'แรมโบ้' แบราคาน้ำมันสยบแพง 'ยุคบิ๊กตู่' ย้อนเจ็บเพื่อไทย 'ยุคปู' แตะ 50 บาท/ลิตร

'แรมโบ้' ซัด 'เพื่อไทย' บิดเบือนราคาน้ำมัน หวังดิสเครดิสรัฐบาล งัดข้อมูลแบให้ดูชัดๆราคาน้ำมันดีเซล-เบนซิน ของไทยไม่ได้สูงสุดในอาเซียนตามที่ถูกป้ายสี ย้อนเจ็บยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ต่างหากที่น้ำมันแพงสุดเป็นประวัติการณ์แตะลิตรละ 50 บาท แต่ไม่เห็นสมุนโทนี่โวยวายเลยสักแอะ

15 ก.พ.2565 - นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีน้ำมันราคาแพง ว่า ขอชี้แจงข้อมูลราคาน้ำมันแพง ซึ่งเป็นข้อมูลที่หลายคนพูดไม่ค่อยครบ ทุกมุมมอง ทุกมิติ โดยเฉพาะคนที่ตั้งหลักจะตีรวน ย่อมหยิบเพียงบางประเด็นมาโจมตี เพื่อสนองตัณหาส่วนตัว และดิสเครดิตรัฐบาล โดยใช้ข้อมูลที่ไม่ได้ศึกษาอย่างครบถ้วนมาโจมตีให้เกิดความเข้าผิดต่อประชาชน

นายเสกสกล กล่าวว่าปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันโดยตรง ก็คือปัญหาความตึงเครียดระหว่างประเทศรัสเซียกับสหรัฐฯ และพันธมิตรนาโต้ เกี่ยวกับยูเครน ซึ่งหากว่าใครติดตามข่าวสารก็จะเข้าใจ สิ่งสำคัญคือ มันมีผลทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกสูงขึ้นแตะ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยทั้ง 2 ประเทศยักษ์ใหญ่ สหรัฐและรัสเซีย ต่าง เป็นประเทศส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก และมีน้ำมันสำรองระดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่กลับได้รับประโยชน์ที่ราคาน้ำมันสูงขึ้น

นายเสกสกล กล่าวต่อว่า ไม่เพียงเท่านี้ ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อเนื่อง คือสถานการณ์โควิดที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปี ถือเป็นมหาวิกฤติ ครั้งใหญ่ที่สุด หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกในปี 2563 ลดลงร้อยละ 3.2 และร้อยละ 9.6 ตามลำดับ ซึ่งรุนแรงยิ่งกว่า “วิกฤตต้มยำกุ้ง” ปี 2540 และ "วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์" ปี 2549

เพราะส่งผลกระทบทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่เหมือน "วิกฤตมหาอุทกภัย" ปี 2554 ที่เป็นความล้มเหลวในการบริหารจัดการของรัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ น้องสาวโทนี่ ที่รอคนนอกประเทศกดปุ่ม มันก็ไม่ทันต่อสถานการณ์แน่นอน

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า หากจะกล่าวหาลอยๆ ว่าไทยน้ำมันแพงกว่าเพื่อนบ้านอาเซียน ตนก็อยากเอามาแบให้เห็นชัดๆกันไปเลยว่า "ราคาดีเซล" เฉลี่ยทั้งประเทศ เรียงจากแพงไปหาถูก คือ

สิงคโปร์ (56.7 บาท/ลิตร) , ลาว (34.7 บาท/ลิตร), ฟิลิปปินส์ (32.0 บาท/ลิตร) , เมียนมา (31.7 บาท/ลิตร) ,กัมพูชา (30.8 บาท/ลิตร), อินโดนีเซีย (30.5 บาท/ลิตร), ไทย (29.9 บาท/ลิตร), เวียดนาม (27.5 บาท/ลิตร), มาเลเซีย (17.0 บาท/ลิตร) และบรูไน (7.62 บาท/ลิตร)

สำหรับ ราคาเบนซิน เฉลี่ยทั้งประเทศ เรียงจากแพงไปหาถูก คือ สิงคโปร์ (66.8 บาท/ลิตร) ,ลาว (44.6 บาท/ลิตร) ,ฟิลิปปินส์ (38.9 บาท/ลิตร), กัมพูชา (38.1 บาท/ลิตร), ไทย (34.5 บาท/ลิตร) ,เวียดนาม (34.5 บาท/ลิตร), เมียนมา (32.5 บาท/ลิตร), อินโดนีเซีย (28.9 บาท/ลิตร) ,มาเลเซีย (16.2 บาท/ลิตร) และบรูไน (13.0 บาท/ลิตร) (ข้อมูล ณ 7 ก.พ.65)

"ดังนั้น มันชัดเจนแล้วว่า ราคาน้ำมันไทย ทั้งดีเซลและเบนซินไม่ได้แพง อย่างที่บางคนกล่าวหา โดยเฉพาะกลุ่มพรรคพวกสมุนนายโทนี่ น่าจะตักน้ำใส่กระโหลก ย้อนมองไปดูราคาน้ำมันในอดีตปี 2557 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ลักหลับ เบนซินสูงสุด ตั้งแต่ผมเกิดมาสูงเป็นประวัติการณ์เกือบ 50 บาท/ลิตร จะจอดรถทิ้งที่บ้านก็หารถไฟฟ้าไม่มี จะเดินไปทำงานก็คงไม่ไหว ยังจำได้หรือไม่ หรือคนในพรรคเพื่อไทยแกล้งลืม"

นายเสกสกล กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม ให้ได้มากที่สุด เช่น 1. ลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดย ลดส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7, ลดสัดส่วนผสมขั้นต่ำของไบโอดีเซล, ลดค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วให้มีสัดส่วนผสมเดียว

2.ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร มาอย่างต่อเนื่อง จนถึงสิ้น มี.ค.65 นอกจากนี้ ยังมีความพยายามลดค่าครองชีพด้านอื่นๆ อีก เช่น (1) ขยายส่วนลด LPG จำนวน 100 บาท/คน/เดือน ถึงสิ้น ม.ค.65 (2) ตรึงราคา LPG อยู่ที่ 318 บาท สำหรับถัง 15 กิโลกรัมถึงสิ้น มี.ค.65 (3) ตรึงราคา NGV อยู่ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม ถึง 15 มี.ค.65 (4) ลดค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า ให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐราว 14 ล้านคน ช่วง ต.ค.64 - ก.ย.65 รวมทั้งออกโครงการต่างๆ เช่นคนละครึ่ง เพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายและกระตุ้นกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจฐานรากด้วย

สำหรับประเด็นโครงสร้างน้ำมัน ซึ่งใช้มานานหลายรัฐบาล ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงยังสงสัย หรือโยนความผิดมาที่รัฐบาลนี้ ที่ไม่ใช่เป็นคนคิด แต่จะเป็นคนเริ่มต้นแก้ไขให้มันถูกต้อง เหมาะสมกับสถานการณ์ ตามที่นายกรัฐมนตรีก็ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาอยู่ แต่เบื้องต้นอยากจะอธิบายก่อนว่าโครงสร้างน้ำมัน ของแต่ละประเทศมีรายละเอียดแตกต่างกัน

เช่น ราคาหน้าโรงกลั่น ของไทยเฉลี่ยสูงกว่ามาเลเซียและเวียดนาม ก็เพราะไทยต้องการได้น้ำมันที่บริสุทธิ์กว่า ตามมาตรฐานยูโร 4-5 ซึ่งปล่อยมลพิษน้อยกว่า ในขณะที่มาเลเซียและเวียดนามกลั่นตามมาตรฐานยูโร 2 เท่านั้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากกว่า สำหรับในส่วนที่เป็น ภาษีสรรพสามิต-เทศบาล-มูลค่าเพิ่ม ก็จะเป็นรายได้แผ่นดินและนำไปพัฒนาประเทศ หรือช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในด้านอื่นๆ

หรือในส่วนที่เป็น กองทุนน้ำมันฯ ก็ใช้พยุงราคาไม่ให้ผันผวนจนประชาชน-ผู้ประกอบการปรับตัวไม่ทัน และ "กองทุนส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน" ก็เพื่อรณรงค์ให้ประหยัดและแสวงหาพลังงานทางเลือกอื่นๆ ที่สะอาดกว่า และยั่งยืนกว่า เป็นต้น

นายเสกสกล กล่าวด้วยว่าจำเป็นต้องหาข้อมูลมานำเสนอ ให้ครบถ้วน รอบด้าน ก็เพราะต้องการให้ทุกคนได้เปิดใจและตัดสินใจอย่างเป็นกลาง อยากให้เป็น น้ำดี ที่จะไปลบล้าง น้ำเสีย ที่คนใจคดพ่นน้ำลายพูดพล่ามรายวันใส่ความนายกฯและรัฐบาล แต่นายกฯไม่เคยย่อท้อต่อการทำสิ่งที่ดีและถูกต้อง

"เชื่อมั่นว่านายกฯที่ชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาให้คนไทยทั้งประเทศทั้งที่ถูกใส่ร้ายป้ายสีอย่างหนัก หัวใจก็ไม่เคยหวั่นไหว ตั้งใจทำเพื่อส่วนร่วม เพื่อประเทศชาติและประชาชน และผมเชื่อมั่นว่าธรรมะย่อมชนะอธรรมอย่างแน่นอน" นายเสกสกล กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โออาร์-บางจากขึ้นราคาเบนซิน 40 สตางค์/ลิตร

บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) และ บมจ.บางจาก ได้มีการประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันราคาเบนซินและกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 40 สตางค์/ลิตร