ครม. เห็นชอบแนวทางปรับโครงสร้างหนี้ เกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย 50,621 ราย เตรียมทำสัญญา ปคน. กับเจ้าหนี้ 4 แบงก์รัฐได้ภายในเดือนมีนาคมนี้

วันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยนายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมด้วย นางสาวภุมรี เพ็งกลาง หัวหน้าส่วนงานเลขานุการ นายภาณุพันธ์ บำรุงสุข หัวหน้าส่วนจัดการหนี้ 1 นายสิทธิชัย ล้อตระกูล พนักงานอาวุโส ส่วนนโยบายและแผน ได้เข้าประชุมคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ 11/2566 โดยเลขาธิการได้นำเสนอวาระพิจารณาจร วาระที่ 13 เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแนวทางปรับโครงสร้างหนี้ให้ธนาคารรัฐ 4 แห่ง ได้แก่ ธกส. ธ.ออมสิน ธ.อาคารสงเคราะห์ และ ธ.เอสเอ็มอี

สาระสำคัญที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบครั้งนี้

1. เห็นชอบให้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิก กฟก. ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 65

2. เห็นชอบให้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง จัดทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ให้กับเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 52,621 ราย โดยให้เกษตรกรรับหนี้เงินต้นครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ส่วนเงินต้นอีกครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายของเกษตรกรที่ปิดบัญชีแต่ละราย แต่ละสถาบันเจ้าหนี้เป็นจำนวนเท่าใดให้ธนารารเจ้าหนี้ทั้ง 4 แห่ง ขอชดเชยในภายหลัง

3. การขอเงินชดเชยที่เกษตรกรในโครงการได้ชำระหนี้ปิดบัญชีในแต่ละปี ให้ธนาคารของรัฐทั้ง 4 แห่ง ร่วมกับ กฟก.จัดทำแผนขอรับเงินชดเชย โดยให้บรรจุในแผนปีงบประมาณประจำปีตามจำนวนที่เกษตรกรได้ปิดบัญชีในปีนั้น ๆ

4. การดำเนินโครงการตามที่กำหนดไว้ หากตรวจสอบข้อมูลในภายหลังแล้วพบว่าเกษตรกรรายใดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้องเป็นไปตามแนวทางที่เสนอตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 65 ให้เกษตรกรได้รับสิทธิปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้จำนวนรายและกรอบวงเงินชดเชยตามที่เสนอ และให้โครงการมีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี โดยมีผลตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติในครั้งนี้

นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการกองทุนฯ กล่าวว่า เมื่อ ครม. ได้เห็นชอบตามที่สนง.เสนอแล้ว ขั้นตอนต่อไป เกษตรกรจะต้องไปทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ คาดว่าจะทำสัญญาได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งขณะนี้ สนง. กฟก. และสถาบันเจ้าหนี้ทั้ง 4 แห่ง ได้กำหนดแนวทางปฎิบัติไว้เรียบร้อยแล้วซึ่งมี 11 ขั้นตอน อยู่ระหว่างการประชุมซักซ้อมความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานในพื้นที่ทั้งในส่วนของ กฟก. และเจ้าหนี้คาดว่าจะสามารถชี้แจงและดำเนินการให้กับพี่น้องเกษตรกรได้สำเร็จตามเป้าหมาย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'

นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568

นายกฯ แจ้งพรรคร่วม รอฟังสัญญาณ 12 ธ.ค.

“อนุทิน” แจ้งพรรคร่วมฯสแตนด์บายรอฟังสัญญาณ12ธ.ค.นี้  จ่อชง ครม.จัดทำประชามติร่างแก้รธน. ก่อนเสนอปธ.สภาเปิดสมัยวิสามัญแก้รัฐธรรมนูญ 10-11ธ.ค.นี้ ตั้ง ”ศุภมาส“ แม่ทัพดูแลเมืองหลวง

ชง​ ครม. เยียวยาน้ำท่วมเพิ่ม จ่าย 4 ขั้นบันได​​ 30-60-90-120 วัน​

'ภราดร' ชง​ ครม. เยียวยาอุทกภัยเพิ่ม จ่าย 4 ขั้นบันได​ ตามเวลาน้ำท่วม​ 30-60-90-120 วัน​ เป็นรายเดือน​นับตั้งแต่ประสบภัยวันแรก​ ใช้งบกลางให้สมน้ำสมเนื้อ

‘ตรีนุช’ ชงครม.หาแนวทางจัดการแรงงานเขมรหมดอายุ รอทบทวนผลักดันออกนอกประเทศหรือไม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดการแรงงานกัมพูชาในประเทศไทย ภายหลัง

ดีอี ชง ครม. เคาะมาตรการสกัดส่ง e-mail แนบลิงก์หลอกลวง

นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการป้องกันและปราบปราม การใช้ e-mail แอบอ้างหน่วยงานเพื่อหลอกลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

เลขาธิการนายกฯ แจง ครม. ไม่สั่งห้ามกิจกรรมรื่นเริง เพียงขอปรับรูปแบบให้เหมาะสม

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธาน ได้มีมติให้ภาคเอกชนงดกิจกรรมรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน