สศก. ลงพื้นที่ 3 จังหวัด เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ลพบุรี สำรวจแหล่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผลผลิต รุ่น 1 ฤดูฝน ออกตลาดแล้วช่วงปลายมิถุนายน และจะออกตลาดมาก กันยายน - พฤศจิกายนนี้

นางกาญจนา แดงรุ่งโรจน์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตและการตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และ ลพบุรี ซึ่งนับเป็นแหล่งผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แหล่งใหญ่ของประเทศ (เพชรบูรณ์ แหล่งผลิตลำดับที่ 1 นครสวรรค์ ลำดับที่ 5 และ ลพบุรี ลำดับที่ 7 ของประเทศ)  ซึ่ง สศก. โดยสำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร ได้ลงพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2565 พบว่า  ฤดูการผลิตปี 2565/66 ทั้ง 3 จังหวัด มีเนื้อที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รุ่น 1 (ฤดูฝน) รวมประมาณ 1.41 ล้านไร่ (เพชรบูรณ์ 696,536 ไร่ นครสวรรค์ 332,957 ไร่ และ ลพบุรี 382,817 ไร่) หรือคิดเป็นร้อยละ 23 ของเนื้อที่เพาะปลูกทั้งประเทศ ลดลงจากปี 2564/65 ที่มีเนื้อที่เพาะปลูกรวมประมาณ 1.42 ล้านไร่ หรือลดลงร้อยละ 0.67

สำหรับภาพรวมเนื้อที่เพาะปลูกในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และนครสวรรค์ มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากราคาปัจจัยการผลิต เช่น เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี สารเคมี และน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สูงขึ้น เกษตรกรจึงปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูกมันสำปะหลังที่มีต้นทุนต่ำและให้ผลตอบแทนดีกว่า ขณะที่เนื้อที่เพาะปลูกจังหวัดลพบุรี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากในช่วงปลายปี 2564 พื้นที่บางส่วนประสบอุทกภัยจาก    อิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ ทำให้เนื้อที่เพาะปลูกมันสำปะหลังได้รับความเสียหาย เกษตรกรจึงปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แทน

ด้านผลผลิตภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด มีผลผลิตรวมประมาณ 1.04 ล้านตัน (เพชรบูรณ์ 522,153 ตัน นครสวรรค์ 246,572 ตัน และ ลพบุรี 269,713 ตัน) คิดเป็นร้อยละ 23 ของผลผลิตทั้งประเทศ ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปี 2564/65 ที่มีผลผลิตรวมประมาณ 1.03 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.68 เนื่องจากคาดว่าจะมีปริมาณน้ำฝนเหมาะสมและเพียงพอต่อการเพาะปลูก ประกอบกับเกษตรกรมีความชำนาญในการกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช เช่น หนอนกระทู้มากขึ้น โดยผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รุ่น 1 (ฤดูฝน) ในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด จะทยอยออกสู่ตลาดในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2565 เป็นต้นไป และคาดว่าจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนกันยายน - พฤศจิกายน 2565

ด้านราคา คาดว่า ในปี 2565 ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกษตรกรขายได้ ความชื้นไม่เกิน 14.5% จะสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย - ยูเครน ส่งผลให้ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และวัตถุดิบอาหารสัตว์อื่นๆ มีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม - มิถุนายน) ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 9.30 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 8.03 บาท ในช่วงเดียวกันของปี 2564 หรือร้อยละ 16

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการลดต้นทุนให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ และบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการผ่อนปรนการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และวัตถุดิบทดแทน (ข้าวสาลี และ ข้าวบาร์เลย์) โดยผ่อนปรนมาตรการการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ต้องรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ 3 ส่วนเป็นการชั่วคราว ระหว่างเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศยังออกสู่ตลาดไม่มาก เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาภายในประเทศ พร้อมทั้งผ่อนปรนการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ภายใต้กรอบ WTO ในโควตา ซึ่งจากเดิมให้เฉพาะองค์การคลังสินค้า (อคส.) นำเข้าแต่เพียงผู้เดียว ในอัตราภาษีร้อยละ 20 ปริมาณ 57,000 ตัน ได้ปรับใหม่ โดยให้ อคส. และผู้นำเข้าทั่วไปสามารถนำเข้าได้ ในอัตราภาษีร้อยละ 0 ปริมาณไม่เกิน 600,000 ตัน ซึ่งหากมีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวสาลี และข้าวบาร์เลย์ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา รวมทุกช่องทางปริมาณเกินกว่า 1.20 ล้านตัน ให้สิ้นสุดการผ่อนปรนและกลับไปใช้มาตรการเดิม

ทั้งนี้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หมายถึง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เพาะปลูกเพื่อนำเมล็ดมาใช้ผสมเป็นอาหารสัตว์และอื่น ๆ ยกเว้นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ทำการเพาะปลูกเพื่อผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์ โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีเพาะปลูก 2565/66 แบ่งเป็น รุ่น 1  (ฤดูฝน) แบ่งออกเป็น ต้นฤดูฝน ปลูกระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2565 ถึง 31 กรกฎาคม 2565 และ ปลายฤดูฝน ปลูกระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2565 ถึง 31 ตุลาคม 2565 ซึ่งผลผลิตทั้งต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝน จะเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนมิถุนายน 2565 ถึง กุมภาพันธ์ 2566 และ รุ่น 2 (ฤดูแล้ง) ปลูกระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ถึง พฤษภาคม 2566 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไชยา' ลั่นปรับครม.กี่ครั้งก็ตาม ก.เกษตรฯต้องอยู่กับเพื่อไทย

นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายชื่อถูกปรับออก ว่าตนทราบตามข่าว ไม่ได้หวั่นไหวอะไร และ 7 เดือนที่ผ่านมา ทำหน้าที่ในกรอบในข้อจำกัดของงบประมาณ ถ้าหากเป็นไปตามนโยบายของผู้ใหญ่ตนก็ไม่ขัดข้อง ก็แล้วแต่

รัฐบาลขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทย สู่การเป็นศูนย์กลางฯผ่าน 9 นโยบายสำคัญ

โฆษกรัฐบาลเผยรัฐบาลขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก ผ่าน 9 นโยบายสำคัญ พร้อมเดินหน้ายกระดับเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร 3 เท่า ใน 4 ปี

'สว.พลเดช' กังขา ทีมพญานาคราช ก.เกษตรฯ เรียกรับกล้วย แลกถอนอายัดยางก้อน

นพ.พลเดช ปิ่นประทีป สว. อภิปรายตอนหนึ่งว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์อายัดยางของชาวบ้านที่อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กรมวิชาการเกษตรเซ็นคำสั่งดำเนินคดีหจก.ธิติพงษ์ การยาง

19 เด็กไร้สัญชาติ ถูกออกเรียนกลางคันอีก รัฐส่งกลับพม่าหลังไปเรียนอยู่ลพบุรี

19 เด็กไร้สัญชาติถูกออกเรียนกลางคันอีก พม.จับมือตม.เตรียมส่งกลับฝั่งพม่าหลังพบไปเรียนอยู่ลพบุรี มูลนิธิบ้านครูน้ำยื่น กสม.สอบด่วนเผยละเมิดสิทธิเด็กซึ่งหนีภัยการสู้รบ-ยาเสพติด

โฆษกรัฐบาล โวผลงานนายกฯ ดันราคายางพุ่งทะลุ 90 บาท สูงสุดในรอบ 7 ปี

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลสำเร็จของนโยบายขับเคลื่อนยางพาราไทยของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งล่าสุดราคายางพาราสูงขึ้นทะลุ 90 บาท ถือเป็นราคาสูงที่สุดในรอบ 7 ปี

เปิดทำเนียบ เคลียร์ปมที่ดินพิพาทเขาใหญ่ 'ชัยวัฒน์' ประกาศลั่นจบหล่อไม่ได้ ต้องมีคนผิด

นายจตุพร​ บุรุษ​พัฒน์​ ปลัด​กระทรวง​ทรัพยากร​ธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม​ กล่าวว่า​ การประชุมวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกคนให้ข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ ทั้งสองกระทรวงมีเป้าหมายทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งในส่วนของกระทรวงทรัพย์ฯ นอกจากดูแลป่าและทะเลแล้วบางส่วน ก็ดูแลพื้นที่ของประชาชน