ชัดเจน 'เศรษฐา' ประกาศต้องได้ตำแหน่งนายกฯเท่านั้น รองนายกฯก็ไม่เอา

'เศรษฐา' ประกาศชัดต้องได้ตำแหน่ง นายกฯ เท่านั้นรองนายกฯก็ไม่เอา ชี้เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองได้ ปัดดีลเข้ามาเป็นผู้นำ แต่มาช่วยให้คำปรึกษา'อุ๊งอิ๊ง'เชื่อไม่เป็นการกดดันเพื่อไทย

3 มี.ค.2566 - เมื่อเวลา 12.00 น. ที่หอการค้าไทย-จีน เขตสาทร นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์โดยระบุว่าจะรับตำแหน่งนายกฯเท่านั้น และจะไม่รับตำแหน่งใดๆทางการเมือง หากไม่ได้เป็นนายกฯ ว่า มันไม่ใช่ความต้องการ วันนี้ตนเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งขั้นตอนจากนี้ต้องมีการได้รับเลือกเป็นแคนดิเดตนายกฯ และเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยส่งแคนดิเดตครบ 3 รายชื่อ ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องเลือกว่าใครจะได้รับความไว้วางใจตรงนี้

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าไม่ใช่ตำแหน่งนายกฯ ก็ไม่เอา ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ก็คือไม่เอา แต่ก็อาจจะไปให้คำแนะนำอยู่ข้างหลัง หรือยังเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยอยู่ต่อก็ได้ ผมก็ยังเป็นสมาชิกเพื่อไทยอยู่ ทำงานให้คำแนะนำด้านเศรษฐกิจ โดยไม่มีตำแหน่งก็ได้ ตรงนี้ก็สามารถทำได้ ”

เมื่อถามอีกว่า การที่สื่อสารออกไปตีความว่าเราต้องเป็นนายกฯ เท่านั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ในฐานะที่เราเป็นคนไทยคนหนึ่ง เราก็สามารถทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองได้เหมือนกัน ถ้าเกิดมีตำแหน่ง ถ้าต้องขับเคลื่อนอะไรจริงๆแล้ว ตำแหน่งนายกฯ เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจ ก็สามารถทำได้จริง

ถามอีกว่า ถ้าไม่ได้ตำแหน่งนายกฯ แสดงว่าตำแหน่งอื่นๆอย่าง รองนายกฯด้านเศรษฐกิจก็ไม่เอาใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่เอาครับ”

เมื่อถามย้ำว่า ต้องเป็นตำแหน่งนายกฯเท่านั้น ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก็ได้ เป็นที่ปรึกษาที่ไม่ต้องมีตำแหน่งทางการกับใครในพรรคเพื่อไทย ซึ่งเราก็ยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ ก็ยังสามารถทำได้

เมื่อถามว่า เท่ากับว่าตำแหน่งนายกฯจะมีอำนาจ ทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้นใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มันต้องมีภาคส่วนที่เข้ามาตรวจกัน มีระบบรัฐสภา และมีอะไรหลายๆอย่าง ตนไม่ได้อยากจะเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องของการเบ็ดเสร็จในเรื่องของอำนาจ มันไม่ใช่

ถามว่า จะเป็นการกดดันพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่าจะต้องเลือกนายเศรษฐาเป็นนายกฯเท่านั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มี เรารู้จักกันมานาน เรารู้ตัวตนของตัวเองมานาน เรื่องของการกดดันหรือ เรื่องของการอ้อมค้อมไม่มีแน่นอน ไม่ใช่เป็นนิสัยของตนเองอยู่แล้ว ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคก็รู้ดีว่า ตนเองเป็นคนอย่างไร ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีแน่นอน

ถามอีกว่า การดีลเข้ามาในพรรคเพื่อไทยเป็นการดีลในตำแหน่งเดียวนายกฯ ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้ดีลแบบนั้น แต่ดีลเข้ามาอย่างเดียวคือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ชวนเข้ามาทำงาน ชวนเข้ามาช่วยให้คำปรึกษา ซึ่งตนก็น้อมรับด้วยความเต็มใจ และรู้สึกเป็นเกียรติ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัย' ฟุ้งแค่ไตรมาสแรกต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้าน!

โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ชื่นชมผลจากความสำเร็จรัฐบาล ไตรมาสแรกปี 2567 ต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้านบาท ส่งเสริมโอกาสการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ให้คนไทย