ช่วยพาอำนาจกลับสู่มือประชาชน ! “ยุทธพร” วิเคราะห์ "ภูมิใจไทย" ปมปิดสวิตช์ ส.ว.คืนการเมืองไทย กลับสู่วิถีประชาธิปไตย

วันที่ 10 กันยายน 2565 รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ให้ความเห็นกรณี ลงมติเรื่องของการปิดสวิตช์ ส.ว.ของพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า

เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของพรคภูมิใจไทย ที่ผ่านมา กระแสสังคม และความเห็นของภาคส่วนต่างๆ หรือในบางกลุ่มของ ส.ว. จำนวนไม่น้อย ก็สนับสนุนในการปิดสวิตซ์ ส.ว. เพราะการปิดสวิตซ์ ส.ว. เป็นโจทย์ใหญ่ หากต้องการให้อำนาจของ คสช. หมดไปจากการเมืองไทย และเป็นการเพิ่มอำนาจให้ประชาชน

จะเห็นได้ว่าหลังการเลือกตั้งปี 2562 มา การเมืองไทยก็ยังอยู่ในภาวะ ประชาธิปไตยที่ถูกควบคุม ซึ่งมีกลไกลทางรัฐธรรมนูญกำกับเอาไว้ โดยการควบคุมข้างต้น ปฏิบัติการผ่านบทบาทของ ส.ว. 250 คน ซึ่งมาจากการแต่งตั้งของ คสช. ทำให้ ส.ว. เป็นสภาถ่วงดุลกับสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่เป็นตัวแทนประชาชน แต่กลับต้องมาคอยพะวงกับ ส.ว.

ทำให้เสียงของประชาชนไม่สามารถเป็นเสียงที่มีน้ำหนัก ในการสะท้อนความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง เมื่อวันนี้พรรคภูมิใจไทยต้องการสะท้อนถึงเจตจํานงของประชน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง จะสะท้อนภาพเชิงบวกให้กับพรรคภูมิใจไทย เพราะที่ผ่านมาการไปร่วมตั้งรัฐบาลกับพลเอกประยุทธ์ ก็ถูกโจมตีสาหัส ทั้งที่ในความเป็นจริง เป็นอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะเห็นแล้วว่า ปี 62 ฟากนั้น รวมเสียงได้เกินครึ่งหนึ่งของสภา ส.ส. และ ส.ว. พรรคจึงตัดสินใจเดินไปทางนั้น ดีกว่า ไปกับอีกฝ่าย แล้วอาจจะกลายเป็นพากันเข้าซอยตัน แต่เขาคงไม่สบายใจ ที่ต้องตัดสินใจ โดยมี ส.ว.มาเป็นเงื่อนไข และการโหวตปิดสวิตช์ ส.ว.มันก็เป็นคำตอบว่าพรรครู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ตอนนั้น ที่การเมือง มันฝืนธรรมชาติ เพราะเขาเลือกไม่ยกมือ งดออกเสียงก็ได้ แต่นี่เลือกอยู่คนละฝ่ายกับ ส.ว.เลย

แน่นอนว่ากลุ่ม 3 ป. อาจไม่พอใจ ในการไปแตะประเด็นอำนาจ ส.ว. แต่อีกมุมก็ต้องมองว่ารัฐบาลจะอยู่ได้ก็ต้องอาศัยพรรคร่วมรัฐบาล  โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากเป็นพรรคที่มีคะแนนเสียงเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล ขณะเดัยวกัน ส่วนของพรรคพลังประชารัฐ มีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างภายในพรรค ทำให้วันนี้พลังประชารัฐมีคะแนนเสียงต่ำกว่า 100 แล้วสถานการณ์ก็ยังไม่สงบ จึงจะเห็นได้ว่าภูมิใจไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่จะพยุงรัฐบาลไว้ ดังนั้นถึงจะมีเห็นต่างกันบ้าง ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับการร่วมรัฐบาล เพียงแต่ทุกพรรค ต้องใช้โอกาสนี้ เพื่อสะท้อนจุดยืนด้านประชาธิปไตยของตัวเอง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ไม่กังวลแบงก์ชาติท้วงแจกเงินดิจิทัล ชี้หากไม่ถูกกฎหมาย กฤษฎีกา-สภาพัฒน์ต้องแจ้งมา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย มีหนังสือเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

'อนุทิน' การันตี ภท. ไม่ปรับ ครม. ชี้ 8 รมต. ทำงานคืบหน้า

'อนุทิน' ย้ำรัฐมนตรีภูมิใจไทย 8 คน ไม่มีขยับ ชี้ทุกคนทำงานเต็มที่ผลักดันนโยบายคืบหน้าตลอด นายกฯ ยังไม่ส่งสัญญาณปรับ ครม. พร้อมอุ้ม 'เกรียง' มอบ พช. ดูแลเพิ่มอีกกรม

เร่งทำงานหนัก 'ชลน่าน' ลงพื้นที่ปัตตานีพาหมอไปหาประชาชนฯ

หมอชลน่านลงปัตตานีเปิดโครงการพาหมอไปหาประชาชนฯ จัดคลินิกคัดกรองความผิดปกติบนใบหน้าและมือเด็ก ช่วยเข้าถึงการผ่าตัดแก้ไขปัญหา

โควิดสงกรานต์พุ่ง! ไทยติดเชื้อรอบสัปดาห์ 849 ราย

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 7 - 13 เมษายน 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) 849 ราย

ตัดเกรด7เดือน “หนู”ในดง“สิงห์”

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ถึงฤดูตัดเกรดทางการเมืองเริ่มขึ้นแล้ว หลายกระทรวงทำผลงานได้เข้าเป้า บางกระทรวงผลงานยังไม่ออกมา เพราะติดปัญหาต่างๆ ถูกสกัดด้วยเรื่องข้อกฎหมาย งบประมาณ และเกมการเมืองต่างๆ

“อนุทิน” อวยพรสงกรานต์ ขอ “ประชาชน” ไร้ทุกข์ ไร้โศก มีแต่ความสุขกายสบายใจ

13 เมษายน 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเนื่องในเทศกาลสงกรานต์