รวมไทยสร้างชาติ เล็งรื้อกฎหมายอาญา คุ้มครองเหยื่อป้องกันตัวไม่ให้กลายเป็นคนผิด

10 ธ.ค.2565 - นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้แสดงความคิดเห็นหลังจากมีข้อถกเถียงในแง่กฎหมายกรณี คนร้าย 4 คน บุกปล้นร้านทองที่ จ.ตาก กระทั่งถูกเจ้าของร้านทองใช้ปืนยิงสวนกลับทำให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย จับได้ 1 ราย และยังหลบหนีอีก 2 ราย ซึ่งมีการตั้งคำถามว่าเจ้าของร้านทองกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นตัวอย่างของกฎหมายที่เห็นได้ชัดว่ายังมีความบกพร่องอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของกฎหมายอาญาที่ใช้กันมาเป็นเวลานาน เนื่องจากการออกกฎหมายตั้งแต่ต้นนั้น เป็นการกำหนดอยู่บนพื้นฐานของความเป็นกลาง โดยไม่ได้ระบุว่าใครผิดใครถูก ดังนั้นจึงเป็นการวางกฎเกณฑ์กติกาทั่วๆไป กรณีแบบนี้ในกฎหมายอาญากำหนดไว้เป็นเรื่องการป้องกันตัว คือ อยู่บนพื้นฐานที่เกินกว่าเหตุไม่ได้ การป้องกันตัวต้องพอสมควรแก่เหตุ ประการที่สอง ต้องเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงตัว ซึ่งเป็นการวางหลักตามกรณีทั่วไป

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันนี้สังคมเปลี่ยนไป หลายครั้งที่เราเป็นฝ่ายถูกกระทำ เราก็จะป้องกันตัว ในเวลาที่คนป้องกันตัวนั้น เราก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องกฎหมาย โดยคิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองรอดจากสถานการณ์ แต่พอเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว กลายเป็นป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ อันตรายยังมาไม่ถึงตัวบ้าง และสิ่งที่ใช้ป้องกันเกินกว่าฝั่งตรงข้ามบ้าง ในทางกฎหมายที่ผ่านมาจึงทำให้เป็นความผิด แต่มีโทษเบาลงเท่านั้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่ากฎหมายยังมีช่องว่างและข้อที่ควรจะแก้ไขให้เข้ากับสถานการณ์และยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ตอนนี้ถึงเวลาที่ควรจะมีกฎหมายมาให้ความเป็นธรรมกับการกระทำ ที่กระทำต่อการกระทำผิด ให้สามารถป้องกันได้ทุกรูปแบบ แต่อาจต้องมีรายละเอียดต่อไป โดยหลักการคือป้องกันได้ไม่ต้องมีความผิด

นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า กรณีนี้ถือเป็นอุทธาหรณ์ ที่ตรงกับแนวคิดของพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการแก้ไขกฎหมายที่ยังมีข้อบกพร่องหลายฉบับ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน

“กฎหมายบอกว่า การป้องกันจะต้องป้องกันจากภยันอันตรายที่ใกล้จะถึง และต้องเป็นการป้องกันที่สมควรแก่เหตุ ผมยกตัวอย่างเช่น เขาถือมีดเข้ามา เราเอาปืนยิงเลย ศาลอาจจะมองว่าเกินกว่าเหตุ แต่ในขณะนั้นถ้าเราไม่ยิงเราอาจถูกแทงตายได้ เป็นต้น ควรต้องคำนึงด้วยว่าวันนั้น นาทีนั้นสถานการณ์เป็นอย่างไร มีดกับปืน นี่คือหลักกฎหมายที่ใช้กันมามานาน สังคมสมัยโน้น กับสมัยนี้มันต่างกัน ความซับซ้อนของสังคมก็ต่างกัน แต่ที่ผ่านมาเรายังไม่มีการปรับปรุงแก้ไข ก็เลยทำให้คนดีๆ ที่เป็นเหยื่อ กลายเป็นผู้กระทำความผิด” นายพีระพันธุ์กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ยัน ร่วมโต๊ะอาหารเที่ยงกับ 'เอกนัฏ'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและคณะ

'พิมพ์ภัทรา' พร้อมรับทุกอย่างหากถูกปรับครม. ย้ำให้ถามหัวหน้าพรรครทสช.

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)มีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ ว่า เมื่อมีการกล่าวถึงเรื่องการจะปรับครม.ย่อมมีความหวั่นไหวเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

กมธ.อุตฯมั่นใจมีคนของรัฐพันปัญหาแคดเมียม

กมธ.อุตฯ ถกปัญหาแคดเมียม 'อัครเดช' เสนอดับเบิ้ลซีลใส่ตู้คอนเทรนเนอร์ก่อนขนย้าย จี้เร่งเคลื่อนย้ายฝังกลบก่อน 7 พ.ค. ยันมี จนท.รัฐเอี่ยวลักลอบขนย้ายแน่ เผย 4 ตัวละครเกี่ยวข้องเป็นทุนจีนเทา

กมธ.อุตสาหรรม ไล่บี้เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ รับผลประโยชน์ขนย้ายกากแคดเมียม

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 17 เมษายน เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา กมธ.อุตสาหกรรม

‘พีระพันธุ์’ สั่งปลัดพลังงาน จับตาผลกระทบด้านพลังงาน สงคราม ’อิหร่าน-อิสราเอล’

รมว.พลังงานเผยสั่งการให้ท่านปลัดฯและหน่วยงานทุกหน่วยของกระทรวงพลังงานติดตามรายงานสถานการณ์ คาดการณ์ผลกระทบและแนวทางในการรับมือด้านพลังงานตลอดเวลาเช่นกัน