปละละเลย อาจก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันแล้ว ยังจะอภิปรายเกี่ยวพันไปถึง 3กระทรวงด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกรณีท่อน้ำมันรั่วไหลลงทะเลที่ จ.ระยองถึง 2 ครั้ง ท่อก๊าซระเบิด จ.สมุทรปราการ

"ทราบมาว่ามีความพยายามจะเป่าคดี กรณีกองทุนพัฒนาการกีฬา ที่ใช้เงินจำนวนมาก แต่กลับไม่ค่อยมีการจัดแข่งกีฬาสักเท่าไหร่ เรื่องนี้ก็เกี่ยวพันไปถึงหลังบ้านบางคน และสุดท้ายเรื่องความไม่ชอบมาพากลในกระทรวงทรัพย์ แต่ขอยังไม่ลงรายละเอียด ส่วนวันเวลาอภิปรายของตน ยังไม่แน่ชัดจะได้อภิปรายในวันที่ 17 ก.พ. หรือ 18 ก.พ. คงต้องให้ทางวิปฝ่ายค้านจัดสรรเวลาอีกครั้ง แต่รับรองว่า เรื่องอะไรที่จิรายุพูด ฮือฮาแน่นอน" ส.ส.เพื่อไทยกล่าว

ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย บอกว่า ประเด็นการอภิปรายครั้งนี้อาจจะไม่เหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ที่มีการลงมติ แต่ในสถานการณ์ที่รัฐบาลไม่เป็นเอกภาพเช่นนี้ เชื่อว่าจะสามารถสั่นคลอนรัฐบาลได้ รัฐบาลอย่าทำใจดีสู้เสือ ที่นายกฯ บอกจะตอบคำถามทุกคำถามของฝ่ายค้านนั้น ขอให้รักษาคำพูด เพราะอาจมีบางคำถามที่รัฐบาลไม่กล้าตอบก็เป็นได้

ตั้งทีมท้วงอภิปรายนอกกรอบ

ส่วนท่าทีจากทางรัฐบาลนั้น นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เราจะเปิดให้ฝ่ายค้านอภิปรายเต็มที่ รัฐบาลใจกว้างให้ 22 ชั่วโมงเต็มๆ แต่ถ้าอภิปรายนอกประเด็นเรามีทีมฝ่ายกฎหมายของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรค พปชร. จะคอยทักท้วงให้อภิปรายอยู่ในกรอบมาตรา 152 เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แต่จะไม่มีการทักท้วงจนทำให้อภิปรายสะดุดไม่ไหลรื่น ขอเพียงให้ฝ่ายค้านอภิปรายหรือซักถามอยู่ในประเด็นเท่านั้น เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมตอบอยู่แล้ว และยังถือเป็นโอกาสให้รัฐบาลชี้แจงผลงานให้ประชาชนรับทราบด้วยว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านพูดมันมีเนื้อหาสาระหรือไม่ ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าขณะนี้ฝ่ายค้านพยายามสื่อให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าการอภิปรายครั้งนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งที่มันไม่ใช่

 สำหรับทีมกฎหมายของพรรค พปชร. และพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อจะฟ้องเอาผิดใครทางกฎหมาย แต่เป็นทีมที่รู้เรื่องข้อบังคับการประชุม รัฐธรรมนูญ เพื่อคอยทักท้วงให้ฝ่ายค้านอภิปรายให้อยู่ในกรอบ ไม่มีการด่าทอกัน อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่าวันแรกของการอภิปรายฝ่ายค้านจะอภิปรายแบบซักถามข้อเท็จจริง ถามในเรื่องที่เป็นจริง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริหารงาน อย่าใช้วาทกรรม ไม่ใช่อภิปรายในสิ่งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง หรือกระกระแนะกระแหน อยากให้เปลี่ยนภาพพจน์การเมืองใหม่ อภิปรายให้รู้เรื่องเพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจ จะซักถามอะไร จะแนะนำอะไร ให้อยู่บนข้อเท็จจริง

 ประธานวิปรัฐบาลเปิดเผยว่า สำหรับทีมกฎหมายและทีมวิชาการของ พปชร. ที่จะคอยทักท้วงหากฝ่ายค้านอภิปรายนอกประกรอบมาตรา 152 นั้น อาทิ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ซึ่งเป็นประธานฝ่ายกฎหมายและข้อบังคับพรรค พปชร., นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรค พปชร., นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองประธานวิปรัฐบาล, นายอัครวัฒน์ อัศวเหม ส.ส.สมุทรปราการ, นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา, นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์, พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี, นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช และ ส.ส.ใหม่อีกหลายคน

ด้านนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคเศรษฐกิจไทย กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า บอกเช่นกันว่า ในส่วนของพรรคเศรษฐกิจไทยคงจะรับฟังข้อมูลไปปกติธรรมดา และไม่มีการลุกขึ้นอภิปราย​สำหรับจุดยืนของพรรคที่หลายฝ่ายให้ความสนใจนั้น คิดว่ารอติดตามจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา​ พรรคเศรษฐกิจไทยจะดีที่สุด ซึ่งจากจุดยืนที่ผ่านมาหากอะไรที่ถูกต้องเป็นประโยชน์กับประชาชน เราจะดำเนินตามนั้น โดยแม้ว่ากลุ่มเราจะออกมาจากพรรคพลังประชารัฐแล้ว แต่ขอบอกตรงนี้ว่าพวกเราทุกคนยังนับถือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มากที่สุด เพราะดูแลเรามาอย่างดี เป็นผู้ใหญ่ที่น่ารัก ซึ่งทุกคนก็เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น ออกมาเราก็มีอิสระมากขึ้น สามารถพูดอะไรได้เยอะขึ้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง