'ชาญชัย' ไล่บี้ กกต. ชี้แจง 129 ผู้สมัครถือหุ้นสื่อแต่ไม่ถูกตัดสิทธิ หลังโดนแขวนแค่คนเดียว

“ชาญชัย” ขีดเส้น 14 พ.ค. กกต.ตอบให้ชัด 129 ชื่อผู้สมัครถือหุ้นสื่อ หลังโดนแขวนแค่คนเดียว กระทบหาเสียงไม่ได้ ย้ำเรื่องใหญ่ “ศาลฎีกา” อิงตามนักวิชาการสื่อ ระบุ “เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ติ๊กต๊อก” จัดเป็นแพร่ตรงต่อสังคม ผิดรธน. - กม.เลือกตั้ง

10 พ.ค.2566​-  ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครนายก เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต .เพื่อขอให้ตีความเรื่องการถือครองหุ้นสื่อ หลังจากตนเองเป็น 1 ในผู้สมัคร 130 คน ที่มีรายชื่อถือถือหุ้นสื่อ ที่ถูกแขวนเพียงคนเดียว

โดยนายชาญชัย กล่าวว่า ตนเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวใน 130 คนที่ถูก กกต.จังหวัดนครนายก ตัดสิทธิ์การสมัคร โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาสั่งให้คืนสิทธิ์การสมัครกับตนแล้ว จึงขอทราบว่า อีก 129 คนที่ กกต.มีรายงานว่าถือครองหุ้นนั้น ถือหุ้นอะไร อย่างไร มีหุ้นโทรคมนาคมเช่นเดียวกับตนหรือไม่ และทำไมถึงไม่ถูกตัดสิทธิ์

นายชาญชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ตามรายละเอียดปรากฏตามคำสั่งศาลฎีกาที่วินิจฉัยให้เหตุผลประกอบกับความเห็นของ ผศ.กัญภัส อู่ตะเภา คณบดีวิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่เบิกความว่า ตามหลักวิชาการ คำว่า "สื่อมวลชน" หมายถึง “สื่อกลางที่นำข่าวสาร สาร และเนื้อหาสาระทุกประเภทไปสู่มวลชน หรือกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่ว่ารูปแบบใด สื่อดั้งเดิมมีเช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ ปัจจุบันรวมถึงสื่อใหม่ หรือสื่อออนไลน์ด้วย เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูบ ติ๊กต็อก หรือแอปพลิเคชั่นต่างๆ หากบุคคล นิติบุคคล หรือองค์กรใดเป็นสื่อกลางในการนำข่าวสารหรือเนื้อหาไปยังผู้คนจำนวนมากได้ หรือถือครองสื่อที่เป็นช่องทางการสื่อสาร หรือผลิตเนื้อหาไปยังผู้คนจำนวนมาก และผู้คนจำนวนมากสามารถรับสารนั้นได้ ถือเป็นสื่อมวลชน”

ตนขอถามกกต.ว่า ในกรณีที่พรรคการเมืองได้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ทั้ง เฟซบุ๊ก ยูทูบ ติ๊กต็อก หรือแอปพลิเคชั่นต่างๆ ในการโฆษณาหาเสียงและเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์โดยตรงไปยังผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือผู้คนจำนวนมากให้รับทราบข่าวสารนั้นๆ ถือว่าเป็นเจ้าของสื่อมวลชนตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) หรือไม่ และถ้า กกต.อนุญาตให้ใช้ได้ ก็ต้องถามว่า กกต. มีอำนาจใดในการอนุมัติ อนุญาต เหนืออำนาจของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเลือกตั้ง จึงขอให้ กกต.กลางตอบให้ชัดว่าผิดหรือไม่ เพราะทั้งพรรคการเมืองและผู้สมัครส.ส. เกือบทุกคนใช้สื่อสังคมออนไลน์ หาเสียงในรูปแบบต่างๆทั้งผลิตเองและใช้จ้างผู้อื่นผลิตลงในระบบสื่อสังคมออนไลน์ ผิดรัฐธรรมนูญและกฎหมายหรือไม่ ต้องถูกยุบพรรค หรือตัดสิทธิ์หรือไม่

“ตอนนี้ผมเป็นคนเดียวใน 130 คน ที่ถูกกกต.ชี้ว่าถือหุ้นสื่อ ก่อนที่ศาลจะสั่งให้คืนสิทธิ์ จึงขอให้กกต.ชี้แจงของอีก 129 คนที่เหลือว่า เป็นอย่างไร โดยต้องตอบภายในวันที่ 14 พ.ค.ด้วย ถ้าไม่ตอบ แปลว่ากกต.ละเมิดผมเพียงคนเดียว หลังเลือกตั้งหมายศาลมาถึงกกต.แน่ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องที่ผมร้องวันนี้เป็นเรื่องใหญ่กว่า คือการที่พรรคการเมือง นักการเมืองที่เผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ผ่านเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ติ๊กต๊อก ถ้าผิดถือว่าต้องถูกถอดถอนหมด จะทำให้กกต.ไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งได้ แต่หากกกต.รับรอง ความซวยจะมาถึงกกต. แต่เชื่อว่าเรื่องนี้ศาลฎีกาจะมีทางออก” นายชาญชัย กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สัญญาณไม่ดี! ทำไม 'พิธา' บอก 'ชัยธวัช' ไม่ใช่ผู้นำขัดตาทัพ

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทำไมนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องบอกว่า นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล

‘พิธา’ ลั่นจะกลับมายิ่งใหญ่ ปลุกสมาชิกอย่าปล่อยไฟที่จุดติดดับเด็ดขาด

‘พิธา’ ฝากฝัง ‘ชัยธวัช’ ขอสมาชิกรักตัวเองอย่างไร ให้รักหัวหน้าใหม่อย่างนั้น ย้ำ แกนกลางก้าวไกลยังคงอยู่ โว นำเลือกตั้งครั้งแรกก็ได้มา 151 แล้ว หากเทียบบัญญัติไตรยางค์ รอบหน้าไม่ต่ำกว่า 300 ชู 3 กลยุทธ์ แข่ง-ขยับ-ขยาย จนกว่าจะถึงเส้นชัย

‘ชัยธวัช’ ลั่น ‘หน.ก้าวไกล’ เปลี่ยน แต่ว่าที่นายกฯยังชื่อ ‘พิธา’ ชู 4 ยุทธศาสตร์ 2 ภารกิจ

‘ชัยธวัช’ ผลักดัน 4 ยุทธศาสตร์ 2 ภารกิจ ‘ก้าวไกล’ พร้อมสู้กับการเมืองของชนชั้นนำล้มระบอบประชาธิปไตยอันมีปชช.เป็นไม้ประดับ ย้ำ ไม่มีอะไรมีจะต้องเสียใจอีกต่อไป แม้พรรคไม่ได้เป็นรัฐบาล

'พิธา' ตอบ 'เจี๊ยบ' สถานภาพล่าสุด โสด แต่ไม่ปิด ย้ำทำแต่งาน

นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์คลิปวิดีโอพูดคุยกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงบนสื่อสังคมออนไลน์

เปิดชื่อ กก.บห.ก้าวไกล ชุดใหม่ 'ชัยธวัช' แจงแค่ปรับทัพชั่วคราว ยินดีสละเก้าอี้เมื่อพิธาได้กลับเข้าสภา

ที่อาคารไทยซัมมิท มีการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคก้าวไกล วาระสำคัญคือการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายหลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่