ระอุ! 'ขจิตร' อัดกิริยาไม่เปลี่ยน 'บิ๊กตู่' สวนอารมณ์แรงเพราะเป็นคนธรรมดา

'ขจิตร' ซัดประยุทธ์ กิริยาไม่เปลี่ยน ทำงบไม่รับผิดชอบ 'บิ๊กตู่' สวนทันควันยันรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ขอให้เข้าใจบ้าง บางครั้งอารมณ์รุนแรง เพราะเป็นมนุษย์ธรรมดา

01 มิ.ย.2565 - นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ว่าการที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าพูดอะไร ส.ส.ก็ไม่ฟัง ก็แสดงว่า ส.ส.ไม่นั่งอยู่แปลว่าไม่ฟัง แต่ตอนนี้ตนเองพูดนายกฯ ก็ไม่นั่งฟัง ซึ่งจริงๆ แล้วเราฟัง เห็นทั้งกิริยาท่าทางของนายกฯ แต่ท่านไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ฟังแล้วก็ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลง เวลาทำงบประมาณก็ไม่รู้สึกรู้สาต่อสถานการณ์ มาตอบในสภาเหมือนไม่รับผิดชอบบอกว่าไม่ได้ทำเอง ถ้าไม่อยากรับผิดชอบกับงบที่แถลงมา และในเอกสารก็ลาออกไป แล้วให้คนอื่นเขามารับผิดชอบ

“ผมเจอนายกฯหลายท่านมาก ไม่ต่ำว่าสิบท่านในเวลา 40 ปีที่ผมทำงานการเมือง ทุกคนต้องรับผิดชอบหมด ไม่ว่าอะไรก็ตามที่อยู่ในเอกสาร คนที่รับผิดชอบต่อสภาคนแรกคือนายกฯ จะปฏิเสธไม่ได้ นายกฯท่านต้องรับผิดชอบในโครงการทั้งหมดของงบประมาณ ผมเห็นใจท่านนายกฯ เหนื่อยมาตั้งแต่มีสภา แต่เดี๋ยวนี้สภาทำบทบาทได้ 30%เท่านั้น นอกนั้นเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ท่านเหนื่อยมากผมเข้าใจ ท่านทำงานทุกอย่างเพื่อจะรับผิดชอบประเทศนี้ แต่บนความเหนื่อยของท่านใช้งบประมาณ ยืมเงินมาเป็นหนี้สาธาณะ 10 ล้านล้านบาท มากกว่าคนอื่น ท่านรับผิดชอบหรือไม่ และเป็นผลงานของท่านหรือไม่ แล้วถ้าไปตรวจดูการใช้งบของท่านทั้งหมดที่ท่านใช้ไปประมาณปีละ 3 ล้านล้านบาท และปีนี้ 3.18 ล้านล้านบาท มีผลอย่างไรต้องไปดูทั่วประเทศ ซึ่งนายกฯ ที่ชื่อประยุทธ์ต้องรับผิดชอบ”นายขจิตร กล่าว

นายขจิตร อภิปรายต่อว่า สำหรับกระทรวงศึกษาธิการ กับกระทรวงอุดมศึกษาฯ ใช้เงินประมาณ 4-5 แสนล้านบาท 80%ของกระทรวงศึกษาฯ ใช้กับงบบุคคลากร เหลืออยู่ประมาณ 9,775 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบพัฒนา และ 90%เป็นงบค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งไม่ถึงมือครู ครูยังต้องใช้เงินตัวเองทำกิจกรรมการเรียนการสอนเอง การทำโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ใช้เงิน 4,954 ล้านบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 54 เพราะรัฐบาลต้องจัดการศึกษาให้กับประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีคุณภาพ และทั่วถึง ดังนั้นการจะมาทำโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล แปลว่าโรงเรียนอื่นไม่มีคุณภาพใช่หรือไม่ ซึ่งนายกฯ ต้องรับผิดชอบ

ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขึ้นโต้ทันว่า ที่ท่านกล่าวหาว่าไม่รับผิดชอบ โยนความผิดให้คนอื่น ยืนยันว่า ไม่ใช่แบบนั้น ท่านฟังคำพูดของตนเองไม่เข้าใจ พูดว่าทำงานโดยการต้องฟังจากคณะกรรมการทุกคณะ ความรับผิดชองอย่างไร นายกฯ ก็ต้องรับผิดชอบ ไม่หนีแน่นอน ไม่หนีไปไหน ความรับผิดชอบทุกอย่าง อย่างไรก็ต้องรับผิดชอบ อย่าพูดที่เกินเลยไป และในเรื่องของการศึกษารัฐบาลให้ความสำคัญการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งอยู่ในหัวข้อหลักของชาติ 1 ใน 6 ข้อ แต่สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้มีคุณภาพ เราต้องพัฒนาครู โรงเรียน พัฒนาเด็ก ซึ่งต้องดูว่าสิ่งที่เราทำมาแล้วมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ การที่มีโรงเรียนคุณภาพประจำตำบลนั้น จุดประสงค์หลักก็คือการที่จะทำให้มาตรฐานการเรียนการสอนได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อลดภาระในการเดินทางไปศึกษาในจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ที่ห่างไกล และต้องมีการปรับปรุง พัฒนาเอาเทคโนโลยีเข้าไปใส่ ไม่ได้หมายความว่ายุบทิ้งทั้งหมด และได้สอบถามไปยังกระทรวงศึกษาฯ ที่งบลดลงส่วนหนึ่งเพราะเด็กนักเรียนลดลง แต่ตนเองก็ฟังท่านและรับไปดูว่าจะดำเนินการอย่าไร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การที่จะนั่งอยู่หรือไม่นั่งอยู่ในที่ประชุม เป็นนายกฯ มีความรับผิดชอบ มีการบันทึกสรุปว่าใครอภิปรายว่าอย่างไร และควรจะชี้แจงตรงไหนอย่างไร ทุกอย่างถูกบันทึกหมดและอ่านตลอดเวลา ถึงแม้จะทำงานอื่นอยู่ด้วยก็ตาม เช่นวันนี้มีภารกิจสำคัญอีกอย่างคือการรับการเยือนของนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนลาว งานก็ไม่ได้หยุดนิ่ง และคณะทำงานอยู่ที่นี่ พร้อมชี้แจง บางเรื่องให้รัฐมนตรีช่วยชี้แจงด้วย ยืนยันพร้อมสนับสนุนในส่วนของงบกลางถ้าเรามีเพียงพอ และไม่มีปัญหาภัยพิบัติ ปัญหาสาธารณสุขและอื่นๆ พร้อมพิจารณาสนับสนุนงบให้ ซึ่งท่านก็ทราบดีอยู่แล้วว่ารายได้เราจำกัด

“ผมรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว ผมยืนยันว่าผมไม่เคยท้อและผมก็ทำงานทุกวัน ผมมีความรับผิดชอบและผมจะไม่ก้าวก่าย ผมจะไม่สั่งการอะไรที่มันเกิดประโยชน์กับตัวเอง หรือกับใคร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามระเบียบและขั้นตอนทุกประการ และทั้งหมดผมรับผิดชอบในภาพใหญ่อยู่แล้ว จะดีจะชั่วผมก็ต้องรับอยู่แล้ว ผมไม่หนีท่านหรอก ขอยืนยัน และอยากให้ทุกคนเข้าใจในบางครั้งผมรู้ ผมทราบดีว่าผมค่อนข้างจะอารมณ์แรงนิดหนึ่งบางครั้ง เพราะผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน ผมพยายามระวังอย่างที่สุดในการที่จะพูดจาตรงนี้ และต้องขอขอบคุณในส่วนที่เป็นคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ก็จะรับไปแก้ไขปรับปรุงในขั้นตอนหลังจากงบผ่านไปแล้วในชั้นกมธ.ออกมา ที่สามารถปฏิบัติได้ ถ้าไม่ผ่านก็แล้วแต่ ค่อยไปว่ากันเพราะประชาชนรออยู่ว่าเราจะทำอะไรใหม่ให้เขาได้อีก เราจะดูแลเขาต่อไปได้หรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ยัน ร่วมโต๊ะอาหารเที่ยงกับ 'เอกนัฏ'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและคณะ