
หมอระวี ร้องผู้ตรวจ ชงยื่นศาลรธน.ปมบัตรเลือกตั้ง 2 ใบขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ60 ละเมิดสิทธิพรรคเล็ก ทำคะแนนเสียงตกน้ำ ผู้ชนะกินรวบ
14 ก.พ.2565-นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย หลังได้รับผลกระทบจากากรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ… (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และ 9) ที่กำหนดให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
ยนพ.ระวี กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นส.ส. และพรรคการเมืองที่ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญมาตรา 27 วรรคหนึ่ง ซึ่งระบุว่าบุคคลย่อมเสมอกันในทางกฎหมายจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2564 หรือฉบับร่าง 2 ใบ ได้ละเมิดสิทธิเสรีภาพของตน และพรรคการเมืองขนาดเล็กอยู่ 3 ประการ 1.จากรัฐธรรมนูญปี 2560 มีเจตนารมณ์ให้จัดสรรปันส่วนทุกคะแนนเสียงมีความหมาย แต่รัฐธรรมนูญฉบับ 2 ใบนี้ ได้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของตน และสมาชิกพรรคพลังธรรมใหม่ เพราะเป็นระบบที่ผู้ชนะกินรวบ คะแนนผู้แพ้ตกน้ำ 2.ในระบบส.ส.พึงมีในรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นระบบที่ยุติธรรมที่สุด เพราะว่าพรรคใดได้คะนนรวมเท่าไหร่ ก็มานำรวมกับจำนวนส.ส.พึงมีของพรรคนั้น แต่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2564 นี้ ได้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของตนด้วย เกิดความไม่เท่าเทียมในการกำหนดส.ส.พึงมี แต่มีแต่การการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ดังนั้นระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบนี้ ทำให้พรรคใหญ่ที่ใช้ทุนมหาศาลในการเลือกตั้ง จะได้ส.ส.เกินจำนวนส.ส.พึงมี
3. ระบบจัดสรรปันส่วนผสมเดิม ทำให้ประชาชนกลุ่มต่างๆในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นชาวนา กลุ่ม NGO สามารถตั้งพรรคการเมือง ละมีโอกาสส่งตัวแทนเข้ามาสะท้อนปัญหาในสภาได้ ถ้าได้คะนนเพียง 7 หมื่นคะแนน แต่ระบบบัตรสองใบจะต้องใช้คะแนนประมาณ 3.7 แสนคะแนน ดังนั้นตนและพรรคธรรมใหม่ และพรรคเล็กต่างๆ จึงถูกละเมิดสิทธิ และไม่ได้รับความเท่าเทียม ทางกฎหมาย
“รัฐธรรมนูญแกไขเพิ่มเติม 2564 ที่เป็นบัตรสองใบ มีความขัดและแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 อยู่หลายมาตรา โดยมาตราแรกขัดกับมาตรา 85 ที่บัญญัติว่าผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งในเขตมีสิทธิที่จะลงคะแนนเลือกตั้งได้คนละ 1 คะแนน แต่ระบบบัตรสอบใบจะเลือกตั้งได้สองใบ ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันทางกฎหมายอีกทั้งยังขัดและแย้งกับมาตรา 3 รัฐสภามีหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกฎหมาย และหลักนิติธรรมเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ แต่ระบบบัตรสองใบขัดต่อหลักนิติธรรม และไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม แต่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของพรรคใหญ่ อีกทั้งขัดต่อมาตรา 5 วรรคหนึ่งที่บัญญัติว่ากฎหมายใดที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัตินั้นจะบังคับมิได้ ดังนั้นในระบบบัตรสองใบจึงขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 27 วรรคหนึ่ง ทั้งนี้เรื่องนี้ต้องถึงศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นช่องทางที่ผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือการยื่นโดยตรง”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม
คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์
ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.
ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ‘สมศักดิ์ สุวรรณสุจริต’ เป็นประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
ตีตก 2 คำร้อง! ศาล รธน. ไม่วินิจฉัย MOA ตั้งรัฐบาลอนุทิน เหตุไม่มีหลักฐานชัดล้มล้างการปกครอง
ศาล รธน.ตีตกปม MOA "ณัฐพงษ์-อนุทิน" ให้ สส.ปชน-ภท. โหวตนายกฯ เหตุไม่มีหลักฐานชี้ชัดใช้สิทธิล้มล้างปกครอง เป็นการประกาศเจตจำนงร่วมทางการเมือง
'ราชทัณฑ์' พร้อมส่งตัว 'แส จิ้นเจียง' เจ้าพ่อพนันชเวก๊กโกให้รัฐบาลจีนดำเนินคดี
“ราชทัณฑ์” พร้อมส่งตัว “แส จิ้นเจียง“ ผู้ต้องหาชาวจีน เจ้าพ่อพนันชเวก๊กโกให้รัฐบาลจีนดำเนินคดี หลัง “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัย “พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน” ไม่ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ระบุ อยู่ระหว่างรับประสานงาน “อัยการ-ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ“ ยืนยัน ผู้ต้องหาเป็นบุคคลสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคง ต้องดูแลความปลอดภัยเต็มที่ ป้องกันชิงตัวผู้ต้องหา


