1 ต.ค.2567- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพัลธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงการโอนเงิน 10,000 บาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะแรก 14.5 ล้านคน ซึ่งในกลุ่มคนพิการยังมีรายที่ค้างอยู่จำนวน 8,829 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องบัตร และมีบางส่วนสิทธิ์ซ้ำกับกลุ่มเปราะบาง ประมาณ 93,000 ราย ส่วนกลุ่มเปราะบางยังเหลืออีก 372,458 ราย ซึ่งมีปัญหาเรื่องบัญชีไม่เดิน และยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ ซึ่งในกลุ่มนี้หากมีการเช็คสิทธิ์แล้วแต่ยังไม่ได้เงิน ต้องไปประสานกับธนาคาร และไปดำเนินการผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชนให้เรียบร้อย โดยทางกระทรวงการคลังจะมีการโอนเงินซ้ำอีก 3 ครั้งตามรอบ
นายจุลพันธ์ ยังชี้แจงถึงกรณีที่มีการโอนเงินเข้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ์แต่ถูกหักหนี้จากบัญชีอัตโนมัติ โดยยืนยันว่าไม่มีการหักบัญชีทันที เป็นความเข้าใจผิดของผู้รับสิทธิ์เอง และมีบางรายที่ไปผูกพร้อมเพย์กับธนาคารอื่นแต่ไม่รู้ตัว ส่วนขณะนี้จำนวนเม็ดเงินที่เข้าไปในระบบทั้งหมด ประมาณ 141,000 ล้านบาท และจะมีผลต่อการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ 3.35 %
ส่วนกรณีที่ประชาชนมีการนำไปซื้อเหล้า ซื้อหวย อาจจะไม่ตอบโจทย์การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้น รมช.คลัง ยอมรับว่า รัฐบาลต้องคิดให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว เพราะหากรออีก 3 เดือน จะยิ่งส่งผลกระทบทางลบด้านเศรษฐกิจ จึงต้องมีการปรับรูปแบบซึ่งเชื่อว่าเป็นผลดี และตรงกับความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาจจะมีตังค์ใช้ที่นอกเหนือความคาดหวังของรัฐบาลบ้าง แต่เป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกับผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด และในเฟสถัดไปก็จะพยายามทำให้เป็นรูปแบบดิจิทัล พร้อมปฏิเสธว่ายังไม่มีกำหนดว่าจะจ่ายเพียง 5,000 ในเฟสที่สอง ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ คณะกรรมการทุกอย่างต้องมีกลไก โดยรอผลการประชุมจากคณะกรรมการ
ถามถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไปตามเป้าเดิมของรัฐบาลหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจลดไปตามสัดส่วน แต่เม็ดเงินที่เติมลงไปไม่ได้หายไปไหน ยังมีสภาพคล่องในระบบ หมุนเวียนแต่อาจจะมีการรั่วไหลบ้าง แต่เม็ดเงินจะเป็นตัวหมุนในระบบเศรษฐกิจโดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น ถัดจากนั้นจะต้องดูระยะเวลาที่เหมาะสมในการเติมเม็ดเงินลงไปอีกรอบ เพื่อเป็นแรงบวกในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ส่วนจะต้องเป็นช่วงเทศกาล เช่น สงกรานต์ ปีใหม่ หรือจะเก็บไว้เป็นไพ่เด็ดช่วงโลซีซั่น เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวหรือไม่ นายจุลพันธ์ ระบุว่า ยังไม่สามารถกำหนดได้หรือให้คำตอบได้ แต่จะห่างจากเฟสแรกไปก็ไม่ดีเพราะจะให้เกิดแรงเฉื่อย ดังนั้น ต้องเติมเข้าไปในจังหวะเวลาที่เหมาะสม
เมื่อถามถึงกรณีที่น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน วิจารณ์ว่าพายุหมุนทางเศรษฐกิจจะไม่เกิดขึ้นแล้ว นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ดูง่ายๆช่วงหนึ่งถึงสองวันนี้ ตั้งแต่เริ่มโอนเงินเงินก็เกิดการจับจ่ายใช้สอยคึกคักแล้ว ดังนั้น สิ่งที่ได้คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นของรัฐบาล
ส่วนในช่วงปลายปีจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆออกมาหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า มี กำลังคุยอยู่ แต่จะเป็นคนครึ่งหรือเที่ยวด้วยกันยังไม่ได้ข้อสรุป
ซักว่า กังวลหรือไม่ว่าหากเป็นโครงการเหล่านี้จะกลายเป็นข้อครหาว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เพราะเคยวิจารณ์โครงการนี้ไว้เยอะ รมช.คลังตอบว่า ต้องดูตามสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ จะเอาเรื่องพวกนั้นมาเป็นตัวตั้งไม่ได้ และพวกตนคงไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นอุปสรรค แต่จะดูสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด การจะเอาศักดิ์ศรีมาคงไม่ใช่แต่ต้องเอาประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก พร้อมย้ำว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นอยู่ที่ความเชื่อมั่น และเสถียรภาพของรัฐบาล รวมถึงนโยบายที่มีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ถามว่า เฟสสองหากดำเนินการช้าจะมีผลกระทบต่อเป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม เมื่อเราแบ่งเฟสแล้วชัดเจนเราก็ต้องคำนวณดูจุดที่มีความเหมาะสมที่สุด ห่างไปก็ไม่ดี ซึ่งความเหมาะสมคือไม่ห่างเกินไป ไม่ชิดจนเกินไป และต้องไม่ใช่ช่วงที่เติมไปแล้วไม่เกิดแรงหน่วงอย่างเห็นได้ชัด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สนธิญา' ยื่นหลักฐานเพิ่ม ร้องศาลรธน. สั่ง 'อิ๊งค์' หยุดปฏิบัติหน้าที่ แจกเงินหมื่นไม่ตรงปก
นายสนธิญา สวัสดี นำเอกสารหลักฐานไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยรัฐบาลดำเนินโครงการแจกเงินหมื่นแตกต่างจากนโยบายดิจิตอลวอลเล็ต 10,000 บาท
'เผ่าภูมิ' เผย 'แจกเงินหมื่น' เฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุ ยังไม่เข้า ครม.
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังประชุมครม.ว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่ได้มีการนำเรื่อง การแจกเงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุเข้าสู่ที่ประชุม เนื่องจากติดปัญหาเรื่องรายละเอียดการดำเนินการ
รัฐบาล ยกโพลสนง.สถิติแห่งชาติ ชี้ประชาชนร้อยละ 87 พอใจ 'แจกเงินหมื่น'
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ระหว่างวันที่ 4 – 22 พ.ย.67 ดังนี้ 1.การสำรวจความต้องการของประชาชน พ.ศ. 2568
'เผ่าภูมิ' ชง 'ครม.' เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ วงเงิน 3 หมื่นล้าน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเสนอคณะรัฐมนตรีวันนี้ จะมีการเสนอให้พิจารณ
ครม. ไฟเขียวแต่งตั้ง เลขาฯ-ที่ปรึกษา '2 รมช.คลัง'
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร)
ฝากลูกหลานช่วยเตือนญาติผู้ใหญ่คนใกล้ชิด 4 หมื่นกว่าคนที่รัฐโอนเงินหมื่นให้ไม่ได้
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภาพรวมการโอนเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเปราะบางที่ผ่านมาว่า ขณะนี้โครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตในรอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 2 เมื่อ