ก้าวไกลการละคร 'กรุณพล' อยากให้หมออ๋องเป็นรองปธ.สภาฯ หากขับออกจากพรรคก็กลับมาร่วมงานกันอีก

“รองโฆษกก้าวไกล” เผยที่ประชุมใหญ่อยากได้ “ผู้นำฝ่ายค้าน” เหตุสามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ดีกว่า เตรียมถกทิศทาง “หมออ๋อง” พรุ่งนี้ ยินดีรับมติหรือไม่ รับ เสียดายต้องทิ้ง “รองปธ.สภาฯ” แต่ต้องเลือก 1 ตำแหน่ง

27 ก.ย.2566 - เมื่อเวลา 13.40 น. ที่รัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงผลการประชุม สส.ของพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ในเรื่องของตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 1 ของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่า จะมีการประชุมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ร่วมกับนายปดิพัทธ์ เนื่องจากในการประชุมครั้งที่แล้วนายปดิพัทธ์ยังไม่กลับจากประเทศสิงค์โปร์ แต่ขณะนี้มีมติออกมาชัดเจนแล้วว่า พรรคก้าวไกล ต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อที่จะผลักดันประเด็นต่างๆ และขับเคลื่อนสภา รวมถึงตรวจสอบรัฐบาล เพราะฉะนั้น จะมีการพูดคุยกับนายปดิพัทธ์ ว่าเมื่อพรรคมีมติเช่นนี้แล้ว นายปดิพัทธ์ยอมรับกับมติของที่ประชุมอย่างไร

เมื่อถามว่า หากนายปดิพัทธ์ไม่ลาออกจะต้องมีการขับออกหรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า ต้องอยู่ที่กรรมการบริหารพรรคว่า จะมีมติอย่างไร การพูดคุยยังไม่เริ่มขึ้น คงตอบได้ลำบาก

ถามต่อว่า ยืนยันหรือไม่ว่า พรรคก้าวไกลต้องได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก่อนที่จะมีการประชุมสมัยหน้า นายกรุณพล กล่าวว่า ใช่ มั่นใจว่า ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านสามารถผลักดันประเด็นที่แหลมคม และทำการตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างชัดเจน รวมถึงมีกรรมาธิการ (กมธ.) หลายคณะที่เราไม่ได้เป็นประธาน เราจึงมีความกังวลว่า เมื่อมีการตรวจสอบภาครัฐโดยที่ประธานกมธ. ไม่ใช่สัดส่วนของพรรคฝ่ายค้าน อาจมีปัญหา หรือความล่าช้าในการตรวจสอบ การมีตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ย่อมทำให้เราตรวจสอบได้ดียิ่งขึ้น

ถามอีกว่า ได้มีการพูดคุยหรือไม่ว่า จะรักษาทั้ง 2 ตำแหน่ง นายกรุณพล กล่าวว่า มี แต่ด้วยรัฐธรรมนูญมีข้อกำหนดว่า พรรคที่มีผู้นำฝ่ายค้านไม่สามารถมีตำแหน่งประธานสภา รองประธานสภา หรือรัฐมนตรีได้ เนื่องจากขัดกับรัฐธรรมนูญ กรรมการบริหารพรรคคงวางแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว

ซักว่า เสียดายหรือไม่ หากต้องขับนายปดิพัทธ์ออก นายกรุณพล กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วสนิทกับนายปดิพัทธ์ ก็เสียดาย แต่เท่าที่เคยคุยกัน ไม่เกี่ยวกับการขับหรือไม่ขับ ตัวนายปดิพัทธ์เอง ไม่เคยเข้าพรรค ไม่เคยเข้าร่วมการประชุมของพรรค หรือแสดงความเห็นใดๆ ในนโยบายหรือญัตติของพรรคเลย ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งประธานสภา ต้องบอกว่านายปดิพัทธ์เป็นคนนอกของพรรค ตั้งแต่วันที่รับตำแหน่งแล้ว

เมื่อถามว่า หากต้องขับออกจริงๆ จะมีเหตุผลเพียงพอในการชี้แจงต่อประชาชนหรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า อยู่ที่กรรมการบริหารพรรค และนายปดิพัทธ์ว่า เหตุผลที่จะยังอยู่ หรือจะลาออก จะเป็นอย่างไร เพราะในวันนี้ยังตัดสินใจไม่ได้ ว่านายปดิพัทธ์จะยังคงอยู่ในตำแหน่ง หรือยินดีจะลาออก เพื่อมาร่วมงานกับพรรคก้าวไกลอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายปดิพัทธ์ เคยระบุว่าอยากทำงานตรงนี้ต่อ เนื่องจากยังมีแผนการทำงานอีกมาก นายกรุณพล กล่าวว่า ได้ยินมาเช่นเดียวกันว่านายปดิพัทธ์มีแผนที่อยากให้สภาโปร่งใส และทันสมัยเทียบเท่ากับประเทศโลกที่ 1 ที่พัฒนาแล้ว โดยทำให้สภาเป็นที่รวมของประชาชนทุกคน แต่ก็ต้องอยู่ที่การพูดคุยของ กรรมการบริหารพรรคว่า สุดท้ายแล้วเป็นมติของที่ประชุมใหญ่ และแนวทางการทำงานของนายปดิพัทธ์จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องมีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง จากกรรมการบริหารพรรคซึ่ง สส.ทุกคนคงไม่มีสิทธิ์ก้าวล่วงในการตัดสินใจนั้น

ถามอีกว่า ส่วนตัวอยากเห็นนายปดิพัทธ์อยู่ในตำแหน่งใด นายกรุณพล กล่าวว่า ส่วนตัวอยากเห็นในตำแหน่งรองประธานสภา เนื่องจากนายปดิพัทธ์อยากให้สภาขับเคลื่อนด้วยความรวดเร็วและตรวจสอบได้ คิดว่านายปดิพัทธ์น่าจะเหมาะกับการดูแลสภาแห่งนี้

ซักว่า หากต้องขับนายปดิพัทธ์ออกจริง รับได้ใช่หรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า ถ้าแค่ขับออกก็รับได้ แต่ถ้าให้อยู่ก็ยินดีมากๆ

เมื่อถามถึงข้อครหาว่าพรรคก้าวไกลอยากรักษาไว้ทั้ง 2 ตำแหน่ง นายกรุณพล กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะเรามีคำตอบในทุกคำถามอยู่แล้ว ตนเชื่อว่ากรรมการบริหารพรรค และนายปดิพัทธ์น่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนตรงไปตรงมาให้กับประชาชน

ถามต่อว่า หากนายปดิพัทธ์ลาออกแล้วตำแหน่งนี้ไปอยู่กับพรรคอื่นจะคุ้มกับการที่พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า ถ้าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เราคงใช้คำว่าคุ้มหรือไม่คุ้มไม่ได้ เพราะเป็นข้อกำหนดที่บังคับอยู่ สุดท้ายเราจำเป็นต้องเลือก 1 ตำแหน่ง หากพรรคก้าวไกลมีสส. 151 คน จะปล่อยให้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านไปอยู่ในมือ ของพรรคที่มีสส. หลักสิบ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

เมื่อถามย้ำว่า การขับนายปดิพัทธ์ออกไปพรรคอื่น พรรคนั้นจะถูกมองว่าเป็นพรรคสำรองของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง ในกรณีที่ขับออกแล้วไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคสำรองของพรรคก้าวไกลหรือไม่ หรือถ้าขับออกแล้วไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ พรรคพลังประชารัฐ จะเป็นพรรคสำรองของพรรคก้าวไกลก็คงไม่ใช่คำตอบ เพราะฉะนั้นอยู่ที่ความเชื่อและความเห็นของแต่ละคน คงไม่สามารถห้ามความคิดใครได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รองปธ.กมธ.ต่างประเทศสภาฯ ชี้น่ากังวล ‘บัวแก้ว’ สุญญากาศ หนุน ‘นพดล’ เหมาะ

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร  ลาออกจาก รมว.ต่างประเทศว่า เป็นเรื่องน่ากังวลมาก เพราะสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาเวลานี้ กระทบกับประเทศไทยอย่างมาก

ก้าวไกล เดือดแทน ‘หมอชลน่าน’ ทุ่มเทเหนื่อยสุด โดนคนทิ้งพรรคเสียบเก้าอี้

‘ณัฐชา’ มอง ปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 ‘เพื่อไทย’ ยังรักษาคาแรคเตอร์ ‘สมบัติผลัดกันชม’ เก้าอี้ รมต. เหมือนเดิม สงสัย ทำไมเอาคนทิ้งพรรคอย่าง ’สมศักดิ์‘ แทน ’หมอชลน่าน‘ เหตุเหนื่อยสุดแบกรับสถานการณ์ช่วงเลือกตั้ง-จัดตั้งรัฐบาล

'รังสิมันต์'แนะ 3แนวทางแก้ปัญหาเมียนมา!

กมธ.ความมั่นคงเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องถกสถานการณ์เมียนมา 'โรม' ชี้ปัญหาในเมียนมาก็เป็นปัญหาของไทย เหตุคนหนีอพยพข้ามแดน ลั่นไทยอยู่ในฐานะที่น่าไว้วางใจที่สุด ควรเป็นตัวกลางในการเจรจา

'ชัยธวัช'ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาสู้คดียุบพรรคเพิ่มอีกรอบ!

'ชัยธวัช' ลุ้นศาล รธน.ขยายเวลาสู้คดียุบพรรค มองเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงต้องหาพยาน-หลักฐาน สู้อย่างเต็มที่ เชื่อปรากฎการณ์งูเห่าน้อยกว่า 'อนาคตใหม่' เหตุสถานการณ์ต่างกัน

โยนเลขาธิการสภาตัดสินใจปมรับมอบอาคารรัฐสภา

'รองอ๋อง' เผยคืบหน้าตรวจรับอาคารรัฐสภา หลังส่งความเห็นให้ อสส.พิจารณาแก้ไขสัญญารอบสุดท้ายได้ มั่นใจ คดีในมือ ป.ป.ช. ไม่มีผลอะไร ส่วนกรณี 'สส.ปชป.' พบพิรุธโยนให้ คกก. เป็นคนตรวจสอบ