ม.รังสิต เชิญครูแนะแนวทั่วประเทศร่วมงาน “แนะแนวยุค Generative AI”

ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บุคลากรมหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมงานโครงการแนะแนวสัมพันธ์ “แนะแนวยุค Generative AI” โดยภายในงานมีการบรรยายในหัวข้อต่างๆ อาทิ “วิสัยทัศน์ใหม่มหาวิทยาลัยรังสิต ด้านแผนและพัฒนา” โดย ผศ.ดร.นฤพนธ์ ไชยยศ รองอธิการบดีฝ่ายแผนและพัฒนา “ทิศทางยุทธศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม” โดย ผศ.ดร.นเรฏฐ์ พันธราธร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย “ความเป็นเลิศด้านการศึกษา (Excellence in Education)” โดย ผศ.ดร.ปถมาพร สุกปลั่ง รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ “การบูรณาการกิจกรรม-วิชาการ พัฒนาทักษะ Hard Skill & Soft Skill” โดย รศ.ดร.กฤษณ์ ทองเลิศ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา รวมทั้งการบรรยายใน หัวข้อ “แนะแนวด้วย Chat GPT และ Generative AI” โดย ผศ.ดร.ธรรณพ อารีพรรค วิทยาลัยนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี กิจกรรมการแนะแนวด้วยสัมผัสหัวใจของความเป็นมนุษย์ โดย ดร.วรชาติ เฉิดชมจันทร์ รวมทั้งการบรรยายเรื่อง “นวัตกรรมจากการแพทย์แผนตะวันออก : ทางเลือกอาชีพและโอกาสต่อยอดธุรกิจ” โดยอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งภายในงานมีครูแนะแนวจากทั่วประเทศร่วมงาน ณ โรงแรมเมอเวนพิค สยามโฮเทล นาจอมเทียนพัทยา จังหวัดชลบุรี  ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดี เปิดเผยว่า กิจกรรมแนะแนวทางมหาวิทยาลัยรังสิตได้ดำเนินการจัดทำมาอย่างต่อเนื่องในทุกปี  แต่เนื่องจาก 4 ปี ที่ผ่านมา มีสถานการณ์โควิดเลยต้องหยุดไป จริงๆแล้วการจัดงานแนะแนวเป็นการให้ความรู้ว่า แต่ละปีมีเทรนด์อะไรใหม่บ้างในสังคมวิชาการ ซึ่งการจัดกิจกรรมแนะแนวทำให้ได้มาร่วมพูดคุย พบเจอกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน และในครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่กลับมาเจอกันหลังจากห่างหายไปนานถึง 4 ปี นับว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้เจอครูแนะแนวและผู้เกี่ยวข้องในสภาพแวดล้อมที่เป็นกันเอง การจัดงานครั้งนี้นับเป็นโอกาสดีและเป็นการมาร่วมแชร์ประสบการณ์ พูดคุยสิ่งที่เป็นประโยชน์ ที่เป็นเทรนด์ใหม่ๆ ทั้งเรื่องไอที เรื่องวิชาการ เรื่องกิจกรรม หรือแม้แต่เรื่องความสำคัญของสมุนไพรไทย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างประโยชน์ให้ประเทศอย่างมหาศาล ทางด้าน มหาวิทยาลัยรังสิตมีมากกว่า 30 คณะ มีหลักสูตรมากกว่า 150 หลักสูตร มีความหลากหลาย เป็นมหาวิทยาลัยที่มีหลายหลักสูตรมากมาย ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมแนะแนวเพื่อนำไปสานต่อให้เกิดประโยชน์ต่อไป

ในการแนะแนวครั้งนี้ หัวข้อที่มีความน่าสนใจโดดเด่น คือ เรื่องของนวัตกรรมจากการแพทย์แผนตะวันออก โดยอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งอาจารย์ปานเทพ เปิดเผยว่า ในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา คนไทยมีอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 30 ปี ในปัจจุบันอายุประมาณ 70  ปี ซึ่งแปลว่าเราอายุยืนกว่าเดิม และมีแนวโน้มว่าจะมีอายุยืนมากขึ้นเรื่อยๆ นับจากปี 2562 ถือว่าเป็นปีแรกที่เรามีสังคมผู้สูงวัยเท่าๆกับปริมาณคนวัยเด็ก  หลังจากนั้น จำนวนผู้สูงวัยก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนอยู่ในสถานการณ์ที่เราเรียกว่าเป็นสังคมผู้สูงวัยเต็มที่และกำลังจะรุนแรงมากขึ้น จากสถานการณ์นี้เอง ในปัจจุบันถือว่ามีแนวโน้มสังคมผู้สูงวัยที่จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ  แต่ถ้าเราดูทางการแพทย์ ในปัจจุบันเรามีบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอ ถ้าสัดส่วนผู้สูงวัยเพิ่มมากขึ้นอีกแปลว่าบุคลากรทางการแพทย์จะยิ่งไม่พอ ดังนั้นทางออกทางหนึ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือ ให้หน่วยครอบครัว เป็นหน่วยที่สามารถดูแลรักษา ให้การเจ็บป่วยพึ่งพาตนเองให้มากขึ้น พึ่งพาหมอให้น้อยลง ซึ่งนั่นคือข้อหนึ่งของการให้ความรู้เพื่อใช้สมุนไพรในบ้าน เพื่อพึ่งพาตนเองในปัจจุบันเราสามารถผลิตบุคลากรทางการแพทย์แผนไทยได้มากขึ้น ซึ่ง ม.รังสิต มีแพทย์แผนไทยประเภท ก.และประเภท ข. ประเภท ก. คือใครเรียนก็ได้ ไม่จำกัดว่าต้องจบ ม.6 มาเรียน ส่วนประเภท ข. คือแพทย์แผนไทยบัณฑิต ซึ่งจบปริญญาตรีเป็นแพทย์แผนไทยเลย โดยเราจะเพิ่มบุลลากรเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยได้ ทั้งการใช้หัตถการ คือ การนวด กดจุด รวมถึงการใช้สมุนไพรรักษา และวิถีของแพทย์แผนไทยมีอีกจำนวนมาก ซึ่งจะให้การเข้าคิวของชาวบ้านไม่ต้องรอโรงพยาบาลเพียงอย่างเดียว สามารถมีบุคลากรแพทย์แผนไทยเพิ่มเข้าไปในระบบสาธารณสุขมากขึ้น ซึ่งวิธีการนี้น่าจะเป็นวิธีหนึ่งที่ผ่อนคลายสถานการณ์ที่ขาดแพทย์อย่างรุนแรงในปัจจุบันได้ คือ ชาวบ้านพึ่งพาตนเองได้ ชาวบ้านพึ่งพาหมอแผนไทยได้มากขึ้น ม.รังสิต วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก เปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี 3 หลักสูตร คือ แพทย์แผนไทยบัณฑิต (พ.ทบ.) แพทย์แผนจีนบัณฑิต (พ.จบ.) และ วิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาการแพทย์แผนตะวันออก (ว.ทบ. (การแพทย์แผนตะวันออก)) ซึ่งสาขาเหล่านี้จะเร่งผลิตบุคลากรให้เพียงพอกับสังคมผู้สูงวัยได้ปัจจุบัน ม.รังสิต มีการทำวิจัยในเรื่องของกัญชา ทั้งในแง่ของการช่วยลดอาการข้างเคียง จากการให้คีโม หรือการบำบัดฉายแสง ของผู้ป่วยมะเร็ง ขณะเดียวกันเราค้นพบสารบางตัว ที่ทดลองแล้วซึ่งให้ผลดีในเรื่องของการยับยั้ง แต่ไม่ถึงขั้นรักษา เป็นการยับยั้งในเรื่องของมะเร็งปอดในสัตว์ทดลองได้ดี นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่น่าจะวิจัย ในการช่วยลดการอักเสบ ของผู้ป่วยลองโควิด ซึ่งต้องมีการเก็บตัวอย่างและวิจัยในมนุษย์ต่อไป ฉะนั้นกัญชาในสถานการณ์ทางการแพทย์มีความก้าวหน้ามากขึ้นตามลำดับ ในปัจจุบันวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออกของ ม.รังสิต มีการเปิดคลินิกกัญชาโดยเฉพาะ สำหรับผู้ป่วยโดยตรง แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีข้อถกเถียงในสังคมว่า กัญชาจะกลับไปเป็นยาเสพติดไหม สำหรับในมุมมองของแพทย์แผนตะวันออกเรามองว่า มันคือสมุนไพร เหตุผลเพราะว่าเมื่อเทียบกับอัตราการเสพติดของเหล้าและบุหรี่ จะเห็นได้ว่าต่ำกว่าบุหรี่ 5 เท่าตัว และต่ำกว่าแอลกอฮอล์ประมาณครึ่งหนึ่ง  ซึ่งแปลว่าเสพติดยากกว่าบุหรี่และเหล้า ดังนั้นเรามองว่ามันมีสรรพคุณของสมุนไพรมากกว่ายาเสพติด  แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีผลเสีย เพราะงานวิจัยทั่วโลก สมุนไพรมีทั้งผลดีและผลเสีย ถ้าใช้เป็นจะเกิดประโยชน์ในเรื่องของการสาธารณสุข ที่สามารถใช้ได้ ฉะนั้นการให้ความรู้กับประชาชนน่าจะเป็นประโยชน์ดีกว่าการกลับไปเป็นยาเสพติด อย่างในต่างประเทศกัญชาเข้าไปถึงครัวเรือน ปรากฏว่าเค้าสามารถลดนำเข้ายาต่างประเทศหลายชนิด เช่น ยานอนหลับ ยาแก้ปวด ยาแก้เครียด เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำมาใช้ให้เป็นความรู้ต่อประชาชน ส่วนปัญหาเด็กและเยาวชนเป็นปัญหาใหญ่ ที่ไม่ควรเข้าถึงกัญชา อันนั้นเป็นมาตรการการลงโทษ การกระทำความผิด ของผู้ที่ไม่ทำตามกฎหมาย ซึ่งต้องมีการแยกแยะกัน ซึ่งถ้ารัฐบาลชัดเจนในเรื่องการเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดก็จะน่าเสียดายมาก เพราะโอกาสที่ประชาชนจะลดการพึ่งพาการนำยาจากต่างประเทศ หรือการลดการพึ่งพาหมอก็จะทำให้สังคมผู้สูงวัยไม่ต้องพึ่งพาหมอ ก็จะกลับมาที่เดิมอย่างเช่นอัตราการเกิดไข้หวัดใหญ่ในปี 2566 นำหน้าปี 2565 หลายเท่าตัว และทำให้เกิดการระบาดไข้หวัดใหญ่ที่มีอาการหนัก เพียงแต่อัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าโควิด อย่างไรก็ตามเพื่อให้สังคมรับรู้ในการใช้สมุนไพรพื้นฐาน ข้อแรกคือ ยังไม่ป่วยต้องกินผัก ผลไม้ และการออกกำลัง พักผ่อนให้เพียงพอเป็นพื้นฐาน ข้อสอง สมุนไพรพื้นฐานอย่างฟ้าทลายโจร สามารถยับยั้งไวรัสโดยรวม และใช้กับไข้หวัดใหญ่มานานแล้ว ดังนั้น ไข้หวัดใหญ่ระลอกนี้ เท่าที่มีการเก็บสถิติข้อมูลแนะนำให้กิน 4 เม็ดต่อครั้ง และ 4 ครั้งต่อวันเป็นมาตรฐาน และให้รีบกินก่อนมีไข้ หากมีอาการไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล หรือปวดตามร่างกาย หากเกิดอาการรีบกินทันทีดีที่สุด ซึ่งจะช่วยลดภาระโรงพยาบาลในขณะนี้ได้ นอกจากนี้สมุนไพรที่ประยุกต์ใช้ได้ เป็นตำรับยา ซึ่งอยู่ในคัมภีร์ตักศิลา เช่น ยาห้าราก หรือยาขาว ซึ่งยับยั้งไวรัสและโรคระบาดหลายชนิด ซึ่งเป็นตำรับยาที่สามารถไปรับบริการที่คลินิกแพทย์แผนไทยได้

มหาวิทยาลัยรังสิต พัฒนาหลักสูตรให้เป็นหมอที่มีภาคปฏิบัติ ควบคู่ไปกับภาควิชาการ โดยเรื่องที่น่าดีใจคือ แม้ว่าการสอบเข้าจะไม่ยาก แต่เราติด 1 ใน 4 อันดับแรกของการสอบใบประกอบวิชาชีพของแพทย์แผนไทยทั้งประเทศ และเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของทางด้านเอกชน ที่เปิดการเรียนการสอบของแพทย์แผนไทยที่มีมาตรฐานการสอบสูงมาก

หลักสูตรขณะนี้ต้องยอมรับว่า เราได้มีการปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้น ต้องมีประสบการณ์ในภาคปฏิบัติตั้งแต่ปี 1 เช่น การฝังเข็ม เราให้ทดสอบฝังเข็มตั้งแต่ปฐมนิเทศเลย คือ มีหมอแผนจีนคอยกำกับดูและอยู่ และในทางการแพทย์แผนไทยบัณฑิตในปี 1 เทอม 2 เราให้ลงในภาคปฏิบัติ เน้นภาคปฏิบัติควบคู่ไปกับภาควิชาการ อันนี้คือข้อเด่นของมหาวิทยาลัย และอัตราการสอบวิชาชีพสูงมากโดยเฉพาะการเปิดหลักสูตรแพทย์แผนไทยประเภท ก. ซึ่งประเภทบุคคลทั่วไปใครๆก็เรียนได้ เสาร์ อาทิตย์ เรียน 3 ปี สามารถสอบใบประกอบวิชาชีพได้ ปรากฏว่ารุ่นปี 2565 คือ รุ่นล่าสุดเราสามารถทำการสอบประกอบวิชาชีพเวชกรรมไทยและเภสัชกรรมไทย ได้ร้อยละ 100 คือ ยกรุ่น ได้ทั้งหมด ซึ่งอันนี้สะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพการเรียนการสอนของเราเป็นมาตรฐานที่สามารถมีคุณภาพในการเรียนการสอนได้

นอกจากนั้นแล้วเราก็ให้มีการออกหน่วยทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือสังคมด้วย เพราะฉะนั้นนักศึกษาที่จบมหาวิทยาลัยรังสิต จะได้หลายสิ่งหลายอย่างเป็นประสบการณ์โดยตรง และนอกจากนี้จะเน้นการบูรณาการข้ามศาสตร์  ดังนั้นนักศึกษาของ ม.รังสิตที่เป็นแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนจีน หรือนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพรจะมีทักษะการเรียนที่ไม่มีการจบตลอดชีวิต หมายความว่าเค้าพัฒนาได้ตลอดชีวิต นั่นก็คือวิธีการเรียนรู้ ซึ่งจะทำให้มีอัตลักษณ์และความแตกต่างเป็นผู้ที่มีการเปิดรับเปิดกว้าง ในแง่ของการร่วมงานกับผู้ประกอบอาชีพที่มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งเรามีตัวอย่าง นศ.จบไปตั้งแต่เริ่มจากศูนย์ จนปัจจุบันมีคลินิกแพทย์แผนไทยมีเฟรนด์ไชน์แพทย์แผนตะวันออก 20 สาขาทั่วประเทศ หรือมี นศ.บางคนที่จบไป เป็นรอง ผอ.แพทย์แผนไทย ของทางด้านราชการได้ ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นทั้งผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ออกแบบผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เป็นหมอ มีเครือข่ายคลินิกของตัวเอง และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพในหน่วยงานราชการได้เช่นเดียวกัน ทั้งหมดนี้คือ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงใน มหาวิทยาลัยรังสิต

วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก แตกต่างจากแพทย์แผนไทย หรือแพทย์แผนจีนที่อื่น เพราะเรามีวิชาที่แพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีนตลอดจนการบูรณาการแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์อินเดีย อยู่ในภูมิปัญญาตะวันออก ดังนั้นความโดดเด่นของ วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต คือการบูรณาการและการทำงานร่วมกันข้ามศาสตร์ มีความหลากหลาย ซึ่งแห่งอื่นอาจจะมีแพทย์แผนไทยอย่างเดียว หรือมีแพทย์แผนจีน หรือแพทย์แผนปัจจุบันเพียงอย่างเดียว แต่เนื่องจากมหาวิทยาลัยรังสิต มีคณะแพทย์ศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ และยังมีแพทย์แผนไทยบัณฑิต มีแพทย์แผนจีนบัณฑิต และความเป็นตะวันออกของเราจึงมีการบูรณาการทั้งภูมิปัญญาทางฝั่งซีกโลกตะวันออกและวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ที่มีการรองรับทำให้เราสามารถมีลักษณะบูรณาการทั้งภูมิปัญญาและบูรณาการงานวิจัยยุคใหม่เข้าด้วยกันได้ นี่คือ อัตลักษณ์และความแตกต่างของความเป็นแพทย์แผนตะวันออกของมหาวิทยาลัยรังสิต

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักวิชาการชม 'บิ๊กทิน' แก้กฎหมายป้องกันรัฐประหาร ชี้เป็นสารตั้งต้นปรับภาพลักษณ์กองทัพ

นักวิชาการ มอง 'สุทิน' เป็นหน้าเป็นตาให้รัฐบาล ถ้าจะปรับออกถือว่าคิดพลาด ชี้แก้กฎหมายป้องกัน รปห. เป็นสารตั้งต้นปรับภาพลักษณ์กองทัพ เพิ่มความสง่างาม ทำได้เพราะผู้นำเหล่าทัพมีหัวสมัยใหม่

"บิ๊กซี" จับมือ "ททท." สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวไทย ผ่าน 2 แคมเปญใหญ่

บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าส่งเสริมท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้นำจุดหมายของนักท่องเที่ยว

DITP และ GIT ผนึกกำลัง 13 องค์กรพันธมิตร เตรียมจัด “บางกอกเจมส์” ครั้งที่ 69

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT

ครบรอบ 51 ปี การเคหะแห่งชาติ แถลงผลงานดำเนินงาน เผยแผนขับเคลื่อนปี 67

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติ มีภารกิจหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุมชน และเมือง

เปิดตัว Leadership Poll โพลผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง

ที่ห้องประชุม 1-308 อาคารอาทิตย์ อุไรรัตน์ (อาคาร 1) มหาวิทยาลัยรังสิต ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดตัวโครงการ “Leadership Poll” ภายในงานมีการแถลงข่าวผลสำรวจความคิดเห็นลีดเดอร์ชิพโพลล์ ครั้งที่ 1/2567