นายกฯ เผยจบภารกิจดาวอส ประสบความสำเร็จอย่างมาก ภาคเอกชนสนใจลงทุนเพียบ ปลื้มประวัติศาสตร์การค้าไทย ลงนามความตกลง FTA สร้างโอกาสดีสินค้าไทยจำหน่ายในยุโรป พร้อมกระชับสัมพันธ์ผู้นำหลายประเทศแน่นแฟ้น
24 ม.ค.2568 - นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจในการร่วมประชุม World Economic Forum Annual Meeting 2025 ที่กรุงดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า การประชุมในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ที่ได้มาพร้อมทีมไทยแลนด์ชุดใหญ่ ซึ่งการประชุม เพียง 3 วันแต่ประกอบไปด้วยการพบหารือกับคณะนักธุรกิจ และผู้นำของแต่ละประเทศมากถึงกว่า 20 ภารกิจ ประกอบด้วยการหารือกับ 11 บริษัทเอกชนชั้นนำระดับโลกซึ่งได้รับการตอบรับในการให้ความสนใจลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างดี เชื่อว่าหลายบริษัทที่เคยลงทุนในประเทศไทยอยู่แล้วจะลงทุนเพิ่มมากขึ้น ส่วนบริษัทใหม่ๆ ก็ให้ความสนใจมากที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นในเร็ววันนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในระดับประเทศ ได้เข้าเยี่ยมคารวะผู้นำประเทศและหัวหน้ารัฐบาลถึง 4 ท่าน ได้แก่ ประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิส นายกรัฐมนตรีประเทศอาร์เมเนีย นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐคอซอวอ และศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุส ประธานคณะที่ปรึกษารัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ศาสตราจารย์ เคล้าส์ ชวาป ผู้ก่อตั้ง World Economic Forum (WEF) ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นที่รู้จักกับนานาอารยะประเทศมากขึ้น ทำให้เกิดความสัมพันธ์ทั้งระดับภูมิภาคและประเทศมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะที่กิจกรรมสำคัญตลอดการประชุม ต้องขอบคุณที่มีโอกาสได้ร่วมงานสำคัญในการให้การต้อนรับ อาทิ งานเลี้ยงรับรองของประธาน WEF และ ทีมไทยแลนด์ยังได้จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวัน Thailand Reception ที่นำเสนอในรูปแบบไทยสไตล์และอาหารไทยจนผู้ร่วมงานให้ความชื่นชม และสนใจในอาหารและวัฒนธรรมที่สวยงามของประเทศไทยเป็นอย่างมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องสำคัญที่สุดอันถือเป็นประวัติศาสตร์ทางการค้าของไทย กับประเทศในสหภาพยุโรปที่ประเทศไทยได้ลงนามความตกลง FTA ไทย-EFTA กับ 4 ประเทศเป็นครั้งแรก ทำให้เป็นโอกาสที่ดีของสินค้าไทย ที่จะเข้าไปจำหน่ายในประเทศแถบยุโรปมากขึ้น
สำหรับ เสาวนา Betazone "Not Losing Sight of Soft Power" และการร่วมกิจกรรมCountry Strategy Dialogue (CSD) on Thailand / และ Thailand Networking Dinner Reception ก็ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักกับต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะประเทศในยุโรป และยังได้แลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม อันเป็นซอฟเพาเวอร์ ที่สำคัญของประเทศไทยที่จะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นสินค้าให้ชาวยุโรปได้รู้จักมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนการพบปะพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการกับผู้นำและบุคคลสำคัญ เช่นนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีมอนเตรเนโก นายกรัฐมนตรีสวีเดน นายกรัฐมนตรีภูฏาน และนาย Olivier Schwab บุตรชายของผู้ก่อตั้ง WEF -นาง Melanie Brown, (หัวหน้าด้านวัฒนธรรมของ WEF ) อดีตนักร้องวงดนตรี Spice Girls ทำให้ ประเทศไทย และ ต่างประเทศ ได้กระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ในขณะที่การพบกับผู้บริหารภาคเอกชนไทยที่เดินทางมาร่วมประชุม อาทิ ผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ , CP , Bitkup ทำให้เห็นถึงแนวทางการลงทุนและรับฟังทุกคำเสนอแนะของการลงทุน ของไทยในต่างประเทศ อีกด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า การมาประชุมครั้งนี้ ถือเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยมาก ที่ได้มีโอกาสสื่อสารถึงโอกาสและศักยภาพของประเทศไทย และสร้างความมั่นใจว่าประเทศไทยพร้อมเป็นหุ้นส่วนของบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ด้วยที่ตั้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ด้านความมั่นคงด้านอาหาร รวมทั้งรัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยี พัฒนาคน ปรับ กฏระเบียบที่เอื้อต่อการลงทุน เพื่อเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนและครอบคลุมอีกด้วย อีกทั้งยังได้โปรโมท “ Soft power" ทั้งศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร ที่มาจากภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทย จนกลายเป็นสินค้าและบริการที่มีมูลค่าในปัจจุบัน เช่น มวยไทย อาหารไทย ผ้าไทย เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างประเทศ โดยรัฐบาลจะส่งเสริมให้เป็นเครื่องจักรใหม่ (engine force) ในการสร้างเม็ดเงินและนำรายได้เข้าสู่ประเทศ
“มาครั้งนี้ ทีมไทยแลนด์ได้ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ทั่วโลกจับตามอง และยังเป็นการติดตามเทรนด์โลกยุคใหม่ และได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้นำและบุคคลสำคัญๆซึ่งสอดคล้องกับทิศทางและเป้าหมายที่รัฐบาลกำลังทำ เช่น การส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น AI การแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งเตรียมเด็ก เยาวชนคนรุ่นใหม่ของไทย ให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศอีกด้วย “ นายกรัฐมนตรีกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมา24ชม.ไม่เว้นวันพระใหญ่
มีการพนันถูกกฎหมายยังไม่พอ! นายกฯ สั่งทบทวนช่วงเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
หมายจับหม่องชิตตู ฟัน‘บิ๊กตร.’ทุนเทา
“นายกฯ อิ๊งค์” กำชับ ครม.จัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์เด็ดขาด ขอเวลา 2 อาทิตย์
ตอบซักฟอกทุกเรื่อง อิ๊งค์จ่อคุยพรรคร่วมสู้ศึกฝ่ายค้าน/แก้รธน.ส่อแท้ง
“แพทองธาร” ลั่นพร้อมตอบทุกเรื่องในศึกซักฟอก “ทวี” ยกข้อกฎหมาย ป.ป.ช.ขู่หากอภิปรายพาดพิง “ทักษิณ” เท้งโวไม่กลัวถูกฟ้อง รอวัดใจ “เสรีพิศุทธ์” ให้ข้อมูลชั้น 14
'เท้ง' ยุนายกฯ ใช้อำนาจบีบพรรคร่วมฯลงชื่อแก้รธน. ให้เป็นการเสนอของครม.
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมีการหารือภายในพรรคเพื่อไทย
ทักษิณปากกล้าขาสั่น ศึกซักฟอก
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" อภิปรายไม่ไว้วางใจ ทักษิณปากกล้าขาสั่น
'อิ๊งค์' พบ 'นาโอมิ' นางแบบระดับโลก ต่อยอดอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์
น.ส.นาโอมิ เอเลน แคมป์เบลล์ นางแบบชื่อดังระดับโลก เข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเรื่องแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่น ในโอกาสเยือนประเทศไทย โดยมี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี