‘สว.พลเดช’ สะกิดเพื่อไทย หากยังยึดข้าวต้มมัด 27 ก.ค. งดออกเสียง!

เพื่อไทยผวา สว.ชี้โหวตนายกฯ27 ก.ค.หากยังมีก้าวไกล สภาสูงงดออกเสียงพรึ่บ ‘เศรษฐา’ อาจร่วง ย้ำพรรคส้ม มุ่งเปลี่ยนระบอบการปกครองฯ ทำให้เกิดอนาธิปไตย แนะหากพท.โหวตสอบรอบไม่ผ่าน หลีกทางให้ ‘อนุทิน-ภูมิใจไทย’ ผงาด 

23 ก.ค.2566-นพ.พลเดช ปิ่นประทีป สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ซึ่งตอนโหวตนายกรัฐมนตรีรอบแรกมีการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้งดออกเสียง กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 27 ก.ค.นี้ว่า ต้องดูหน้างานวันประชุม 27 ก.ค.นี้ จะมีการเสนอชื่อบุคคลให้ที่ประชุมพิจารณาโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีกี่คน โดยหากตามที่ปรากฏเป็นข่าวคือ มีการเสนอชื่อแค่คนเดียวต่อที่ประชุม ซึ่งเสนอโดยฝ่าย 8 พรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาล ที่จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย ที่ต้องดูว่าจะเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน หรือนายชัยเกษม นิติศิริ ซึ่งหากในวันดังกล่าว พรรคก้าวไกล เป็นผู้ลุกขึ้นเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯจากเพื่อไทย แสดงว่า 8 พรรคการเมืองยังเหนียวแน่นมัดกันเป็นข้าวต้มเหนียวแน่น

นพ.พลเดชกล่าวว่า หากยังเป็นแบบนี้ คาดโดยส่วนตัวว่ามีแนวโน้มที่สว.จะงดออกเสียงกันเป็นแถวๆ แต่หากเสนอมาชื่อเดียวโดยเป็นชื่อแคนดิเดตจากเพื่อไทย  แต่ปรากฏว่าคนที่เสนอชื่อไม่ใช่ส.ส.พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นเสนอชื่อ โดยเป็นการเสนอชื่อจากส.ส.ที่ไม่ได้อยู่ในแปดพรรคตั้งรัฐบาลหรือแม้แต่ส.ส.เพื่อไทยเสนอชื่อเอง แต่ไม่ใช่ก้าวไกล เป็นคนเสนอ สถานการณ์ก็จะออกมาอีกแบบหนึ่งทันที

“ดูจากสถานการณ์แล้ว สว.คงไม่สนับสนุนให้ พรรคก้าวไกลได้เข้าไปร่วมเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาล ด้วยเหตุผลความไม่เชื่อมั่น ความกังวลบางอย่าง และส.ส.อีกฝั่งหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในแปดพรรค ที่มีอยู่ 188 เสียงก็คงน่าจะยืนยันไม่เห็นชอบเหมือนกัน เมื่อเป็นแบบนี้ ชื่อที่มาจากเพื่อไทย ก็คงไม่ผ่าน ไม่เชื่อก็ลองดู แต่ผมคิดว่าจะออกมาแบบนี้”นพ.พลเดช กล่าว

ถามว่า หากเป็นแบบนี้ คือก้าวไกลยังเป็นพรรคร่วมตั้งรัฐบาลอยู่ การโหวตรอบสามวันที่ 27 ก.ค.นี้ ชื่อบุคคลที่ถูกเสนอให้โหวตเป็นนายกฯ จากเพื่อไทยก็อาจไม่ผ่าน แต่ถ้าไปรอบที่สี่ ไม่มีก้าวไกลอยู่ด้วย แล้วชื่อเปลี่ยนเป็นคนอื่นเช่นอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร แบบนี้ชื่ออาจจะผ่านใช่หรือไม่ นพ.พลเดช กล่าวว่า ใช่ ก็มีแนวโน้มที่จะผ่านได้ คือจริงๆ เรื่องนี้มันติดอยู่ที่พรรคก้าวไกลเท่านั้น เพราะที่ผ่านมา พฤติกรรม คำพูด หลักฐานต่างๆเช่นหลักฐานเอกสาร เช่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เคยเสนอเข้ามาหรือการเสนอร่างแก้ไขกฎหมายต่างๆ คนที่ติดตามและวิเคราะห์อย่างสว. มันจึงมองเห็นภาวะความเสี่ยงหลายอย่างที่เป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่เรื่องของการเมือง แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงที่มุ่งที่จะเปลี่ยนระบอบการปกครองฯ ตรงนี้ทำให้ ไม่ได้รับความไว้วางใจ เกิดความระแวงบางอย่างเกิดขึ้น

“อันนี้ว่าใครไม่ได้ เพราะปรากฏการณ์และพฤติกรรมในช่วงสี่ปีก่อนหน้านี้มันเป็นแบบนั้น พฤติกรรมการพูด การคิด การแสดงออก ลักษณะของ anarchist อนาธิปไตย มันค่อนข้างมีสูง การบูลลี่ต่างๆ ทำให้สังคมแตกแยก สังคมแตกความสามัคคีเป็นส่วนๆ เกิดความหวาดระแวงกัน คนรุ่นใหม่มองคนรุ่นเก่าว่าคือปัญหา มีการด้อยค่า ตามไปบูลลี่ครอบครัวเขา มันไม่ใช่ลักษณะที่พึงประสงค์ของสังคมที่เราใฝ่ฝัน เพราะมันตรงกันข้ามกันเลย ทำให้ trust ความเชื่อมันไม่เกิด เพราะการนำพาประเทศ มันต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้นำประเทศ ที่จะนำพาบ้านเมือง แต่อันนี้ปลายทางมันจะมีแต่ปัญหา ผลกระทบ ถ้าเปรียบเป็นยาคือยาทุกเม็ดที่กินไป ผลข้างเคียงมันมากกว่าฤทธิ์ยาที่จะรักษาโรคเสียอีก ร่างกายมันไม่ไหว เพราะประเทศและสังคม มันก็เหมือนร่างกาย มันก็ทนไม่ไหว ต้องตั้งสติกันดีๆ”

นพ.พลเดช กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัว มองว่า เพื่อไทย กำลังพยายามตั้งรัฐบาลที่ก็ต้องพยายามทำให้ได้ภายในวันที่ 27 ก.ค. แต่หากยังไม่สำเร็จอีกในวันพฤหัสบดีนี้ ถ้าผมเป็นเขา ก็ต้องทำให้จบให้ได้ในการโหวตนัดที่สาม27 ก.ค.นี้ แต่หากพลาดจริงๆ ครั้งที่สี่ต้องจบให้ได้

“แต่หากไม่ได้ ถ้าผมเป็นเขา ผมจะให้พรรคการเมืองที่มีเสียงเป็นอันดับสาม ได้ลองจัดตั้งรัฐบาลดูบ้าง มันเป็นสปิริต คือเมื่อให้พรรคอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาลโหวตนายกฯสองครั้งแล้ว ตอนนี้เป็นพรรคอันดับสอง ถ้าให้โอกาสแล้วสองครั้ง ถ้าไม่ได้จริงๆ ต้องยอมมีสปิริตให้คนอื่นเขาบ้าง ที่เขาอาจหาทางออกได้ เพราะสองครั้งแล้วตั้งไม่ได้ มันก็มากเกินไปแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าไม่สามารถทำได้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพรรคการเมืองที่มีเสียงส.ส.เป็นอันดับสาม คือ พรรคภูมิใจไทย ที่มีส.ส. 71 คน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' เห็นด้วย แก้รธน.ทั้งฉบับ พรรคร่วมต้องคุยกันก่อน ย้ำไม่เกี่ยวข้องบทบาทสว.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นานอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึ

ถาม ‘พิชัย’ ตรงๆ ใครเห็นหัวคนรากหญ้ามากกว่ากัน ‘พท.’ หรือ ‘แบงก์ชาติ’

การแจกเงินของพรรคเพื่อไทยจึงไม่เพียงแต่เป็นมาตรการทางเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองที่ใช้สร้างความนิยมและรักษาฐานเสียง

'เลขาส้ม' มีแผนสำรอง โดน 112 เหี้ยนพรรค 'ไหมสอง-โรมสอง' เกิดแน่

เลขาธิการพรรคส้ม-ประชาชน ยอมรับเตรียมแผนสำรองไว้แล้ว หากอดีตส.ส.ก้าวไกลแก้ 112  ไม่รอดโดนเกือบหมดพรรค  ระบุเห็นแถวสี่  รับไม้ต่อ “ไหมสอง-โรมสอง”เกิดแน่

'นิด้าโพล' เปิดคะแนนนิยมการเมืองรอบใหม่ 'อุ๊งอิ๊ง' นำโด่ง

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 3/2567” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 16-23 กันยายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

แจกหมื่นพายุหมุน พท.เล่นใหญ่! ปั่นเศรษฐกิจพุ่ง / เมาไม่ขับวอนอย่าซื้อเหล้ากิน

รัฐบาลเล่นใหญ่! ตีปี๊บแจกเงินหมื่นพายุหมุนรอบแรก ฟุ้งเศรษฐกิจไทยจะถูกกระตุ้นครั้งใหญ่ สร้างโมเมนตัมเพื่อให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกต่อไป