'สุทิน' ฟุ้งนำเข้าปุ๋ยจีนแทนเรือดำน้ำ พร้อมเปิดชื่อ 13 กุนซือพลเรือน-ตำรวจ-ทหาร

“สุทิน” ลั่นลดซื้ออาวุธ ไม่ซื้อเรือดำน้ำ เสนอซื้อเรือผิวน้ำแทนเรือหลวงสุโขทัย ยอมรับกังวลกลาโหมและประชาชนเข้าใจนิยาม “ความมั่นคง” ไม่ตรงกัน /เปิดชื่อ 13 กุนซือ “สุทิน” ทีมผสมพลเรือน -ตำรวจ-ทหาร

9 ก.ย.2566 - เมื่อเวลา 09.00 น. ที่วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอ และรับฟังรายงาน ในหัวข้อ “ความมั่นคงในระเบียบไทยโลก ความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)” ของนักศึกษาระดับปริญญาเอก 40 คน

โดย นายสุทิน กล่าวตอนหนึ่ง ตนรับตำแหน่งนี้ก็ใช้เวลาในการเริ่มต้นตระเวนหาความรู้มากพอสมควร ไปพบคนมาหลายคน เดิมตนจะเข้ามารับตำแหน่งก็นอนคิดและหนักใจอยู่เรื่องหนึ่งว่า คำว่าความมั่นคง นิยามมันตรงกันหรือไม่ ระหว่างกระทรวงกลาโหม และมุมมองของสังคม ตนคิดว่าต้องตรวจสอบและทำให้เข้าใจตรงกันให้ได้ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง โดยได้สอบถามสภาความมั่นคงว่า นิยาม ความมั่นคงคืออะไร หากคิดตรงกัน จะได้เดินหน้าต่อไป

นายสุทิน กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ถ้าพูดถึงการรักษาความมั่นคง ก็จะพูดถึงการซื้ออาวุธน้อยลง ส่วนเรื่องเรือดำน้ำ หลายคนเฝ้ารอถาม รมว.กลาโหมคนใหม่ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ตนเป็นรมว.กลาโหมที่มาจากพลเรือนก็จะคิดคนละแบบ กองทัพเรือต้องไปดูว่า เรือดำน้ำมีความจำเป็นแค่ไหน ถ้ามีอย่างอื่นทดแทนได้จะเอาอะไรทดแทน และจะสามารถหาทางออกได้ถ้าคิดเรื่องนี้ได้ พร้อมแนะนำว่าถ้ารับไม่ได้ที่จะเอาเครื่องยนต์จีนมาใส่ รัฐบาลต้องลงทุนเจรจาให้ ไม่ปล่อยให้กองทัพเจรจาอยู่ฝ่ายเดียว โดยรัฐมนตรี หรือรัฐบาลอาจจะไปช่วยเจรจากับทางเยอรมนีให้ขายเครื่องยนต์ให้จีน

นายสุทิน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังเสนอแนวทางที่สอง คือ เปลี่ยนจากเรือดำน้ำ เป็นเรือผิวน้ำได้หรือไม่ ซึ่งความจริงแล้วกองทัพเรือไม่ได้อยากได้เรือดำน้ำ หากเอาเรือผิวน้ำมาทดแทนเรือสุโขทัยได้ก็เป็นเรื่องดี หรืออาจยกเลิกสัญญา เปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นการนำเข้าปุ๋ยจากจีนแทน เมื่อเทียบราคากับเรือดำน้ำ 1 หมื่นล้าน ซึ่งจะทำให้เกษตรกรได้ใช้ปุ๋ยที่มีราคาถูกลง

“ส่วนกองทัพเรือก็ถามผมว่า ท่านคิดโอเคนะครับ ไม่ติดใจนะครับ เอายังไงก็ได้ จะยกเลิกหรือไม่ยกเลิกก็ได้ แต่ว่าแนวทางที่ท่านพูดมาสังคมน่าจะแฮปปี้รับได้ เพราะเรื่องความยากจนก็เป็นภัยความมั่นคง คุณไปเอาเรือดำน้ำมา ต้องเสียค่าอะไรเยอะแยะอีก แต่เอาเงินพวกนี้มาช่วยชาวบ้านได้เยอะ เพราะฉะนั้นที่ยกตัวอย่างนี้ขึ้นมา เพื่อให้เห็นว่าความมั่นคงเล็กๆ ก็สามารถขยายความไปได้อีกมิติหนึ่ง วิธีแก้ก็คืออาจจะแก้ความมั่นคงอีกทางหนึ่งเพื่อไปตอบโจทย์ความมั่นคงทางทหารของคุณได้” นายสุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้คัดเลือกทีมงานให้คำปรึกษางานด้านความมั่นคงมีทั้ง พลเรือน ตำรวจ ทหาร จำนวน 13 คน เพื่อรับฟังข้อมูลรอบด้าน ประกอบด้วย พล.ต.ท. ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ นายกำพลศักดิ์ คลังแสง, ดร.ปณชัย แดงอร่าม, นาย อภิศักดิ์ พละวิชัย ,นาย อภิชาติ ตุ้มวารี .นาย ธิติภัทธ์ สมบัติศิริ ดร.วรรณ์มงคล ศิลประเสริฐ, พล.อ.ชัยวิน ผูกพันธุ์ ,พล.อ.อ. สิทธิชัย แก้วบัวดี , พล.ร.อ. พัชระ พุ่มพิเชฎฐ์, พล.อ. ธนสร ป้องอาณา ,พล.อ. รักศักดิ์ โรจน์พิมพ์พันธ์, พล.ท. กิตติยุทธ กิตติยุทธโยธิน โดยมีชื่อของ พล.อ.อ.สุรพล พุทธมนต์ อดีต รอง ผบ.ทอ. เป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรี และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นเลขานุการฯ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยุครมต.จามขรก.น้ำมูกไหล

ประธานวิปรัฐบาลเหน็บฝ่ายค้าน จะซักฟอกก่อนหรืออภิปรายเรื่อง MOU 44 ก่อนเอาให้แน่ ท้าพร้อมตอบทุกเรื่อง “ธนกร” แนะรอรัฐบาลทำงานครบ 6 เดือน

'วรชัย' ถาม 'สนธิ' ปลุกมวลชนยกเลิก MOU 44 มีเป้าหมายอะไรใครหนุนหลัง

นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ยกเลิก MOU44 ในวันที่ 9 ธ.ค.

'ปธ.วิปรัฐบาล' ไม่รู้ฝ่ายค้านจะอภิปรายอะไรกันแน่ แต่ให้ระวังกระทบสัมพันธ์เพื่อนบ้าน

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายรัฐบาลช่วงต้นปี 2568 ว่า ยังไม่ทราบว่าอภิปรายอะไรก่อนแน่

ถึงยุค 'รัฐมนตรีจาม ข้าราชการน้ำมูกไหล' บรรยากาศประเทศวันนี้ คล้ายยุคทักษิณมีอำนาจ

บรรยากาศประเทศตอนนี้ คล้ายๆกับบรรยากาศตอนคุณทักษิณมีอำนาจ ยุคนั้น มีการใช้อำนาจนอกระบบ และทำผิดกฎหมายเยอะทำให้ข้าราช

ท้า 'แพทองธาร' โชว์ภูมินายกฯวัดกึ๋น 'ศิริกัญญา'

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "อยากเห็นคุณอิ๊งค์ ดีเบต คุณไหม" ระบุว่าหลังจากนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเปิดเผยถึงแนว

ปลุกรุมบี้ 'รัฐบาลอิ๊งค์' ส่งศาล รธน. ชี้ขาด 'MOU 44'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ท่านที่ได้อ่านโพสต์ที่แล้วของผม คงจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาที่ไป