
17 ธ.ค.2567- ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติแต่งตั้งองค์คณะไต่สวนกรณีกล่าวหานายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และพลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหมด 12 คน ส่งตัวผู้ต้องขังรายนายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ และให้นายทักษิณอยู่รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจจนกระทั่งครบ 180 วัน ทั้งที่ไม่เจ็บป่วยจริงว่า ได้ทราบข่าวแล้ว ส่วนตัวมีความเชื่อมั่นทั้ง 12 คนที่ถูกระบุชื่อ เพราะได้เห็นหลักฐานแล้ว ได้ปฏิบัติตามกฏหมายและระเบียบ ตามหลักวิชาชีพที่เป็นสากลทุกประการและถือเป็นเรื่องที่ดีที่ ป.ป.ช.รับเรื่องไว้ไต่สวน เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม
“การเข้าไปไต่สวนจะทำให้บุคคลที่ยังไม่ได้ส่งหลักฐานจะได้มอบข้อมูลและหลักฐาน เนื่องจากเรื่องนี้มีประเด็นเรื่องข้อกฎหมาย กรณีผู้ป่วยจะมีกฎหมายคุ้มครอง จึงไม่ได้นำหลักฐานส่งไป ซึ่งได้เคยสอบถามไปว่าหากมอบหลักฐานไปแล้วและมีการนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมืองก็จะนำเรื่องนี้ไปส่งมอบให้กับ ป.ป.ช. และผมเชื่อมั่นว่า ป.ป.ช. จะอยู่บนเหตุผลและข้อมูล ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ต่อไปนี้ประเด็นนี้จะเข้าสู่กระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมาย”
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรมราชทัณฑ์เตรียมข้อมูลไว้พร้อมแล้วใช่หรือไม่ รมว.ยุติธรรม ตอบว่า ทุกคนมั่นใจ เพราะกฎหมายถูกเขียนเอาไว้ก่อนที่บุคคลจะมาที่เรือนจำ ซึ่งผู้คุมขังประกอบด้วย 1.ราชทัณฑ์ 2.กฎกระทรวงคือโรงพยาบาล 3.ที่คุมขังอื่น ถือเป็นหลักสากล แต่ประการสำคัญคือกระบวนการเรื่องป่วย ทั้งแพทย์และบุคลากรมีความมั่นใจ หากได้ดูเวชระเบียนหรือหลักฐานซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ถือเป็นเรื่องที่ดีไม่เช่นนั้นจะเอาไปพูดในสถานที่ต่างๆ หากใครมีพยานหลักฐานควรจะนำไปมอบให้กับ ป.ป.ช. ตนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกคน เพราะเขามีประวัติและผลงานเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และการทำงานตรงไปตรงมา อย่ามองว่ากรมราชทัณฑ์จะเข้าข้างใคร กรมราชทัณฑ์ไม่เคยอคติกับใคร เราต้องบริหารงานตามกฎหมาย อาจจะไม่มีดุลยพินิจด้วยซ้ำไปเพราะกฎหมายเขียนไว้
เมื่อถามย้ำว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีใช่หรือไม่ที่จะได้พิสูจน์ความจริงกันไปเลย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งการรับเรื่องไว้ไต่สวนก็มีอยู่หลายเรื่อง ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีมุมมองเรื่องป่วยจริงหรือไม่ป่วยจริง และหลักฐานทางการแพทย์ ในฐานะที่ได้เห็นผ่านตา ในบางช่วงยืนยันว่าหลักฐานมีครบทุกอย่าง และถือเป็นเรื่องที่ดีที่ให้ผู้ที่ถูกระบุชื่อได้ไปชี้แจง
ซักว่า สุดท้ายแล้วก็เป็นฝ่ายปฏิบัติที่ถูกตรวจสอบ รมว.ยุติธรรม ยืนยันว่า คงไม่ เพราะ ป.ป.ช.ก็เขียนระบุไว้อยู่แล้ว เพียงแต่เขามองว่า ในขณะนั้นตนยังไม่ได้รับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม
ถามว่าเรื่องนี้เหมือนจะถูกตัดตอนอยู่ที่เจ้าหน้าที่ พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่า ป.ป.ช.เป็นองค์กรที่จะต้องดำเนินการไต่สวน หากสืบสวนแล้วไม่มีมูลก็ไม่รับ ซึ่งมีเรื่องที่ถูกร้องเรียนและไม่ถูกชี้มูลก็เยอะ
เมื่อถามอีกว่า ส่วนตัวพร้อมใช่หรือไม่ เพราะประเด็นดังกล่าวอาจจะทำให้หลุดออกจากเก้าอี้ได้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่ได้กังวลเลย เพราะเรายึดมั่นในข้อเท็จจริงและหลักกฏหมาย และนายทักษิณถูกควบคุมตามกฏหมาย เพียงแต่ไม่สะใจกับคนบางกลุ่ม อย่างเช่น รายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่เคยกล่าวอ้าง ซึ่งไม่เคยสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องเลย เป็นเพียงการเรียกบุคคลแล้วเอาความคิดเห็น ซึ่งหากเอาความเห็นของคนที่อยู่ตรงข้ามมันก็จะปรากฏเช่นนั้น ไม่ใช่ความเห็นปกติในการสืบสวนสอบสวน เขาควรจะเอาประจักษ์พยาน ผู้รู้ผู้เห็นจริงและอยู่ในเหตุการณ์ซึ่งเรายืนยันว่า โรคที่ปรากฏเกินกว่าศักยภาพของโรงพยาบาลราชทัณฑ์
เขากล่าวว่าการส่งตัวทุกแห่งกฎหมายไม่ได้ให้ถามโรงพยาบาล กฎหมายให้สถานพยาบาลของเรือนจำซึ่งมี 400 กว่าแห่ง ซึ่งเป็นสถานพยาบาลที่ไม่มีแพทย์ มีแพทย์แค่ทัณฑสถาน ส่วนที่อื่นๆ จะมีแค่พยาบาลหรือบุคคลที่ผ่านการฝึกอบรมเท่านั้น เมื่อประเมินแล้วก็ส่งตัว ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายที่ระบุว่าให้ส่งตัวโดยเร็ว ส่วนประเด็นที่มีความสงสัย ทุกคนจะเอาข้อมูลไปส่งให้กับ ป.ป.ช. ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเรื่องนี้ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว หากใครที่ไม่พอใจประเด็นใดก็นำหลักฐานไปส่งให้ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าต่อไปเจ้าหน้าที่จะเกียร์ว่างเนื่องจากทำแล้วจะต้องถูกตรวจสอบ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนมาเป็น รมว.ยุติธรรม ไม่เคยทำอะไรเพื่อส่วนตัวเลย อยากให้ข้าราชการทำตามกฏหมาย
ถามว่า หากประเด็นของนายทักษิณเคลียร์หมดแล้ว ถ้า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาจะง่ายขึ้นใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามกฏหมายคือ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเราพัฒนากระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว และหากใครเห็นว่ากฎหมายนี้ไม่ดีหรือต้องมีการแก้ไข สามารถมาเสนอแนะได้ซึ่งเรารับฟัง แม้แต่ข้อเสนอแนะของ กสม. เกี่ยวกับกฎกระทรวงดังกล่าว ทำไมไม่ให้อำนาจรัฐมนตรีในการพิจารณา ให้เพียงแค่รับทราบ ซึ่งเป็นกฎกระทรวงเก่า แต่อย่างไรก็ตาม การรับทราบไม่ได้หมายความว่าคนที่เป็นรัฐมนตรีจะไม่ดูแล ซึ่งในกรณีดังกล่าวทางกรมราชทัณฑ์ได้ส่งใบแพทย์และได้สอบถามหลายครั้ง ซึ่งได้เห็นและเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ที่จะรับไว้ และที่สำคัญ นายทักษิณอยู่ในหลักเกณฑ์การถูกคุมขังของราชทัณฑ์ครบตามกฏหมาย ไม่ได้มีชั่วโมงไหนที่ไม่ได้อยู่ในที่คุมขังซึ่งหมายถึงเรือนจำ ซึ่งทุกสถานที่ไม่ใช่เฉพาะกรณีของนายทักษิณ แต่ทุกที่ที่มีคนป่วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พ่อนายกฯ' ทุบโต๊ะ ยังไม่ถึงเวลาปรับครม. เกษตรฯไม่มีสลับตำแหน่ง
“ทักษิณ” ระบุยังไม่มีเงื่อนไขถึงเวลาปรับครม.ทุกคนยังทำงานกันได้ ชี้ไม่ได้คุยนายกฯ ดึง “ธรรมนัส”นั่งรัฐมนตรี บอกผู้กอง-นฤมล ปรึกษากันตลอด ไม่มีสลับตำแหน่ง
คุกรออยู่! หมอวรงค์ ลั่นคนไทยตื่นแล้ว ‘ยิ่งลักษณ์’ กลับไทยไม่ง่ายเหมือนชั้น14
ปัจจัยสำคัญคือ คนไทยตื่นแล้ว เรียกร้องให้ พวกคุณยอมรับกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะเรื่องชั้น14 คุณจะกลับมา โดยใช้อภิสิทธิ์ไม่ได้
'ยิ่งลักษณ์' รอเก้อเดือน เม.ย. 'พี่ชาย' เคาะ ยังกลับไทยไม่ได้
“ทักษิณ” รอดูความเหมาะสมหลังมีกระแสยิ่งลักษณ์กลับไทย เม.ย.นี้ ชี้ มีหลายปัจจัยยังไม่ได้กลับ กล่าวติดตลก ความจริงอยากกลับตั้งแต่เมื่อวาน
'เทวดาชั้น 14' เกาะติดอภิปราย ทำหน้าที่ 'คนหลังสภา' โต้ฝ่ายค้านพาดพิง
“ทักษิณ” เกาะติดอภิปรายหากฝ่ายค้านพาดพิงชั้น 14 พร้อมทำหน้าที่เป็นคนหลังสภาที่พร้อมโต้เอง แขวะ รู้จักแต่พล.ต.อ.ชาย ไม่รู้จักพล.ต.อ.หญิง รับ แค่คนเคยรู้จัก
ห้ามเชือด‘ทักษิณ’ องครักษ์พิทักษ์นายใหญ่แห่ขวางซักฟอกชั้น14อ้างเป็นคนนอก
"อุ๊งอิ๊ง" ยันเพิ่งมาเป็นนายกฯ ยังไม่ปรับ ครม. ต้องการความต่อเนื่องเพื่อความแข็งแรง ยอมรับโดนแน่ซักฟอกชั้น 14 ขณะที่ลูกหาบเพื่อไทยประสานเสียงห้ามอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายกฯอิ๊งค์ บอกถ้าไม่มีจะแปลกใจ ฝ่ายค้านจ่อซักฟอกทักษิณนอนชั้น 14
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลวันที่ 27 ก.พ. ว่า ยินดีตอบทุกคำถาม หลังจากนี้จะให้วิปรัฐบาลคุยกัน