'ณัฐชา' จวก 'บิ๊กตู่' ถอดหน้ากากคนดีออก ตัวตนที่แท้จริงบ้าอำนาจ

“ณัฐชา” จวก “บิ๊กตู่”หากถอดหน้ากากคนดีออก จะเห็นตัวตนที่แท้จริง บ้าอำนาจ ชี้ อภิปราย 152 แค่เสริมข้อมูลให้ปชช.

2 ม.ค. 2566 – นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของพรรคก.ก. ว่า ขณะนี้พรรคก.ก. และพรรคฝ่ายค้านต่างๆ ได้รวบรวมข้อมูลซึ่ง เป็นการรวบรวมข้อมูลเพื่อคัดออกเนื่องจากพี่น้องประชาชนข้าราชการระดับสูง ได้มีการส่งข้อมูลทุจริตของการบริหารราชการที่ล้มเหลวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ตนคิดว่าข้อมูลของแต่ละพรรคมีเยอะมาก จึงต้องคัดประเด็นออกเพื่อให้เหลือแค่ประเด็นที่ใช้สำหรับเปิดโปงให้พี่น้องประชาชนเห็นในข้อมูลใหม่ๆ และตนคิดว่าในการอภิปรายครั้งนี้จะเป็นมิติใหม่ ในการอภิปรายมาตรา 152 ที่พี่น้องประชาชนควรติดตาม เนื่องจากเป็นการสรุปประเด็นและขมวดความล้มเหลวในช่วงระยะเวลา 8 ปีในการใส่หน้ากากคนดีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับฉายามา ซึ่งหากเราถอดหน้ากากคนดีออกแล้ว เราจะเห็นตัวตนที่แท้จริงของนายกรัฐมนตรีที่บ้าอำนาจคนนี้

เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.จะมุ่งเน้นประเด็นอะไรเป็นพิเศษ นายณัฐชา กล่าวว่า เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ว่า แต่ละจุดมีการทุจริตคอรัปชั่นมากน้อยแค่ไหน ในบ้านของท่านเอง ที่ท่านมีอำนาจสูงสุดล้มเหลวขนาดไหน และข้าราชการภายใต้การบริหารจัดการของท่านในแต่ละกระทรวง ทุกวันนี้ ที่ท่านบอกว่าท่านใส่หน้ากากคนดีเข้ามาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อปราบโกง สุดท้ายมีผลงานการโกง ก็เป็นการโกงที่มีระดับฉะนั้น กระบวนการในระบอบประยุทธ์เหล่านี้ไม่ได้เข้ามาเพื่อปราบโกง แต่เข้ามาเพื่อต่อยอดความโกงให้ไปถึงตนเองเท่านั้น

ถามต่อว่า เบื้องต้นได้เตรียมขุนพลที่จะอภิปรายไว้ประมาณกี่คน นายณัฐชา กล่าวว่า เรามีการจัดเตรียมไว้เลย แต่ต้องมีการคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ก่อนว่าพรรคไหนจะอภิปรายเรื่องอะไร คนละกี่นาที ฉะนั้น จึงยังไม่มีการเปิดว่าใครจะอภิปราย แล้วจะอภิปรายในประเด็นหัวข้ออะไร

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าการอภิปรายครั้งนี้จะชี้ให้เห็นประชาชนเห็นความล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์ได้ นายณัฐชา กล่าวว่า ตนคิดว่าประชาชนมีเชื้อความรู้สึก มีความคิดด้านนี้อยู่แล้ว แต่ขาดประจักษ์พยานหลักฐานและข้อมูลมุมมองใหม่ๆ ฉะนั้น การอภิปรายมาตรา 152 เป็นเพียงการเติมข้อมูลให้กับประชาชนเท่านั้นเองว่าสิ่งที่เขารู้สึกเป็นเหตุเป็นผลด้วยหลักฐานอะไร และจะนำไปสู่การพูดคุยก่อนการเลือกตั้งว่าสุดท้ายะเลือกพรรคอะไรในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้าในการแก้ไขปัญหาต่างๆ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นฤมล' สยบข่าวลือทิ้งพลังประชารัฐ แจงเหตุไม่ได้ไปช่วยปราศรัยหาเสียง ส.ส.กทม.

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรรพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมเวทีปราศรัยย่อยโซนกรุงเทพฯ เหนือ"พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ”ที่ศูนย์เยาวชนหลักสี่ การเคหะท่าทราย

ไร้เงา 'นฤมล' ร่วมเวที พปชร. ปราศรัยหาเสียง ส.ส.กทม. ยังไม่ชัดอยู่หรือไป

ผูัสื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดเวทีปราศรัยย่อยโซนกรุงเทพฯ เหนือ"พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ”ที่ศูนย์เยาวชนหลักสี่ การเคหะท่าทราย ซึ่งตามกำหนดการที่แจ้งไว้ จะมีแกนนำพรรคพลังประชารัฐ

ปชป. ผนึกตระกูล 'ม่วงศิริ' ชิง ส.ส.ฝั่งธนฯ 'สุวัฒน์' แจงแล้วเหตุทิ้ง พปชร.

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งนายสากล นายสาทร นายสารัช และน.ส.วณิชชา ม่วงศิริ

พปชร.ร้องจ๊าก! สกุลดัง 'ม่วงศิริ' ทิ้งพรรคโค้งสุดท้าย โอดควรบอกกันแต่เนิ่นๆ

นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรับผิดชอบดูแลการเลือกตั้ง ส.ส.กทม. ของพรรค เปิดเผยว่า ขณะนี้นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของ พปชร. ได้ลาออกจากพรรคแล้ว

อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย แจงเหตุย้ายซบ รทสช. โดนกระทำแบบไม่ให้เกียรติ

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรค รศ.พิเศษ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองหัวหน้าพรรคและ นายเกรียงยศ สุดลาภา ผู้บริหารพรรค ร่วมให้การต้อนรับและสวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ

'พุทธิพงษ์' มั่นใจ 8 ส.ส.แชมป์เก่าครองใจคนกรุง เพราะพูดแล้วทำทุกนโยบาย

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า พื้นที่กรุงเทพมหานครกว้างใหญ่ เป็นเมืองหลวงและเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ ถ้าคิดแบบเดิม ทำแบบเดิม ก็ได้แบบเดิม หากจะพัฒนากรุงเทพไปข้างหน้า พรรคภูมิใจ