ฟังไว้ ‘พิธา’ สอน ‘เศรษฐา’ แก้ปัญหา ’PM 2.5‘

’พิธา‘ ตอกกลับ ‘เศรษฐา’ อยากแก้ปัญหา ’PM 2.5‘ ต้องกางไทม์ไลน์ออกมาก่อน หาก อุบเงียบชาวบ้านเขาทำตัวไม่ถูก-จะให้ฝากอะไรได้ สอนมวย ถ้าวันนี้ตัวเองเป็นนายกฯ คงมีโมเดลตุ๊กตาแล้ว จี้ บูรณาการข้อมูลหน่วยงานย้อนหลัง 5 ปี แก้ไฟไหม้พื้นที่ซ้ำซาก

17 มี.ค. 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงเรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า เมื่อวานได้อ่านข่าวนายกรัฐมนตรี เห็นว่ามีอะไรจะฝากก็ให้ฝากไปได้ จึงอยากใช้โอกาสนี้ สอบถามไทม์ไลน์ในการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ 2-3 วันที่ผ่านมา ถ้าเราดูจะเห็นว่าแย่ที่สุดในโลก วันนี้ดีขึ้น ขยับเป็นอันดับ 3 แสดงว่ามันยังไม่ดีขึ้น ก็เลยอยากจะฝากถามนายกรัฐมนตรีว่าไทม์ไลน์ในการแก้ไขปัญหาฝุ่น โดยเฉพาะภาคเหนือ สัปดาห์นี้คิดว่าต้องแก้อะไร เดือนหน้า (เม.ย.) จะเป็นเดือนที่ค่าฝุ่นสูงที่สุด หากดูสถิติจะแก้อย่างไร ปีหน้าจะแก้อย่างไร ถ้าเกิดมีไทม์ไลน์แบบนี้ ฝ่ายค้านอย่างพวกตนจึงสามารถฝากได้ เพราะถ้าไม่มีไทม์ไลน์มาให้ ก็ไม่รู้จะฝากอย่างไร รวมถึงข้าราชการและภาคประชาชน ชาวบ้านที่อยากมีส่วนร่วม 

“เพราะเขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรยังไง สิ่งที่ฉันเรียนรู้มาในอดีต วิธีแก้ไขก็คือเอาไฟชนไฟมาช่วยกัน เพราะไม่มีการบูรณาการกัน ทุกคนก็ขยับไม่ถูก” นายพิธา กล่าว 

นายพิธา กล่าวต่อว่า ตนขอฝากตุ๊กตาให้นายกรัฐมนตรีก็แล้วกัน ตอนนี้มันสายเกินป้องกันแล้ว คงต้องไปดูว่าสิ่งสำคัญที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินแบบนี้ เช่น หน้ากาก N95 เครื่องฟอกอากาศราคาถูกที่ชาวบ้านเข้าถึงได้ โดยไม่ได้นำเข้าจากต่างประเทศ อาชีวะบ้านเรามีความสามารถประกอบเองได้ตั้งเยอะ เท่าที่ได้ยินมาจากปีที่แล้ว โรงเรียนเด็กเล็กและโรงพยาบาล ต้องการเครื่องกรองอากาศ ซึ่งสัปดาห์นี้สามารถทำได้เลย สามารถเพิ่มสรรพกำลังของคนที่มาช่วยในการดับไฟป่าอย่างที่ตนไปมาเมื่อวาน

ส่วนเดือนหน้าที่ค่าฝุ่นจะสูงที่สุดในทุกปี สิ่งที่ทำได้เลยคือนายกรัฐมนตรีลองไปดูข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี ของสถาบันพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (จิสด้า) และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) หรือของกรมอุตุนิยมวิทยา 

“เอาแผนที่ดาวเทียมมาทับซ้อนกัน 5 ปี คุณจะรู้เลยว่าปีนี้โอกาสไฟไหม้ป่าอยู่ที่ไหนบ้าง สามารถที่จะรุกก่อน สร้างธนาคารน้ำเป็นสถานีน้ำให้เหยี่ยวไฟเข้าไปพร้อมที่จะช่วย เพราะฉะนั้น เดือนหน้าแทนที่มันจะหนัก ก็อาจจะทุเลากว่าปีที่ย้อนหลังมา เพราะสถิติมันบอกเราว่ามันไหม้ซ้ำซาก แล้วพอถึงปีหน้าก็มีเวลาแก้ไขในระยะยาวมากขึ้น” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวว่า เราเข้าใจข้อจำกัดทางกฎหมายและงบกลาง และเข้าใจว่าทำไมผู้ว่าราชการจังหวัดถึงไม่ประกาศเป็นพื้นที่ฉุกเฉิน ต้องฝากนายกฯรัฐมนตรีลองดูว่าทำไมผู้ว่าราชการจังหวัดถึงไม่ประกาศทั้งที่รุนแรงระดับโลก 

“มันเป็น KPI ของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่ ที่บอกว่าพอประกาศเขตฉุกเฉินแล้ว ผู้ว่าฯไม่กล้าที่จะใช้หรือเปล่า แต่ขอจบตรงนี้ว่าข้าราชการที่นี่ รวมถึง สิ่งที่คนเล่าให้ฟังว่าผู้ว่าฯที่อยู่แถวนี้ ก็ทำงานถึงสามทุ่มสี่ทุ่ม เพื่อที่จะช่วยกันทำให้ไฟป่าดับ แต่มันเกาไม่ถูกที่คัน” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวอีกว่า อย่างน้อยถ้ายังแก้ไม่ได้ ก็ต้องมาไล่ว่าตอนนี้ทำอะไร เดือนหน้าทำอะไร ปีหน้าทำอะไร รับรองได้ว่ามันจะผ่อนหนักเป็นเบา

“ถ้าจะพูดกับนายกรัฐมนตรีตรงๆ มันคือปัญหาโลจิสติกส์ ไม่ได้เป็นปัญหาทางเทคนิค จะเป็นปัญหาการลำเลียงน้ำ การลำเลียงคนดับไฟป่าให้ถึงจุด … มันคือการที่เข้าใจรูปแบบของไฟ แล้วมี Economies of Speed ไปให้ถึงก่อนที่ไฟจะลาม กับ Economies of Scale คือการขยายทีมในการแก้ไขให้ครบทุกจุดในเวลาที่พร้อมกัน เมื่อเสาร์แก้ปัญหานี้ได้จะกลายเป็นเศรษฐกิจในการแก้ไขปัญหาไฟป่าที่เอาไปทำต่อในประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศที่มีปัญหาแบบนี้ได้ เราจะกลายเป็นมหาอำนาจในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ … เหมือนที่หลายประเทศแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ ก็เอามาขายประเทศไทย” นายพิธา กล่าว

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีและโฆษกรัฐบาลออกมาชี้แจงว่ามีการใช้งบกลางในการแก้ไขปัญหาแล้ว มีเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาด้วย นายพิธา กล่าวว่า อย่างนี้เรื่อง พ.ร.บ.การเกิดภัยพิบัติก็ไม่ต้องมี ก็เป็นดุลยพินิจว่าจะใช้ได้หรือไม่ได้ แล้วความแตกต่างระหว่างสถานการณ์ปกติกับสถานการณ์ฉุกเฉินมันมีความแตกต่างกัน ซึ่งสถานการณ์ก็ไม่คลี่คลายลง

นายพิธา ยังกล่าวว่า งบกลางมี 2 แบบ อย่างของ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตนเข้าใจว่ามีการผ่านงบร้อยกว่าล้านบาท เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการให้ท้องถิ่นเข้ามาร่วมด้วย แต่มันก็สายเกินไปแล้ว กว่าจะเบิกจ่าย กว่าจะเอาไปใช้ และไม่ทราบว่าได้อุปกรณ์ที่ถูกต้องหรือไม่ กลับอีกก้อนหนึ่งที่เป็นงบกลาง ในส่วนของภัยพิบัติโดยเฉพาะ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำมาใช้ได้ พวกเราที่อยู่ในที่นี้ตนเชื่อว่าสามารถเข้าถึงได้ แต่พี่น้องที่อยู่สถานเด็กเล็กเชียงดาวเข้าไม่ถึง

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่เมื่อวานนี้ทางกองโฆษกรัฐบาล ออกมาตอบโต้ว่าเป็นการรบกวนคนหน้างาน หรือมีการใช้คำว่ามือไม่พายเอาเท้าราน้ำ นายพิธา ระบุว่า 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น ในหน้าที่ของ สส. มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เพราะฉะนั้นส่วนที่มาดับไฟ ก็มีส่วนช่วยในการที่ทำให้ตนทำงานได้ดีขึ้น

“ผมเองอดีตประธานกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร คนแรกของพรรคอนาคตใหม่ ท่านอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กรมอุทยาน กรมป่าไม้ เข้ามาหาผมและอธิบายถึงสถานการณ์ให้ฟัง เวลาพิจารณางบครั้งหนึ่ง อธิบายเรื่องไฟป่า ผมก็เข้าใจ แต่พอเวลาฟังกับการที่ลงพื้นที่ มือร้อนๆ กับสะเก็ดไฟมาโดนแขนเสื้อ ต้องเอาอุปกรณ์ดัดแปลงมาจากยาฆ่าแมลง ผมพ่นไปแล้ว ก็คิดว่าผมมาฆ่าแมลง แต่จริงๆไม่ใช่ แต่มันต้องสเปรย์น้อยๆ เพราะต้องประหยัดน้ำมากขึ้น อันนี้เป็นสิ่งที่ฟังอธิบดีเป็น 10 ครั้งก็ไม่เข้าใจ มันเป็นอะไรที่ต้องเห็นหน้างานด้วยตัวเอง และรบกวนเวลาน้อยที่สุด ใช้เวลาสั้นที่สุด เวลาที่เหยี่ยวไฟมาของบ ก็จะใจเขาใจเรามากขึ้น” 

นายพิธา กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ทำ อาจจะเกะกะเล็กน้อย แต่เชื่อว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่จะได้รับกลับไปคุ้มค่าแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พรรคร่วมรัฐบาลเคาะ 'ทำประชามติ' 3 รอบ เข้า ครม. อังคารนี้

'ภูมิธรรม' คอนเฟิร์มทำประชามติ 3 ครั้ง เพื่อความปลอดภัย ชง ครม. อังคารนี้ คาดทำรอบแรกเดือน ส.ค. ซัดกลุ่มจ้องเคลื่อนไหวห้ามปชช.ใช้สิทธิ์ ปัดหารือหัวหน้าพรรคร่วมเรื่องนิรโทษกรรม

‘พิธา’ พา สส.ก้าวไกล เล่นสงกรานต์ ถนนข้าวเหนียว อ้อนคิดฮอตหลายๆ

พิธา อ้อนคนขอนแก่นคิดฮอดหลายๆ ก่อนนำทัพ ส.ส.ก้าวไกล เล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวเหนียว แฟนคลับแห่สาดน้ำ ปะแป้ง คึกคัก

'ทักษิณ' จ้อสื่อ ตอบได้ทุกเรื่อง แต่เงียบกริบปมพิธาคุยข่มกวาดสส.เชียงใหม่

หลังจากที่นายทักษิณรับประทานอาหารเสร็จ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นายทักษิณได้ลงมาเพื่อเดินทางไปทำภารกิจอื่นต่อ มีประชาชนเข้าไปทักทายและสวมกอดนายทักษิณพร้อมกล่าวว่า

'พิธา' งงรัฐบาลเพิ่งประกาศเขตภัยพิบัติที่เชียงใหม่ ถามจังหวัดอื่นไม่มีฝุ่นหรือ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัยและเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินอัคคีภัยไฟป่า 5 อำเภอ

'พิธา' สับรัฐบาลไร้โรดแมปจัดการ 'แคดเมียม' ไม่เห็นไทม์ไลน์ทำงานจะทำอะไร

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการจัดการแคมเมียมของรัฐบาลในขณะนี้ ว่า สิ่งที่รัฐบาลขาดไปและแก้ไขปัญหาไม่ได้ คือการบังคับใช้กฎหมายกฎหมาย PRTR