เทคฟันด์ เผยในรอบ 6 ปี สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมได้กว่า 1,937 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดช ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ เทคฟันด์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า เทคฟันด์ ดำเนินงาน ภายใต้วิสัยทัศน์ “แหล่งเงินทุนและองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ยกระดับความสามารถในการแข่งขันและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศ” ให้ทุนสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2559-2565 ไปแล้ว 670 โครงการ รวมมูลค่าการสนับสนุนกว่า 653 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับประเทศไทยได้อย่างมากมาย  โดยจากการประเมินผลการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ระหว่างปี 2561-2565 เทคฟันด์ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมได้กว่า 1,937 ล้านบาท โดยพื้นที่ภาคเหนือ มีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมอยู่ที่ 200 กว่าล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมของภาครัฐในการลงทุนสนับสนุนผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรมในพื้นที่ และมีการเติบโตให้เห็นอย่างก้าวกระโดด

ดร.ชาญวิทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เทคฟันด์ สนับสนุนผู้ประกอบการภายใต้ 3 โครงการใหญ่ด้วยกัน คือ 1.โครงการยุววิสาหกิจเริ่มต้น หรือ TED Youth Startup กลุ่มเป้าหมาย คือ นิสิต นักศึกษา และบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 5 ปี มีการสนับสนุนทุนใน 2 โปรแกรม หลัก คือ 1. Ideation Incentive Program (Idea) มูลค่า 100,000 บาท ตั้งเป้าการสนับสนุนอยู่ที่ 200 โครงการ และ 2. โปรแกรม Proof of Concept (POC) สนับสนุนทุนตั้งแต่ 750,000-1,500,000 บาท เป็นรูปแบบทุนอุดหนุนสมทบบางส่วน เพื่อให้ผู้ประกอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบและนำไปพิสูจน์ความเป็นไปได้ด้านการตลาด 2.โครงการส่งเสริมการขยายตลาดและธุรกิจของผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Market Scaling Up) สนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถขับเคลื่อนและนำผลงานนวัตกรรมไปสู่การขยายผล เพื่อสร้างผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ประเทศได้ โดยให้การสนับสนุนสูงสุดอยู่ที่ 2,000,000 บาทต่อโครงการ  ตั้งเป้าการสนับสนุนอยู่ที่จำนวน  40  โครงการ และ 3.โครงการพัฒนาภาคเอกชนเพื่อการยกระดับระบบนิเวศการสร้างผู้ประกอบการอย่างยั่งยืน (Startups for Startups)  ซึ่งจะมีความแตกต่างจากการสนับสนุนของโครงการอื่นๆ ที่เน้นการพัฒนา ผลิตภัณฑ์หรือบริการสู่ผู้บริโภคในวงกว้าง (B2C : Business to Consumer) เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยโครงการ Startups for Startups จะให้การสนับสนุนสูงสุดอยู่ที่ 2,000,000 บาท ต่อโครงการ ตั้งเป้าการสนับสนุนอยู่ที่จำนวน 5 โครงการ รวมทั้ง 3 โครงการ จะสนับสนุนทั้งสิ้น 245 โครงการ มูลค่า 290 ล้านบาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ศุภมาส” จัดเต็ม ! ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ขนทัพมหาวิทยาลัยจากทั่วประเทศรวมไว้ในที่เดียว พร้อมเปิดงาน One Stop Open House 2024 มหกรรมการศึกษาครั้งยิ่งใหญ่

วันที่ 27 พ.ย.67 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงาน “One Stop Open House 2024”

เดินหน้าต่อเนื่อง! "ศุภมาส" ประกาศจัดงาน "One Stop Open House 2024" สานต่อความสำเร็จของ "อว.แฟร์"

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แถลงข่าวประกาศความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของการจัด งาน "อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND" ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 - 28 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมประกาศการเตรียมจัดงาน "One Stop Open House 2024" ภายใต้แนวคิด "อนาคตของคุณเริ่มต้นที่นี่:

อว.หนุนเต็มที่ ! "ศุภชัย" เปิดประชุมนานาชาติด้านชีววิทยาสังเคราะห์ SynBio Consortium 2024

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องอีเทอร์นิตี้ บอลรูม โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวศุภมาส อิศรภักดี

ไปแอ่วหละปูนกันเต๊อะ ยลมหานครโคมโลก !

ประเด็น "การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล" ในไหล่ทวีป 26,400 ตารางกิโลเมตร ระหว่างไทย-กัมพูชา กลับมาเป็นเรื่องร้อนๆ ที่ถูกพูดถึงทางการเมืองอีกครั้ง